ปปส. แถลงจับเครือข่ายยาเสพติดใหญ่มาเลเซีย-ไต้หวัน

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.04.20
กรุงเทพฯ
TH-drug-suspects-1000 นายเซียงหมี่ ซื่อ ชาวไต้หวัน (ซ้ายมือ) และนายตันฮัน เซียง ชาวมาเลเซีย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ขณะรอการสอบสวน ที่อาคารสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด วันที่ 20 เมษายน 2560
เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดี (20 เมษายน 2560) นี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหา ในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติมาเลเซีย-ไต้หวัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยระบุว่า เครือข่ายนี้นำเงินเข้าออกประเทศไทยกว่า 2.7 พันล้านบาท เปิดบริษัทเพื่อใช้ฟอกเงิน 16 บริษัท

การแถลงผลปฎิบัติการครั้งนี้ มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัย ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วม

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินแผนปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/3” ได้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 9 จังหวัดเมื่อวานนี้ โดยครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท เป็นการปฏิบัติการตามยุทธการบูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดครั้งที่ 5/2560 “เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ”

พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รองผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาที่สามารถควบคุมตัวได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวมาระยะหนึ่งแล้ว และพบความผิดปกติทางบัญชี โดยมีเงินเกือบ 3 พันล้านบาท ถูกนำเข้าประเทศไทยโดยไม่ได้แจ้งจ่ายภาษี

“กลุ่มนี้ขนเงินจากไต้หวันเข้ามา จากรายงานของไต้หวันที่แทร็กกิ้งเรื่องนี้มาตลอด ตั้งแต่ปี 54 ถึงปัจจุบัน เขานำเงินเข้ามาแบบเปิดเผย เป็นเงินประมาณ 2,400 ล้านเหรียญไต้หวัน (เป็นเงินไทยประมาณ 2,700 ล้านบาท) จากที่เราติดตาม (ครั้งหนึ่ง) เขาแจ้งเอาเงินเข้ามาล้านเดียว แต่เอาเงินมาแลกถึง 6 ล้าน แสดงว่าที่เขานำเงินเข้ามาสองพันกว่าล้าน ข้อเท็จจริงอาจจะมากกว่านั้นอีก 5 เท่าก็ได้” พล.ต.ต.ศุภกิจกล่าว

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ปฎิบัติการจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมตัวนายชาง คิม ซุย และ นายลิม เยียน ฮุน ชาวมาเลเซีย พร้อมยึดไอซ์ น้ำหนัก 282 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาใหม่ 4 ราย ประกอบด้วยนายเซียงหมี่ ซื่อ หรือ เก็กกอ หรือจิมมี่ (Chang Mi Hsu) ชาวไต้หวัน นายตันฮัน เซียง หรือนายอาตัน (Tun Hun Seong) ชาวมาเลเซีย น.ส.วิภารัตน์ การดี และนางวลัยพรรณ เพ็ชรพงษ์ หรือเจ้ฟ่ง หรือฟ่งเจี่ย ชาวไทย สามารถอายัดทรัพย์สินได้ 36 รายการประกอบด้วย เงินสด 30 ล้านบาท และบัญชีเงินฝาก 17 บัญชี บ้าน รถยนต์ ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ รวมมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท

“เงินจำนวนมหาศาลที่เข้ามา มันก็สอดรับกับยาเสพติดที่ออกไปทางใต้พอสมควร และทางใต้ที่เราจับ 280 กว่ากิโลได้ เราเจอรถเซฟถึง 3 คัน ซึ่งรถแต่ละคันสามารถขนยาได้ทีละเป็นร้อยกิโล การขนยาจากประเทศเพื่อนบ้าน ลงมาทางภาคกลาง แล้วก็ไปทางภาคใต้ ขนยาโดยรถยนต์ ผ่านด่านสะเดา สำหรับนายตัน (ชาวมาเลเซีย) เป็นกลุ่มที่ทางผู้ต้องหาที่เราจับกุม ซัดทอดว่ายาทั้งหมดเป็นของนายตัน และมีการขนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง โดยใช้รถเซฟ” พล.ต.ต.ศุภกิจเพิ่มเติม

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัย ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนี้อยู่ในเครือข่ายยาเสพติด ที่มีขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา หรือนายสีสุก ดาวเรือง ชาวลาว โดยระบุว่า เงินที่ได้จากการขายยาเสพติดถูกนำมาผ่านบริษัท 16 บริษัท เพื่อฟอกเงิน

“ธุรกิจมีทั้งการให้กู้ การบันเทิง คาราโอเกะ โรงแรม รีสอร์ท ทุกอย่าง ไซซะนะเป็นแค่มดเล็กๆ ตัวนึงขององค์กรนี้เลย นี่ไม่ใช่เออีซี นี่มันข้ามโลกไปแล้ว มีเงินหมุนเวียนเป็นพันล้านที่รู้ มีการโอนเข้าออกระหว่างไทยและต่างประเทศ จากการสืบสวนมีผู้ต้องหาในเครือข่าย ผมต้องจับอีกเป็นพัน” พล.ต.ท.สมหมายกล่าว

เจ้าหน้าที่หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดกล่าว ความพยายามทำลายขบวนการค้ายาเสพติดที่มีความเป็นไปได้ว่า ส่วนหนึ่งใช้สนับสนุนผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาตใต้ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ ได้ออกแผน “ปฎิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/1” ในวันที่ 19 มกราคม 2560 สามารถจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว อายุ 42 ปี ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมพวกรวม 4 คน ในข้อหานำยาเสพติดประเภทหนึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูล และวางแผนจับกุมนายไซซะนะมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพได้รับฟ้องคดี แต่นายไซซะนะให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา แม้จะเคยสารภาพในชั้นสอบสวนก็ตาม

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” บุกเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยพร้อมกัน 39 จุด หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายอุปกรณ์แต่งรถแอเรีย 51 ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” สามีของ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท อาชีพนักแสดง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สงสัยว่านายอัครกิตติ์มีความเกี่ยวข้องทางการเงินกับนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยซึ่งเชื่อว่ารับยาเสพติดมาจากนายไซซะนะ เบื้องต้น นายอัครกิตติ์ปฎิเสธความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด

ปฎิบัติการชัยยะ สยบไพรีในเบื้องต้นถูกเรียกว่า “การจับกุมขบวนการยาเสพติดท้าวสีสุก ดาวเรือง” ซึ่งระบุว่านายไซซะนะเป็นหัวหน้าขบวนการ และถูกเชื่อมโยงถึงนายสีสุก ดาวเรือง นักธุรกิจชาวลาว ที่ล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่กรมป้องกันความสงบจับกุมตัว ในข้อหายาเสพติดในหลวงพระบาง

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง