ศบค. คลายมาตรการคุมโควิด-19 ระยะสอง เริ่มวันอาทิตย์นี้

นนทรัฐ ไผ่เจริญ และมารียัม อัฮหมัด
2020.05.15
กรุงเทพฯ และปัตตานี
200515-TH-COVID-restrictions-650.jpg ชาวมุสลิมร่วมละหมาดวันศุกร์อีกครั้ง ที่มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี หลังจากถูกสั่งงดมากว่าสองเดือน วันที่ 15 พฤษภาคม 2563
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติให้เริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระยะที่สอง ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 โดยเพิ่มเติมให้เปิดห้างสรรพสินค้า โรงอาหาร ยิมออกกำลังกาย สถานเสริมความงามได้ ทั้งยังขยับช่วงเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-04.00 น. แต่ยังคงห้ามการบริโภคสุราในร้านอาหาร และห้ามการเข้า-ออกประเทศเช่นเดิม

ส่วนในภาคใต้ มัสยิดกว่าสองร้อยแห่ง เปิดละหมาดวันศุกร์เป็นครั้งแรก หลังจากถูกสั่งห้ามมา เมื่อเดือนมีนาคม

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติผ่อนปรนมาตรการระยะที่สองแล้ว เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น และให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ โดยการผ่อนปรนนี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563 และการเปิดต้องดำเนินการมาตรการป้องกันโรค

“การตัดสินใจเข้าสู่มาตรการการผ่อนปรนระยะที่สอง ตรงนี้ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าจะต้องผ่อนคลายให้เศรษฐกิจดำเนินการไปได้… วันนี้เสนอผ่อนปรน กิจกรรมหรือกิจการที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคในหลายพื้นที่ และการแพร่เชื้อในสถานที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม… เปิดเพิ่มในกลุ่มที่สอง คือ การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านอาหาร ในโรงอาหาร อาคารสำนักงาน หรือศูนย์อาหารภายในหน่วยงาน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

“ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอล ให้ปิดบริการถึงสองทุ่ม แต่ยังห้ามบริโภคสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน… โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำยังให้ปิด เพราะมีความเสี่ยงสูง มาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ยังคงไว้ คือ การเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก น้ำ อากาศ ยังคงมาตรการเดิมของต่างประเทศ ยังไม่เปิดสนามบินให้ลง ปรับระยะเวลาการห้ามออกเคหะสถานเป็น 5 ทุ่ม ถึงตี 4 ยังเหมือนเดิม งดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดเช่นเดิม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กิจการและกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรนระยะสอง สามารถจำแนกได้ดังนี้ 1. กิจการด้านเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ การจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ในภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ร้านอาหารขนาดใหญ่ สวนอาหาร ร้านไอศกรีม ร้านขนมหวาน ในอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ ค้าส่งอื่นๆ ตลาดค้าส่ง แต่ยังให้งด โบว์ลิ่ง สนามพระ โรงหนัง สวนน้ำ พื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โรงเรียน สถาบันกวดวิชา ตู้เกม ร้านนวดแผนไทย สปา ฯลฯ

2. กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย คลินิกเสริมความงาม สถานเสริมความงาม คุมน้ำหนัก เฉพาะเรือนร่าง ผิวพรรณ แต่เว้นการทำความงามที่เกี่ยวข้องบนใบหน้า เปิดโรงยิม สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ฟิตเนส เฉพาะบางส่วน โดยไม่มีการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่ม การใช้ลู่วิ่ง และจักรยานปั่น แต่ยังให้ปิดสนามมวยและโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ 3. กิจกรรมอื่นๆ ให้เปิดห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ห้องสมุดสาธารณะ แกลเลอรี่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กิจการถ่ายภาพยนตร์ ให้ดำเนินการ แต่รวมทีมงานไม่เกิน 50 คน แต่ห้องจัดอบรม และสัมมนายังปิดต่อไป

ด้าน การรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อของประเทศไทย นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย ทำให้ตัวเลขรวมสะสมอยู่ที่ 3,025 ราย โดย 7 รายนี้ คือผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 17-35 ปี อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย มีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 115 ราย

ปัตตานีเปิดละหมาดวันศุกร์

ในวันนี้ ชาวมุสลิมในจังหวัดปัตตานีได้กลับมาละหมาดวันศุกร์ในมัสยิดได้อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ สำนักงานจุฬาราชมนตรีได้ออกประกาศให้งด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนจังหวัดยะลา และนราธิวาส จะกลับมาละหมาดในศุกร์อีกครั้ง ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ ชาวมุสลิม ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักจุฬาราชมนตรีกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยให้กรรมการอิสลามประจํามัสยิด หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มาตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด มีการจัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด งดใช้อ่างน้ำร่วมกัน ให้ทําความสะอาดพื้นมัสยิดก่อนและหลังการละหมาดทุกครั้ง และงดเปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

นอกจากนั้น ให้จัดทําเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตําแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุด 1.50-2 เมตร ให้ควบคุมทางเข้าออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่าง ขณะเดินเข้าและเดินออกจากมัสยิด หลังเสร็จสิ้นการละหมาด

สําหรับผู้มาละหมาด ให้อาบน้ำละหมาดมาจากที่บ้าน ให้ใช้พรมปูละหมาดส่วนตัว โดยนํามาจากบ้าน ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มัสยิดจัดเตรียมไว้ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงานข่าวนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง