รายงานข่าวเอบีซี: พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ขอลี้ภัยในออสเตรเลีย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.12.10
TH-human-trafficking-620 ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาถูกนำมาที่ศาลอาญา ในกรุงเทพฯ 10 พฤศจิกายน 2558
เอเอฟพี

รายการโทรทัศน์ ABC ของประเทศออสเตรเลีย ได้เสนอรายงานในวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค. 2558) นี้ว่า พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ได้ยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อรัฐบาลออสเตรเลีย เนื่องจากเกรงว่าจะมีอันตรายจากขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญาที่ประกอบไปด้วยเครือข่ายผู้มีอิทธิพล

ในรายการชื่อว่า 7:30 ของเอบีซี พล.ต.ต. ปวีณ ได้กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลคุกคามตัวเขา ไม่ให้สืบสวนสอบสวนคดี

“มีเจ้าหน้าที่หลายคนที่ต้องถูกดำเนินคดี มีทหารที่ดี แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โชคร้ายที่ตำรวจที่ไม่ดี และทหารที่ไม่ดีมีอำนาจ” พล.ต.ต.ปวีณ กล่าว

“ผมไม่ได้คิดถึงประโยชน์ส่วนตัว แต่ตอนนี้ผมประสบปัญหา ผมเชื่อว่ายังมีที่ที่ปลอดภัย ที่ใดที่หนึ่งในโลกที่ช่วยผมได้” พล.ต.ต.ปวีณ กล่าว

ในฤดูกาลโยกย้ายประจำปีที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปวีณ ถูกย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ จนทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากราชการ เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกลอบสังหาร จากกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ถูกดำเนินคดี รวมทั้ง พล.ต.ต.ปวีณ ยังได้กล่าวว่า มีการคุกคามสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย

"แม้กระทั่ง หลังจากที่ผมลาออกจากราชการตำรวจ ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครใส่ใจ ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจย้ายครอบครัวมาประเทศออสเตรเลียทันที หลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้อนุมัติการลาออกของผม" เขากล่าวแก่เดอะเนชั่น

นับตั้งแต่การขุดค้นพบ 32 ศพของเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา บนเทือกเขาแก้ว ในปาดังเบซาร์ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนของชุดคลี่คลายคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ได้นำไปสู่การออกหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ได้ถึง 153 ราย (ไม่นับรวมผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้วสองราย) เมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้ต้องหาไปขึ้นศาล 88 ราย ในจำนวนนั้น รวมถึงนายทหารระดับนายพลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการใหญ่ อีกทั้งนายทหารอื่นๆ นักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจ ฯลฯ

"จำเลยทั้ง 88 คน ร่วมกันปล่อยให้เหยื่อค้ามนุษย์หิวโหย และไม่ให้การดูแลรักษาแก่ผู้ที่เจ็บป่วย จนมีเหยื่อเสียชีวิต ก็จะทำการฝังศพของคนเหล่านั้นไว้แบบลวก ๆ ในค่ายบนเทือกเขา" รายงานของศาลระบุ เดอะการ์เดียนรายงาน

พล.ต.ต.ปวีณ ผู้เป็นนายตำรวจอาชีพ ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่เขาถูกบังคับให้โยกย้ายไปยังพื้นที่ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาบอกว่าพวกค้ามนุษย์ที่เขาไล่ล่า ล้วนมีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แถมนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่นั้นก็เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วย เขาบอกแก่ผู้บังคับบัญชาว่า เกรงชีวิตจะไม่ปลอดภัย หากถูกส่งไปที่นั่น แต่คำทักท้วงของเขาถูกเพิกเฉย

ในตอนกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานในคดีการมนุษย์ชาวโรฮิงญา เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของพยานหลักฐาน และตัดจำนวนพยานให้น้อยลง เพื่อให้การตัดสินคดีเสร็จสิ้นได้ ภายในสิ้นปี 2559 โดยที่ พล.ต.ต.ปวีณ ได้กล่าวกับศาลว่า พร้อมที่จะมาเป็นพยานต่อศาล แม้ว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปวีณ ได้สิ้นสุดการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้แล้วก็ตาม

ในการตรวจสอบพยานหลักฐานของศาลอาญานั้น ผู้ต้องหาจำนวน 88 คน (จากจำนวน 91 คน ที่จับได้แล้ว) ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้ง พลโทมนัส คงแป้น ได้ถูกนำตัวขึ้นศาลด้วย และศาลอาญา รัชดา ได้กำหนดให้มีการตรวจสอบพยานหลักฐานอีกครั้งในปลายเดือนธันวาคมนี้

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมว่าด้วย”การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติใน มหาสมุทรอินเดียครั้งที่ 2” ที่กรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการรับมือกับสถานการณ์ ยังเป็นโอกาสให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดทั้งห้าประเทศ คือ เมียนมา บังกลาเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย หารือร่วมกัน เพื่อหาหนทางจัดการดำเนินการอย่างจริงจังกับเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบขนคนโดยผิดกฎหมาย และร่วมโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตราย และ ความเสี่ยงของการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกตินี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง