ผบ.ทบ. แฉ มีพวกคอมมิวนิสต์จ้องล้มสถาบันฯ

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.10.11
กรุงเทพ
191011-TH-apirat-1000.jpg พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง" ที่หอประชุมกิตติขจร โดยมีสไลด์ภาพบิดาที่ได้บาดเจ็บเพราะฝ่ายคอมมิวนิสต์ยิงเฮลิคอปเตอร์ทหารตก เป็นแบ็คดร็อป วันที่ 11 ตุลาคม 2562
ภิมุข รักขนาม/เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์นี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวในการบรรยายพิเศษว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับกลุ่มแนวคิดซ้ายจัด ที่พยายามล้มล้างระบอบกษัตริย์และเปลี่ยนประเทศให้เป็นคอมมิวนิสต์  โดยได้ใช้วิถีทางการทำ Hybrid Warfare หรือสงครามลูกผสม

ในการบรรยายพิเศษเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองฝ่ายความมั่นคง" ในวันนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้เริ่มต้นเล่าเรื่องราวเกล็ดประวัติศาสตร์ชาติไทยเพื่อให้เห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ และย้อนอดีตไปถึงครั้งที่เฮลิคอปเตอร์ ของพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ผู้บิดา ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยิงตก ในปี 2515 ขณะที่ตนอายุเพียง 12 ปี ซึ่งแม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จะสลายไปนานแล้วและผู้หลงผิดหลายคนกลับใจแล้ว แต่ปัจจุบันกลับยังมีพวกที่มีแนวคิดคอมมิวนิสต์ กลับมาเป็นนักการเมือง นักวิชาการ และยังฝังชิพความเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ และมีแนวคิดคอมมิวนิสต์ดังเดิม

“พูดไปแล้ว ยังมีคอมมิวนิสต์ ที่ยังไม่ได้กลับตัว ยังมีแนวความคิดในการล้มล้างระบบสถาบันกษัตริย์ และจะทำให้ประเทศไทยให้กลับมาเป็นรูปแบบเหมือนพรรคคอมมิวนิสต์” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อผู้ฟังประมาณ 500 คน ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากสำนักจุฬาราชมนตรี ข้าราชการหน่วยต่างๆ นักศึกษา และสื่อมวลชน

นอกจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทั่วทุกมุมโลกซึ่เกิดจากการปลุกปั่นยุยงของคนในชาติ พร้อมเปิดสไลด์การรายงานข่าวสถานการณ์ความขัดแย้ง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรอบโลกประกอบการบรรยาย ซึ่งมีเรื่องการชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง และภาพของนายโจชัว หว่อง แกนนำ นักเคลื่อนไหวที่มีวาทะกรรมว่า “ถ้าเราอยู่ในสงครามเย็นรอบใหม่ ฮ่องกงคือเบอร์ลินใหม่” โดย พล.อภิรัชต์ ระบุว่าฮ่องกง เคยประเทศท่องเที่ยวแต่ตอนนี้ไม่มีใครอยากไป ยกเว้นนักการเมืองบางคน พร้อมตั้งคำถามว่า ไปพบใครและมีเป้าหมายอะไร

“มันมีบางคนไป และมีคนไปเห็นนายโจชัว ไปกี่รอบ ไปพบกับใคร พบกับคนประเภทไหน มีวาระซ่อนเร้น วางแผนคบคิดทำอะไรกันอยู่หรือไม่ แถมยังขณะเกิดเหตุที่ฮ่องกง มีการไปให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน” ผบ.ทบ.ตั้งคำถาม พร้อมนำเสนอภาพจายโจชัวถ่ายรูปคู่กับภาพเงาของบุคคลหนึ่ง

พล.อ.อภิรัชต์ ได้แสดงแผนผังของแนวคิด Hybrid Warfare หรือสงครามลูกผสม โดยกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ เป็นการทำสงครามที่ใช้การผสมผสานกันของเครื่องมือทั้งจากสงครามตามแผนและสงครามนอกแบบ โดยมีรัฐบาลมีกำลังเพียง กำลังทหารปกติ และกำลังทหารรบพิเศษ แต่ฝ่ายไม่หวังดี มีทั้งกองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร การสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่น มีการทำสงครามข้อมูลข่าวสารและการโฆษณาชวนเชื่อ มีการใช้การทูต การโจมตีด้านไซเบอร์ และใช้สงครามเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือ

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวสรุปเป็นการตั้งคำถามกับประชาชนว่า ปัญหาเรื่องความมั่นคงจะให้ใครแก้ นักวิชาการหรืออาจารย์บางคนที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์เดิม เป็น mastermind ร่วมกับนักเรียนนอก “ซ้ายจัดดัดจริต” ที่เรียนจบจากประเทศที่เคยล่าอาณานิคม ชอบอ้างตัวเลข 2475 ชอบอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง หรือ กลุ่มนักการเมืองที่มุ่งหาผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อพวกพ้อง ไม่นึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และยังมีนักการเมืองบางคนในพื้นที่ภาคใต้ที่เกาะแข้งเกาะขานายทหารใหญ่อาศัยบารมีไปตั้งพรรคการเมือง และวันนี้ กลับมามีบทบาทอีกแล้ว โดยเอาเรื่องศาสนา การแบ่งแยกดินแดนมาใช้หาเสียง หรือเชื่อนักการเมืองที่เหมือนผึ้งแตกรังหลังลูกพี่ใหญ่หนีไปต่างประเทศ หรือ นักธุรกิจเจ้าของโรงงาน เกิดมาก็คาบช้อนเงินช้อนทองเหมือนพวกฮ่องเต้ซินโดรม เคยร่วมชุมนุมกับพวกเผาบ้านเผาเมือง สมคบคิด เจาะพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ให้ตนเข้าสู่การเมือง มีพฤติกรรมล้มล้างชาติ สถาบันฯ

"คนทั้ง 3 คนกลุ่มนี้ที่ผมได้เอ่ยมานั้น ไม่ผิดหรอกที่ท่านจะมาเป็นผู้นำประเทศนี้ แต่ขอเถอะครับอย่าคิดล้มล้างสถาบัน อย่าคิดเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองประเทศ ผมและเพื่อนทหาร ตำรวจ จะยืนอยู่ข้างประชาชน และขอให้ประชาชน นิสิต นักศึกษาจำไว้ว่า ทหาร ตำรวจ ก็คือลูกหลานของพวกท่านนั่นเอง” ผบ.ทบ. กล่าว

ปัญหาชายแดนใต้

พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2545 – 2562 โดยระบุว่าสถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับหลังเหตุการณ์ปล้นปืนในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในสมัยรัฐบาล คสช. จึงได้มีการสั่งให้ลดกำลังทหารในการลงพื้นที่ จนกระทั่งเริ่มหนักขึ้นหลังมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่มีคดีการวางระเบิด 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และย้ำว่าอย่าลืมเหตุการณ์ที่คนไม่หวังดีก่อเหตุวางระเบิดที่ผ่านมา

“ฝ่ายทหาร ตำรวจ จะไม่วางมือเด็ดขาดว่า คนเหล่านี้เชื่อมโยงกับใคร ผมจะไม่มีวันวางมือ มีการเอาคนจากข้างล่างข้ามไปวางแผนฝั่งโน้น แล้วมาทำในการใน กทม. หลังมีการเลือกตั้งไม่กี่เดือน” ผบ.ทบ. ระบุ

พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุก็มีคนบางกลุ่ม นักวิชาการที่อ้างว่ามีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับภาคใต้ ไปตั้งวงเสวนา มีการหยิบยกประเด็น มาตรา 1  ที่ว่าประเทศไทยเป็นอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวแบ่งแยกมิได้ โดยไม่สมควร

“ไม่มีรัฐธรรมนูญที่ไหนบอกว่าแบ่งแยกดินแดนได้ มันจบแล้ว แก้มาตราไหนก็แก้ แต่ถ้าแก้มาตรา 1 ก็จะกระทบกับ มาตราที่จะกระทบกับสถาบันฯ นี่คือความชำนาญของนักวิชาการที่ไม่พูดตรงๆ ออกมาว่าอยากแก้อะไร” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน

ที่ผ่านมา ทหารตกเป็นเป้ามาโดยตลอด... แต่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนมี ตำรวจ เป็นหัวหน้ารัฐบาล มี นายทหาร มี นาย นางสาว มาเป็นรัฐบาล ทหารก็รับใช้ทำงานให้ ไม่เลือกปฏิบัติ เพียงแต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้มองว่าทหาร ปกป้องรัฐธรรมนูญ ประเทศชาติ แต่มองว่า ทหารคืออุปสรรคของประชาธิปไตย ทั้งที่ทหารคือประชาชน” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเพิ่มเติม

ฝ่าบค้านโต้บิ๊กแดง

หลังจากการบรรยายพิเศษของบิ๊กแดง ฝ่ายค้านต่างได้ออกมาโต้ตอบ โดยนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ในช่วงค่ำ “สงครามไฮบริด เกิดขึ้นแล้วจริงๆ และน่ากลัวกว่าที่ ผบ.ทบ.พูดไว้เยอะ คือการใช้กองทัพ องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม ทำลายล้างคนที่คิดต่างทางการเมือง”

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ผบ.ทบ. ไม่ควรเลือกข้างทางการเมือง หรือแสดงความเห็นในลักษณะประกาศจุดยืนจนเป็นการแทรกแซงกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย จนทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเสียเอง

“พล.อ.อภิรัชต์ ยังคงวงเวียนอยู่กับชุดความคิดเดิมๆ ว่า คนที่มีจุดยืน ความเชื่อ ทัศนคติทางการเมืองที่แตกต่างจากท่าน คือพวกหนักแผ่นดิน วันนี้ โลกก้าวไกล คนไทยอยากเห็นทหารมืออาชีพ ที่ไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง ไม่อยากเห็นการผลิตวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ที่ไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ” นายอนุสรณ์ กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง