ครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ 9 ประชาชนยังเปี่ยมความอาลัย

นนทรัฐ ไผ่เจริญ และวิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2017.10.12
กรุงเทพฯ
171012-TH-King-exhibition-1000.JPG ประชาชนยืนชมภาพที่ “ห้องหมายเลข 9” หนึ่งในงานแสดงนิทรรศการ “พระราชาในดวงใจ” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร วันที่ 12 ตุลาคม 2560
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช/เบนาร์นิวส์

แม้จวบจนวันนี้ วันครบรอบ 1 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต แต่ประชาชนชาวไทยอีกเป็นจำนวนมากยังคงระลึกถึงท่าน โศกเศร้ากับการสูญเสียครั้งสำคัญ ซึ่งได้กลายเป็นแรงผลักดันให้พสกนิกรของในหลวงรัชกาลที่ 9 หันมาทำดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ท่าน ประเทศไทยจะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งทางราชการให้ถือเป็นวันหยุดราชการ โดยให้มีการออกทุกข์ ให้หน่วยงานราชการปลดป้ายถวายความอาลัย และส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ในวันที่ 30 ตุลาคม 2560

นายหมึก (ไม่ประสงค์ออกนามสกุล) พสกนิกรที่มีใจภักดิ์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ถึงความรู้สึกแห่งการสูญเสียว่า ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนเมื่อสามร้อยกว่าวันที่ผ่านมา ยังคงร้องไห้เป็นประจำ เมื่อระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 รู้สึกว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต

“ไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่านี้อีกแล้ว .. มันมหาศาลมาก ที่สุดของที่สุด .. เสียสิ่งที่รักที่สุดในชีวิตที่มีอยู่ ที่ทำให้เราเป็นเรา”

“ร้องไห้หนักที่สุด ตอนประกาศอย่างเป็นทางการ หนึ่งปีที่ผ่านมา ไปกราบท่าน 24 ครั้ง เคยเห็นพระองค์ท่านใกล้มากที่สุด ห่างไปสองเมตร ได้สัมผัสใกล้ชิดพระองค์ท่านตั้งแต่เด็ก บ่อยครั้งได้ยินพระสุรเสียงท่านตั้งแต่เด็กๆ”

“สำหรับผม เหมือนสูญเสียหมดเลย ยิ่งกว่าสูญเสียญาติ ยังคงร้องไห้คิดถึงท่าน เวลาที่เราได้ดูทีวี หรือสารคดีเก่าๆ และรูปเก่าๆที่เก็บไว้” นายหมึกกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าอย่างที่สุด

นายศุภเสฎฐ์ ศิวบุรินทมิตร์ ชาวกาญจนบุรี เล่าความรู้สึกแห่งการสูญเสียต่อเบนาร์นิวส์ และเพิ่มเติมว่า รู้สึกใจหายกับเหตุการณ์เมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความโศกเศร้าได้ถูกเปลี่ยนเป็นพลังให้เขาตั้งใจทำความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดช่วง  1 ปีที่ผ่านมา

“หนึ่งปีที่ผ่านมา เราอยู่กับความจริงแม้ว่าท่านไม่อยู่แล้ว แต่ความรู้สึกเหมือนท่านไม่ได้หายไปไหน เพราะความดีที่ท่านทำ มันมีตัวตนอยู่ เป็นแบบอย่างของการทำความดี เราเห็นท่านเป็นกษัตริย์ แต่ท่านลำบาก ออกไปช่วยคน เราก็ออกไปช่วยคนที่เขาเดือดร้อน ช่วยคนที่เขามีโอกาสน้อยกว่าเรา เวลาทำเราก็นึกถึงท่าน เช่น เราอาสาไปทำฝายชะลอน้ำในป่า มอบเสบียงให้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร เราไปปลูกผลไม้ให้เด็กในโรงเรียน”

น.ส.พิมพ์ชนก ปิติยานุวัฒน์ พนักงานบริษัทเอกชน ชาวกรุงเทพฯ อายุ 31 ปี เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ยังคงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้ท่านจะสวรรคตมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วก็ตาม

“ก็รู้สึกใจหาย แม้เวลาจะผ่านมา 1 ปีแล้วก็ตาม แผ่นดินที่เคยมีพ่ออยู่ มีทางที่ท่านเดินและให้เราเดินตาม แต่ในวันนี้รอยทางนั้นสิ้นสุดลง เหลือแต่เราที่ต้องยอมรับความจริงเรื่องการสูญเสียที่เป็นสัจธรรม และเดินหน้าสืบสานปณิธานของท่านต่อไป” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

ด้าน นายชัชวาลย์ บุญเลิศ เจ้าของร้านอาหารจานโปรด ใน จ.อ่างทอง วัย 32 ปี เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ตั้งใจกลับมาวาดรูปหลังจากหยุดวาดไปหลายปี เพื่อวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ดี และแบ่งปันสิ่งที่ตนวาดให้กับคนที่รักในหลวงเหมือนๆกัน โดยใช้กระดาษรีไซเคิล อุปกรณ์ราคาไม่แพง ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

นายชัชวาลย์ บุญเลิศ และภาพวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตั้งใจฝึกซ้อมวาด 1 ปี (ภาพโดย ชัชวาลย์ บุญเลิศ)

“ตอนมีข่าวในหลวงสวรรคต รู้สึกตกใจ และใจหาย หลังจากนั้น เห็นข่าวว่าพวกที่เป็นนักวาดภาพประกอบ นักออกแบบ ก็ออกมาวาดรูปเพื่อระลึกถึง เพื่อถวายความอาลัยเยอะมาก ผมก็เคยเป็นนักออกแบบ เคยวาดรูป อยากวาดบ้าง แต่ตั้งแต่เปิดร้านอาหารก็ไม่ได้วาดรูปเลย 7-8 ปีแล้ว ถ้าวาดตอนเดือนตุลาคม มันออกมาไม่ดี ก็เลยกลับไปซ้อมจับปากกาวาดรูปคน พอมีเวลาว่างก็วาดไปเรื่อยๆ รูปละวัน ตั้งใจว่าเดือนตุลาคมปีนี้ จะวาดในหลวง 9 รูปติดกัน 9 วัน คิดว่าจะพิมพ์แจก ระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคมนี้ จริงๆได้ให้ลูกค้าไปแล้ว ลูกค้าประทับใจมาก พอได้รูปไปก็ยกมือไหว้รูป ก็ดีใจที่เขารักในหลวงเหมือนกัน” นายชัชวาลย์กล่าว

น.ส.ทฤณภัฎ จึงไพศาล พสกนิกรที่อาศัยอยู่ใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ในวันที่ในหลวงสวรรคต เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว รู้สึกเหมือนโลกแตกสลาย

“วันนั้น ที่หัวหินสัมผัสได้จริงๆว่า มันเงียบมาก ตอนกลางคืนนอนไม่หลับ ขับรถออกไปหน้าวังไกลกังวล คนใส่เสื้อดำออกมาออกันเต็มหน้าวังไปหมด ภายในเวลาไม่นาน ตัดสินใจขับรถเข้า กทม. ระหว่างทางเห็นเจ้าหน้าที่ปลดรูปในหลวงลง รู้สึกเหมือนโลกนี้มันสลาย ใจสลายมาก เพราะตั้งแต่อยู่หัวหินก็มีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับท่านมาก คิดต่อไปว่า แล้วต่อจากนี้จะอยู่กันยังไง ที่สำคัญพระราชินีท่านรักกันมาก จะอยู่กันอย่างไร แล้วก็ร้องไห้” ทฤณภัฎ กล่าวระลึกถึงวันนั้น

วันครบรอบปีแห่งการสูญเสีย

ประชาชนชาวไทยจำนวนมากเศร้าโศกเสียใจกับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา ด้วยพระชนมายุ 89 พรรษา หลังจากทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวของพสกนิกรชาวไทยมานานกว่า 70 ปี

รัฐบาลจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี เนื่องในวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 89 รูป เวลา 07.00 น. และพร้อมกับหน่วยงานรัฐทั่วประเทศที่ยึดแนวทางที่รัฐบาลปฏิบัติในรูปแบบและช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึงพสกนิกรไทยในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกก็จะมีการร่วมตักบาตรพระและบำเพ็ญกุศลในวันนี้เช่นกัน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ได้มีพระราชวินิจฉัยให้กำหนดวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 เป็นช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยวันที่ 26 ตุลาคม 2560 จะเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ และเป็นวันหยุดราชการ โดยมีประมุขหรือผู้นำประเทศตอบรับเข้าร่วมพระราชพิธีฯแล้ว 50 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม สปป.ลาว ภูฏาน เป็นต้น

ขณะที่หลังจากสำนักพระราชวังอนุญาตให้ประชาชนเข้ากราบพระบรมศพฯ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2559 – 5 ตุลาคม 2560 รวมระยะเวลา 337 วัน มีประชาชนเดินทางมากราบพระบรมศพฯ 12,739,531 คน และมียอดเงินที่ประชาชนร่วมบริจาคกว่า 889 ล้านบาท เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล

หน่วยงานรัฐและประชาชนทุกหมู่เหล่ายังร่วมกิจกรรมปลูกดาวเรือง ซึ่งเป็นดอกไม้สีเหลือง และเป็นสีวันพระราชสมภพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้บานสะพรั่งพร้อมกันทั่วแผ่นดิน ในช่วงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ

รัฐบาลกำหนดให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่รัฐไว้ทุกข์ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม - 29 ตุลาคม 2560 โดยให้มีการออกทุกข์ ให้หน่วยงานราชการปลดป้ายถวายความอาลัย และส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ในวันที่ 30 ตุลาคม 2560

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง