โยกซื้อเรือฟริเกตแทน 'เรือดำน้ำไม่มีเครื่อง'
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะชะลอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะไม่สามารถใช้เครื่องยนต์เยอรมันตามสัญญาได้ โดยจะเสนอให้จีนแก้ไขสัญญา เปลี่ยนเป็นการจัดซื้อเรือฟริเกต (Frigate) เพื่อป้องกันปัญหาที่การฟ้องร้อง และข้อครหาจากสังคมในอนาคต
“เราเองก็พยายามที่จะแก้ปัญหาร่วมกันมาตลอด ปัญหาที่เราแก้ คือ อยากได้เครื่องยนต์ ตามข้อตกลง ซึ่งกองทัพเรือในยุคผู้บัญชาการท่านก่อน ท่านก็ทำสุดกำลัง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ได้เครื่องยนต์อย่างที่เราตกลงกัน เราก็ขอเลือกแนวทาง คือ เรือฟริเกต ทำไมเอาเรือฟริเกต ก็คือหนึ่งราคาใกล้เคียงกันมากกับเรือดำน้ำ เราก็เสนอไปว่า เงินที่จ่ายไปก็เคลมให้เป็นค่าเรือฟริเกต” นายสุทิน กล่าว
“ถ้าได้เรือฟริเกตมา เราก็ปราบเรือดำน้ำได้ ก็จะทำให้สมรรถนะของกองทัพเรือไม่ได้เสียหายไปมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า จะยิ่งหย่อนไปกว่าเรือดำน้ำนิดนึง ซึ่งกองทัพเรือก็รับได้ แนวทางนี้ก็เหลือเพียงว่าเราก็ต้องไปเจรจากับจีน ก็ไปคุยกับรัฐบาลจีนเมื่อ 2-3 วันนี้ ได้ข้อสรุปว่า ทางการจีนเขาก็เข้าใจเราว่า เรื่องนี้เป็นความลำบากใจของเรา แล้วเขาก็ขอความเห็นใจเหมือนกัน เขาก็ยินดีที่จะหาทางออกให้ เขาก็รับพิจารณา แนวทางที่เราเสนอไป” นายสุทิน กล่าวเพิ่มเติม
ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจาก ในเดือนเมษายน 2560 ทร. ได้ตกลงจ้าง บริษัท ไชน่า ชิปบิวดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (China Shipbuilding & Offshore International Co., Ltd. – CSOC) สร้างเรือดำน้ำพลังงานดีเซล-ไฟฟ้า แบบ S-26T หนึ่งลำ มูลค่า 13,500 ล้านบาทในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล และเดือนกันยายน 2561 ได้มีการพิธีตัดแผ่นเหล็กเริ่มการก่อสร้างแล้ว
ต่อมา การต่อเรือดำน้ำเจอปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ เพราะสัญญาระบุว่า เรือดำน้ำ S-26T จะใช้เครื่องยนต์แบบ MTU396 ที่ผลิตในเยอรมนี แต่บริษัท CSOC ไม่สามารถจัดหาให้ได้ เพราะสหภาพยุโรปตกลงห้ามประเทศสมาชิกค้าอาวุธกับจีน เพราะจีนเคยปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532