อัยการสั่งฟ้องพระธัมมชโย คดีเครดิตยูเนียนคลองจั่นแล้ว

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.11.23
กรุงเทพฯ
TH-monks-620 พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการด้านสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย (ถือไมโครโฟน) แถลงข่าวร่วมกับดีเอสไอ หลังฝ่ายดีเอสไอไม่สามารถเข้าไปถึงตัวพระธัมมชโยได้ แม้มีหมายค้น เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพุธ (23 พฤศจิกายน 2559) นี้ อัยการคดีพิเศษ แถลงสั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ในความผิดโทษฐานสมคบคิด ร่วมกระทำความผิด และรับของโจร จากกรณีการฟอกเงินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

โดย ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการสั่งคดีของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.ศรัญญา มานหมัด อดีตคณะบริหารสหกรณ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 3 นางทองพิน กันล้อม อดีตคณะบริหารสหกรณ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 4 และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร

“ผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวน ยังไม่ได้ส่งตัวให้พนักงานอัยการได้แก่ผู้ต้องหาที่ 2 พระเทพญาณมหามุนีหรือพระธัมมชโย และนางศศิธรผู้ต้องหาที่ 5 พนักงานอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองในฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 357, 83” ตอนหนึ่งของคำแถลงกล่าว

ร.ท.สมนึกระบุว่า หลังจากนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องหาตัวผู้ต้องหา คือ พระธัมมชโย และนางสาวศศิธร มารายงานตัวต่อสำนักงานอัยการสูงสุดภายในอายุความ 15 ปี

สำหรับผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่น และผู้ต้องหาที่ 3 และผู้ต้องหาที่ 4 ที่พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวให้อัยการแล้ว พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 3 และผู้ต้องหาที่ 4 ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 โดยพนักงานอัยการได้นัดผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 มารายงานตัวเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559

ด้าน นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนผ่านระบบแอปพลิเคชันไลน์ในวันนี้ว่า คณะศิษย์กำลังเตรียมข้อมูล เพื่อที่จะสู้คดี และยืนยันว่าพระธัมมชโยรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

คดีฟอกเงินและรับของโจรของพระธัมมชโย

ในเดือนมีนาคม นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 32 ปี แต่ศาลลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 16 ปี ฐานยักยอกทรัพย์และจัดการทรัพย์ผู้อื่นโดยมิชอบเป็นเงินกว่า 22 ล้าน ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคดีนี้ แล้วพบว่า มีเงินบางส่วนเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกาย

ดีเอสไอ ตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2552-15 ก.พ. 2554 พระธัมมชโย รวมถึงเครือข่ายวัดพระธรรมกาย รับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 1,205,160,000 บาท โดยไม่มีมูลหนี้กับสหกรณ์ฯ

ส่งผลให้ดีเอสไอพิจารณาแล้ว เห็นว่า พฤติการณ์ดังกล่าวของพระธัมมชโยกับพวกอาจมีส่วนเป็นผู้สนับสนุนนายศุภชัย และเครือข่าย ในการยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ หรือสนับสนุนให้ลักทรัพย์นายจ้าง หรือรับของโจร รวมถึงมีความผิดฐานฟอกเงิน และความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตได้จึงได้ร้องขอหมายเรียกจากศาลหลังครั้งแต่ พระธัมมชโยไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เนื่องจากอ้างว่าอาพาธ

13 มิ.ย.2559 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ส่งสำนวนคดีพิเศษให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษพิจารณา และนำมาสู่การสั่งฟ้องในวันนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง