ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 88 ราย ถูกนำตัวมายังศาล เพื่อรับทราบคำฟ้อง

นาซือเราะ
2015.11.10
151110-TH-manas-1000 พลโทมนัส คงแป้น หนึ่งในผู้ต้องสงสัย 88 ราย ในขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศ ที่ถูกนำตัวมายังศาลอาญากรุงเทพเหนือ รัชดาภิเษก วันที่ 10 พ.ย. 2558
(เอเอฟพี)

ในวันอังคาร (10 พ.ย. 2558) นี้ ศาลอาญา กรุงเทพเหนือ ได้เริ่มการตรวจสอบพยานหลักฐานในคดี ค้ามนุษย์โรฮิงญาและชาวบังกลาเทศในเบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้นำตัวจำเลย 88 ราย จาก 91 ราย มายังศาลเพื่อรับฟังคำอธิบายการฟ้องด้วย โดยจะทำการตรวจสอบรวมสี่วัน

โดยมีทีมผู้พิพากษาร่วมพิจารณาคดีเจ็ดคน จำเลยคดีค้ามนุษย์โรฮิงญามีทั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เนื่องจากมีพยานและหลักฐานจำนวนมาก การพิจารณาคดีอาจต้องใช้เวลาร่วม 2 ปี

"มีพยานบุคคลถึง 500 ปาก ในคดีนี้ ซึ่งจะเป็นการนัดหมายประมาณ 200 นัด เพื่อทบทวนพยาน ซึ่งหมายความว่าการตรวจสอบจะใช้เวลาสองปี" เจ้าหน้าที่ศาลอาญากล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในกรุงเทพฯ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน

โดยการพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า บีบีซีรายงาน

การทำผิดคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง มกราคม พ.ศ. 2554 ถึง พฤษภาคม 2558 จนกระทั่งมีการค้นพบหลุมฝังศพของผู้ถูกลักลอบนำพาเข้าเมือง ถูกฝังไว้ที่เทือกเขาแก้ว ในอำเภอปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ศกนี้ โดยจำเลยเป็นคนสำคัญ เช่น นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายก อบจ. สตูล จำเลยที่ 29 พล.ท. มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกระทำกันเป็นขบวนการ

คดีนี้ เป็นคดีหมายเลขดำ ดม.29/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรจง ปองพล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ กับพวกรวม 88 ราย เป็นจำเลย ซึ่งทยอยฟ้องจำเลยตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2558 ความผิด 16 ข้อหา ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2546 ได้มีการโอนคดีจากศาลนาทวี มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2558

ศาลอาญากรุงเทพเริ่มตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น

การตรวจสอบพยานหลักฐานมีขึ้นที่ห้องพิจารณา 704 โดยมีการถ่ายทอดสดการตรวจพยานหลักฐานจากห้องพิจารณาคดีผ่านระบบทีวีวงจรปิด ลงมาบริเวณชั้น 2 ของอาคารเพื่อให้สื่อมวลชน และญาติได้รับทราบกระบวนการ เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ญาติของจำเลย และสื่อมวลชน เข้าไปภายในห้องพิจารณาคดี

ภายหลังจากศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่ฝ่ายอัยการโจทก์ ได้ยื่นพยานเอกสารหลักฐาน ต่อศาลประกอบด้วย พยานวัตถุ ผังแสดงความสัมพันธ์ทางการเงิน ภาพรวมการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา และพยานเอกสารอื่นๆ รวม 15 ลัง 70 แฟ้ม

การตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ ศาลได้กำหนดวันนัดทั้งหมด 4 วัน ตั้งแต่วันนี้ 10 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน และในวันที่ 11 พฤศจิกายน  และวันที่ 12 พฤศจิกายน จะไม่มีการเบิกตัวจำเลยทั้ง 88 คน มายังศาลอาญา เนื่องจากเป็นการพิจารณาในส่วนเอกสารระหว่างอัยการ และทนายความ

ผู้ต้องหาอีก 62 ราย ยังหลบหนีการจับกุม

ด้าน พล.ต.ต. ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่ได้มายังศาลด้วย กล่าวว่า “ผมมาทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมชี้แจงถึงกรณีที่มีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาเพียง 88 คน ในคดีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ทั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 91 คน”

พล.ต.ต.ปวีณ อธิบายเพิ่มเติมถึงจำนวนผู้ต้องหาที่มีเพียง 88 คนว่า เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 3 คน หลังจากที่ได้มีการส่งสำนวนฟ้องให้พนักงานอัยการแล้ว จึงทำให้วันนี้มีการตรวจพยานหลักฐานเพียง 88 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน นั้น ทางพนักงานสอบสวน ได้มีการส่งสำนวนให้ทางอัยการพิจารณาแล้วเพื่อดำเนินการส่งฟ้องในภายหลัง

“ส่วนการที่กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 88 คน พยายามยื่นขอประกันตัวนั้น ต้องถามตำรวจทำคดีชุดใหม่ เพราะถือว่าได้พ้นจากอำนาจของทางพนักงานสอบสวนไปแล้ว ขณะที่การติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 62 คน นั้น ถือเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนชุดใหม่” พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งได้ลาออกจากราชการในวันที่ 5 เดือนนี้ เนื่องจากถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดแดนภาคใต้ และเกรงจะถูกแก้แค้นยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และอาจจะหมดหน้าที่แล้ว

“ที่จะมาทำในส่วนของคดีนี้ต่อ การเดินทางมาในวันนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พล.ต.ต.ปวีณ กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง