เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว 11 ชาวกัมพูชา จากปอเนาะมัดรอสาตูลฟาละห์

มารียัม อัฮหมัด
2019.01.29
ปัตตานี
190129-TH-deepsouth-cambodians-800.jpg เจ้าหน้าที่รวบตัวชาวกัมพูชา 11 คน ในบริเวณสถาบันศึกษาปอเนาะมัดรอสาตูลฟาละห์ ในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี วันที่ 28 มกราคม 2562
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจทหารพรานที่ 42 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชา 11 คน จากสถาบันศึกษาปอเนาะมัดรอสาตูลฟาละห์ ในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี มาสอบสวนในค่ายทหาร เพราะเจ้าหน้าที่พบว่ามีการฝึกการต่อสู้ด้วยมือเปล่าในยามวิกาล จึงเกรงว่าจะเป็นแนวร่วมปฏิบัติการของกลุ่มใช้ความรุนแรง แต่ยังไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆ ในขณะนี้

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ตนเองได้รับเรื่องดังกล่าวแล้วและพร้อมเนรเทศทั้ง 11 คนโดยเร็ว เนื่องจากได้รับทราบจากทางทหารว่าทั้งสิบเอ็ดคน ไม่มีเอกสารการเดินทางโดยถูกต้อง ซึ่งบางคนไม่มีหนังสือเดินทาง หรือมีหนังสือเดินทางแต่ได้หมดอายุแล้ว

พ.อ.สมคิด คงแข็ง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ฉก.ทพ.42 ได้ปิดล้อมสถาบันศึกษาปอเนาะ มัดรอสาตูลฟาละห์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 4 ม.4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อคืนวานนี้ โดยสามารถจับกุมเยาวชนชาวกัมพูชาได้ 11 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปี และยังได้ควบคุมตัวบาบอเจ้าของปอเนาะ พร้อมด้วยเด็กนักเรียนไทยอีกคนหนึ่ง เพื่อทำการสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ในอำเภอหนองจิก ปัตตานี

"เราได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการฝึกร่างกายด้วยมือในปอเนาะ จึงเข้าไปปิดล้อม พบเป็นชาวกัมพูชา 11 คน หนังสือเดินทางหมดอายุ และบางคนไม่มีหนังสือเดินทาง เข้ามาฝึกร่างก่ายด้วยมือเปล่าภายในปอเนาะ จึงได้นำมาสอบสวนที่ค่ายอิงยุทธ์ฯ และดำเนินการตามกระบวนการ เบื้องต้น ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอะไรกับเด็ก และเจ้าของปอเนาะ แค่นำมาสอบสวน" พ.อ.สมคิด กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันนี้

สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวชาวไทย ประกอบด้วย นายสะอูดีเลาะแม็ง อายุ 50 ปี เจ้าของโรงเรียนปอเนาะ และนายซูเปียน เจะมะ อายุ 23 ปี นักเรียนผู้ติดตามนายสะอูดี ส่วนชาวกัมพูชา ได้แก่ นายอาลียัส ดือระซอ อายุ 19 ปี นายมูฮัมหมัดอัมรี มะเยง อายุ 19 ปี นายมะเปาะซู คาเร็ง อายุ 40 ปี นายอับดุลเลาะ สาแมง อายุ 20 ปี นายฮาริส มีซา อายุ 23 ปี นายยะยา ดือราแม อายุ 18 ปี นายธลิต แวหามะ อายุ 21 ปี นายอาหามะ เจะดรโอ๊ะ อายุ 36 ปี นายบุรฮานนุดีน ลาเตะ อายุ 22 ปี นายรอมลี สาแมง อายุ 35 ปี นายบูขอรี เจะมะ อายุ 19 ปี

เบนาร์นิวส์ ไม่สามารถติดต่อสถานทูตกัมพูชาเพื่อของความเห็นได้ในวันนี้

ด้าน นางอสดีละ สาแลแม ภรรยาของนายสาอุดี เลาะแม็ง ผู้เป็นเจ้าของปอเนาะ กล่าวว่า ทางปอเนาะไม่ได้มีการสอนการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

"ยืนยัน ที่ปอเนาะไม่มีการปลุกระดม ไม่ได้ฝึกร่างกายอะไร เป็นการเล่นกีฬาตามประเพณีของชาวกัมพูชา ที่ปอเนาะสอนให้มีการเรียนการสอนเท่านั้น ไม่ได้มีการให้ฝึกอย่างที่เป็นข่าวเลย” นางอสดีละ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“เขาเรียกเด็กกัมพูชาทั้ง 11 คนมา บางคนพบว่าหนังสือเดินทางหมดอายุ บางคนไม่ได้หมดอายุ และเชิญบาบอไป มีเด็กปอเนาะขอตามบาบอไปด้วย 1 คน เขาให้ไป ก็ยืนยันว่าเรื่องการฝึกร่างกายไม่ใช่ความจริง แต่ยอมรับเรื่องนักเรียนกัมพูชา หนังสือเดินทางหมดอายุ” นางอสดีละ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นางอสดีละ ให้รายละเอียดการจับกุมว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 22.30 น. หลังจากที่ บาบอสอนกีตาบ (ตำราทางศาสนา) เสร็จแล้ว ก็เป็นช่วงพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้น มีเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธปืนครบมือ และผู้ใหญ่บ้าน ขับรถเข้ามา แล้วบอกให้บาบอพาไปค้นปอเนาะทุกห้อง

โรงเรียนปอเนาะมัดรอสาตูลฟาละห์ เปิดมาตั้งแต่ปี 2546 มีพื้นที่ 7 ไร่ เป็นปอเนาะที่สอนกีตาบและอัลกุรอ่าน เฉพาะเด็กผู้ชาย ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา เบตง ยะหริ่ง และมายอ มีเด็กนักเรียนและผู้สูงวัยที่เรียนในปอเนาะ ทั้งหมด 50 คน รวมกับชาวกัมพูชาด้วย

ด้าน นายอับดุลอาซิส ยานยา นายกสมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า “หลังจากนี้ ก็จะมีการเรียกเจ้าของปอเนาะหารือ ที่จะหามาตรการร่วมที่จะไม่รับเด็กจากต่างประเทศที่เอกสารไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่สามจังหวัดบ้านเรา มีปัญหา เราต้องระวัง นอกจากนี้ ก็จะชี้แจงให้กองทัพได้เข้าใจว่า ปอเนาะไม่มีการปลุกระดมทำในสิ่งที่ไม่ดี”

“คือวิถีชีวิตเด็กปอเนาะ หลายคนอาจสงสัย หวาดระแวง อยากสร้างความเข้าใจ อยากให้เราคุยกัน เรื่องอะไรที่สามารถคุยกันได้ ก็อยากให้มาคุยมากกว่านำกำลัง ทำให้เกิดความรู้สึกที่ขยายไปในมุมกว้าง ประชาชน” นางคอลีเยาะ หะหลี ประธานกลุ่มสตรีอาสาคลายทุกข์จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวเสริม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง