เจ้าหน้าที่พบศพสองสามีภรรยา ถูกปล้นสังหารทิ้งลงแม่น้ำเทพา

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2017.03.01
สงขลา
TH-killing-1000 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบศพสองสามีภรรยา เจ้าของรถยนต์ที่ถูกปล้นฆ่า แล้วถูกคนร้ายนำศพไปทิ้งในแม่น้ำเทพา พบศพบริเวณใต้สะพานรวมใจภักดิ์ อ.เทพา จ.สงขลา วันที่ 1 มีนาคม 2560
ภาพโดย หน่วยกู้ชีพปัตตานี

ในวันพุธ (1 มีนาคม 2560) นี้ พ.ต.อ.วีรวุธ สันนะกิจ ผกก.สภ.เทพา ได้รับแจ้งว่า พบศพสองสามีภรรยา ที่ถูกคนร้ายปล้นรถยนต์เพื่อไปทำคาร์บอมบ์และถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งแม่น้ำเทพา

พ.ต.อ.วีรวุธ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต คือ นายกาจพน ภูววิมล อายุ 51 ปี และนางฐิตาภา ภูววิมล อายุ 41 ปี ถูกคนร้ายนำศพไปทิ้งในแม่น้ำเทพา ใต้สะพานรวมใจภักดิ์ ม.5 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา จากการตรวจสอบสภาพศพทั้งสองถูกตีที่ศีรษะ และคนร้ายได้ใช้เทปกาวปิดตา และมัดมือไพล่หลัง

พ.ต.อ.วีรวุธ กล่าวว่า ทั้งสองเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กม 9107 สงขลา ที่ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายก่อนนำรถไปประกอบเป็นรถคาร์บอมบ์ ที่เจ้าหน้าที่พบที่บริเวณฐานปฏิบัติการ ตชด.433 บ้านตาแปด ม.5 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2560 ซึ่งโชคดีที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้และยิงทำลายได้ทัน และตนเชื่อว่า คนร้ายได้ลงมือทำร้ายทั้งสองคนภายในสวนยางพาราหมู่ 6 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ก่อนจะนำมาทิ้งลงในแม่น้ำเทพาเพื่ออำพรางศพ ส่วนประเด็นและสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน

การเกิดเหตุเกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาของคณะผู้แทนรัฐบาลไทยและมาราปาตานี ในวันอังคารนี้ ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะทดลองตั้งเขตปลอดภัยนำร่องขึ้นมาหนึ่งเขต โดยจะเลือกพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งจากห้าพื้นที่ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ด้านแกนนำ BRN ระดับพื้นที่ ที่เคลื่อนไหวในจังหวัดยะลา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่บีอาร์เอ็นต้องการแสดงศักยภาพว่าขบวนการยังไม่ได้แตกแยก

"เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงนี้ BRN ทำขึ้นเพื่อต้องการแสดงศักยภาพของกลุ่มที่ว่ายังมีไม่ได้แตกสลายอย่างที่ทหารกล่าวอ้างลอยๆ และต้องการส่งสัญญาณไม่เห็นด้วยต่อการพูดคุย สิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าศาสนาไหนอะไรเราเสียใจ แต่เพื่อเป้าหมายที่สูงกว่า เราต้องยอมเจ็บบ้างเพื่อเป็นการต่อรองกับรัฐที่ไม่มีความจริงใจ แต่ก็ขอให้กำลังใจทุกคนทุกฝ่ายมีความตั้งใจแก้ปัญหาให้ถูกทาง " แกนนำคนดังกล่าวกล่าวแก่เบนาร์นิวส์โดยขอสงวนชื่อนามสกุล

ด้านนายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้กล่าวประณามการประทำอันโหดร้ายทางเฟซบุค

"มันโหดร้ายที่ผิดจากการกระทำของผู้ที่เป็นมนุษย์ มันโหดร้ายที่ผิดจากการกระทำของผู้ที่ยึดมั่นในหลักคำสอน ไม่รู้ว่ามันคือการกระทำของใคร ที่นับถือศาสนาไหน อยากประณามการกระทำเช่นนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับใคร นับถือศาสนาใด"

นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิ จังหวัดยะลา และคณะทำงานคุยสันติสุขระดับพื้นที่ กล่าวว่า แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์และเสนอให้จัดพื้นที่ปลอดภัยมากกว่าหนึ่งพื้นที่

"ไม่มีใครรับได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างเสียใจ การกำหนดเขตพื้นที่ปลอดภัยหรือเซฟตี้โซนเป็นความต้องการของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตัวมองว่าสมควรพิจารณาหลายพื้นที่ เพื่อประเมินและเปรียบเทียบการประเมินผล จะได้หลายรูปแบบในการใช้เป็นข้อมูลในการเจรจาพูดคุยครั้งต่อไป" นายนิมุ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง