ไซซะนะ ปฎิเสธข้อกล่าวหายุ่งเกี่ยวยาเสพติดในชั้นศาล

ในวันจันทร์ (19 มิถุนายน 2560) นี้ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหา ชาวลาว ปฎิเสธข้อกล่าวหาคดียาเสพติด ในการนัดตรวจสอบพยานหลักฐานที่ศาลอาญา ในคดีถูกฟ้องร้องข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อจำหน่ายและครอบครอง ซึ่งเป็นคดีมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ด้านทนายความของนายไซซะนะอ้างว่า ถูกกีดกันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้พบลูกความในชั้นสอบสวน โดยศาลนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ปากแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2561

นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว อายุ 42 ปี ถูกฟ้องร้องในคดีหมายเลขดำที่ อย.1642/2560 ข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่ายและครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดจากการซัดทอดของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจับได้ก่อนหน้านั้น โดยนายไซซะนะ ไม่ใช่บุคคลที่ครอบครองยาเสพติดด้วยตัวเอง ซึ่งคดีนี้มีพนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้อง

ในการตรวจสอบพยานหลักฐาน นายไซซะนะให้ “การปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด” แม้ว่าในชั้นสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้การรับสารภาพไว้ก็ตาม

โดยในห้องพิจารณาคดี นายไซซะนะแต่งตั้งทนายความ 3 คน เพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้คดี กล่าวต่อศาลว่า ตนเองเข้าใจภาษาไทย 50 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความประสงค์จะใช้ล่ามแปลภาษา รวมทั้งปฎิเสธการให้สื่อมวลชนถ่ายภาพขณะเดินทางเข้าสู่ศาล ขณะที่ในห้องพิจารณาคดี มีญาติของนายไซซะนะเข้าฟัง 3 คน

ด้านนายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความของนายไซซะนะกล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ในชั้นสอบสวนได้พยายามขอเข้าพบตัวนายไซซะนะ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยินยอมให้พบ ซึ่งตนเองเชื่อการไม่ได้พบตัวลูกความในชั้นสอบสวน ส่งผลกระทบต่อการสู้คดีของนายไซซะนะ

“เขาไม่ให้พบ แล้วใช้ทนายที่นายไซซะนะไม่ได้จ้างในชั้นสอบสวนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ส.ส.) ซึ่งผมเชื่อว่า การกระทำลักษณะนี้มีผลกับการทำคดี จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ 4 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ได้เข้าเยี่ยมที่เรือนจำคลองเปรม” นายวรกรกล่าว

นายวรกร ระบุว่า ศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 13-22 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นการสืบพยานฝ่ายโจทก์ 9 ปาก และพยานจำเลย 3 ปาก

การจับกุมตัวนายไซซะนะนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการยาเสพติด พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดหนองคาย โดยผู้ถูกจับกุมได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้ลักลอบขนยาเสพติดมาจากประเทศลาว และมีนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักธุรกิจชาวลาวเป็นผู้รู้เห็นกับการกระทำผิดครั้งนี้ด้วย  จึงได้มีการยื่นฟ้องนายไซซะนะ และออกหมายจับ

กระทั่งในวันที่ 19 มกราคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และป.ป.ส.ร่วมกันจับกุมตัวนายไซซะนะได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โดยจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า นอกจากนายไซซะนะแล้วยังมีผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดของนายไซซะนะอีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

โดยนอกจากนี้ยังเชื่อว่า เครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะมีความเชื่อมโยงกับ นายอุสมาน สแลแมง หัวหน้าขบวนการยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เคยหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในประเทศลาว ช่วงปี 2555 และเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้