ผู้บัญชาการทหารบกแสดงความพอใจ ต่อความคืบหน้าแผนสันติสุข ในช่วงเดือนรอมฎอน

โดย รพี มามะ
2015.06.29
TH-army-pretalk-620 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ในขณะเดินทางไปพบปะคณะกรรมการอิสลาม จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 29 มิ.ย. 2558
เบนาร์นิวส์

พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวแสดงความยินดีที่เหตุการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มีมาอย่างต่อเนื่องกว่าสิบเอ็ดปี ได้ลดความรุนแรงลงในช่วงเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม นับตั้งแต่ได้เริ่มต้นมาเมื่อวันที่ 18 เดือนนี้

โดยในวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. 2558 พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร และคณะ ได้เข้าพบประธานคณะกรรมการอิสลาม และคณะกรรมการ  ที่อาคารหอประชุมบรมราชกุมารี ภายในสำนักงานคณะกรรมการอิสลาม จ. นราธิวาส จำนวน 70 คน โดยมี พล.ท. ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 คอยให้การต้อนรับ

ซึ่งการพบปะผู้นำศาสนาในครั้งนี้ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร ได้กล่าวขอบคุณ ที่ทางผู้นำศาสนาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จนปัญหาความมั่นคงคลี่คลายไปในทางที่ดีตามลำดับ  ซึ่งจุดนี้ขอให้ทุกคนรักษาความดีไว้ มันไม่ใช่เป็นเรื่องของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของบ้านเมืองที่ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม ก่อนที่ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร จะมอบผลอินทผลัมให้กับผู้นำศาสนา เพื่อใช้รับประทานในช่วงถือศีลอด

โดย พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร ได้เปิดเผยว่า “ดีใจและรู้สึกพอใจ ที่เหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ลดลงตามลำดับ โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ส่วนความคืบหน้ากระบวนการพูดคุยสันติภาพนั้น เราไม่ได้นิ่งเฉยคณะทำงานได้ปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอดและต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในช่วงความไว้วางใจซึ่งกันและกัน”

พลเอกอุดมเดช ได้กล่าวว่า ทางผู้ประสานงานด้านประเทศมาเลเซีย ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติมาโดยตลอด และคาดว่าในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ต้องมีการพูดคุยและเจรจากันเป็นเรื่องเป็นราว ที่ต้องใช้เวลาตามขั้นตอน เพื่อบรรจุจุดหมายที่วางไว้

ต่อมา พล.อ. อุดมเดช ได้เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร 8 หน่วยงาน โดยมี ผู้บังคับหน่วยที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ได้รายงานผลการปฏิบัติ ทั้งการสร้างมวลชน การปราบปราม และการรักษาความปลอดภัยหัวเมืองต่างๆ ที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย และยังมีมวลชนเข้ามาให้ความร่วมมือ ในการแจ้งเบาะแส จนเจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีความมั่นคงได้หลายคดี สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ รวมทั้งได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนที่ถูกคนร้ายบุกปล้นที่กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์กลับคืนมาได้หลายกระบอก

นักวิเคราะห์ความมั่นคง แสดงความเป็นห่วงใยถึงความจริงใจของรัฐบาล

ดอน ปาทาน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง ได้แสดงทรรศนะของตนในเรื่องแผนการพูดคุยสันติสุข ในบทความภาษาอังกฤษที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ในวันที่ 27 มิ.ย. 2558 นี้ว่า การที่ทางการไทยยังคงละเลย ไม่ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิดกฎหมายนั้น จะเป็นอุปสรรคต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขที่รัฐบาลกำลังผลักดันอยู่

ดอน ปาทาน ยังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในระดับนโยบายและเจ้าหน้าที่ในท้องที่ มักจะมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติการที่ถึงแก่ชีวิตของบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น มักจะยกเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่สังหารผู้นำทางศาสนา ในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2555 ในเหตุการณ์ดังกล่าว นายอับดุลลาเต๊ะ โต๊ะเดร์ อิหม่าม ในอำเภอยะหา จังหวัดยะลา  และสมาชิกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้ถูกกลุ่มล่าสังหาร ยิงถึงแก่ชีวิต

โดยก่อนหน้านั้น อิหม่ามอับดุลลาเต๊ะ เคยถูกลอบสังหารมาก่อน แต่รอดชีวิตมาได้ โดยลูกสาวกลับต้องเสียชีวิตแทน จากนั้น หน่วยรบพิเศษ ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับอิหม่ามอับดุลลาเต๊ะ ต่อกองทัพบก ที่ได้พิจารณาเห็นว่า อิหม่าม เป็นบุคคลที่จะสามารถเป็นตัวกลางระหว่างรัฐกับฝ่ายขบวนการได้ แต่หน่วยงานรัฐหน่วยอื่น กลับมองว่า อิหม่ามอับดุลลาเต๊ะ มีความสนิทสนมกับทางขบวนการมากไป จนนำมาสู่การสังหารในท้ายที่สุด

ดอน ปาทาน ได้อ้างคำพูดของสมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็นคนหนึ่งว่า ทรรศนะคติและวีธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ไม่เคยเปลี่ยนแปลง รัฐบาลเองยังคงปล่อยและละเลย ไม่มีการหาตัวผู้กระทำผิดฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐมาลงโทษ ทำให้ยากที่ฝ่ายขบวนการต่างๆ จะไว้เนื้อเชื่อใจได้

อย่างไรก็ตาม ทางขบวนการเอง ไม่ได้ปฏิเสธการเจรจากับฝ่ายรัฐบาลไทย แต่จะยังคงยึดมั่นกับข้อเรียกร้องของตน เมื่อถึงเวลาเจรจา

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง