อดีตลูกจ้างโครงการ 4500 นับร้อยคนยื่นหนังสือร้องเรียนหลังตกงาน
2018.12.19
ปัตตานี และนราธิวาส
ในวันพุธนี้ อดีตลูกจ้างในโครงการเร่งด่วนหรือ 4500 บาท ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ส่งหนังสือร้องทุกข์จ่าหน้าถึงนายกรัฐมนตรีต่อศูนย์ดำรงธรรม หลังจากที่ถูกเลิกจ้างเพราะหมดสัญญาจ้างงานเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2561 โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมรับปากว่าจะหาทางช่วยเหลือ
ในก่อนหน้านี้ พ.อ.ปราโมทย์ ได้เคยชี้แจงถึงการเลิกจ้างงานลูกจ้างในโครงการเร่งด่วนหรือ 4500 บาท ว่า เป็นไปตามกลไกของระเบียบโครงการมีการปรับลดอัตราจ้างลงทุกปี ซึ่งในปีงบประมาณใหม่นี้ ได้ปรับลดตำแหน่งลงทั้งหมด 740 ราย โดยหน่วยงานรัฐพยายามหาทางช่วยเหลือในรายที่เดือดร้อนเป็นกรณีๆ ไป
“ได้ชี้แจงสร้างความเข้าใจถึงกรณีเหตุผลการเลิกจ้าง เนื่องจากครบตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนด คือ ครบ 10 ปี จำเป็นต้องจ้างผู้ได้รับผลกระทบคนอื่นทดแทน” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
"ปีงบประมาณ 2562 มียอดจำนวน 17,219 อัตรา โครงการที่มีความต่อเนื่องร่วมเป็นเวลา 14 ปี ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง และเห็นได้ว่าโครงการได้ถูกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันมีนโยบายที่จะปรับลดลงปีละ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ในทุกๆ ปี" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาขั้นต้นด้วยการให้ผู้ได้รับผลกระทบรวมกลุ่มเสนอโครงการ เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนตามความเหมาะสม และให้ศูนย์ปฏิบัติการ อำเภอเมืองยะลา แก้ปัญหาจ่ายเงินค่าเสื้อที่หักจากสมาชิกคืนคนละ 300 บาท
“ได้มีการประสานศึกษาธิการส่วนหน้า เร่งรัดจ่ายเงินค่าเล่าเรียนบุตรให้ทันเวลา ทางด้านของแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบแนวทางดำเนินโครงการด้วยความโปร่งใส มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และใช้ระบบการจ่ายเงินค่าจ้างตรงเข้าบัญชีของลูกจ้างทุกคน” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนางอรุณรัชฏ์ เจี่ยรุ่งโรจน์ อายุ 56 ปี กล่าวว่า ตนเองเดือดร้อนเพราะทางการไม่ได้แจ้งให้เตรียมตัวล่วงหน้า
“ฉันได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยตัวฉันเองและลูกสาวถูกระเบิด ทำให้ลูกสาวเสียชีวิต ส่วนฉันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อปี 2550 ตอนนี้ ถูกเลิกจ้างแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เขาไม่มีการบอกล่วงหน้า ทำให้ได้รับความเดือดร้อนมากตอนนี้" นางอรุณรัชฏ์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
สำหรับ โครงการพัฒนาเร่งด่วนนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการสร้างงานและจ้างงานเร่งด่วนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาตั้งแต่ปี 2548 และเริ่มกระบวนการจ้างงานคนในพื้นที่รุ่นแรก เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2548 จำนวนกว่า 4 หมื่นอัตรา โดยรัฐจ่ายเงินเดือนให้คนละ 4,500 บาทเข้าบัญชีลูกจ้างเอง ทั้งนี้ จะเน้นกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการรุนแรง
"ในส่วนปีงบประมาณ 2562 ได้รับอนุมัติจำนวน 3,260 อัตราปรับลดลง 740 อัตรา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้กำหนดหลักเกณฑ์ลูกจ้างบรรจุครบ 10 ปีเลิกจ้าง" พ.อ.ปราโมทย์กล่าว
โครงการนี้ มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกลูกจ้างว่า ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา ต้องมีการรับรองสามฝ่ายว่าเป็นคดีความมั่นคง ต้องไม่เป็นราชการประจำหรือลูกจ้างของส่วนราชการ เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส กรณีบาดเจ็บสาหัสข้าราชการประจำและข้าราชการบำนาญไม่สามารถใช้สิทธิ์บรรจุทายาทได้ กรณีเสียชีวิตทายาทบรรจุได้ผู้เสียชีวิต 1 คน ทายาท 1 คน ซึ่งทายาทประกอบด้วยสามีภรรยาบุตรบิดามารดาของผู้เสียชีวิต กรณีเสียชีวิต ทายาทบรรจุได้ ซึ่งเป็นทายาทของข้าราชการประจำ ข้าราชการบำนาญลูกจ้างของส่วนราชการและประชาชน
"โครงการนี้ มีกลุ่มงานทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย กลุ่มภารกิจการฝึกทักษะอาชีพ กลุ่มงานเสริมสร้างความเข้าใจและกลุ่มงานเยียวยา ทุกตำแหน่งสามารถตรวจสอบได้หมด เพราะจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีในส่วนชื่อที่เราดูแลอยู่ เขาสำคัญ เขาทำหน้าที่สร้างความเข้าใจ" พ.อ.ปราโมทย์กล่าว
นางกายะห์ หามะ กล่าวว่า พ่อแม่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตหมด เหตุเกิดที่ อำเภอกรงปินัง จ.ยะลา เมื่อปี 2551 เดือดร้อนมากต้องดูแลน้อง ๆ แทนพ่อและแม่
“พอรู้ว่า กอรมน. เลิกจ้างยิ่งลำบากเดือดร้อนหนักกว่าเดิม" นางกายะห์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ด้านนายธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ในฐานะ โฆษก ศอ.บต. ได้กล่าวว่า ขอขอบคุณที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของ ศอ.บต. ว่าเป็นศูนย์กลาง เป็นที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ศอ.บต. และกอ.รมน. ได้รับเรื่องเพื่อนำไปเสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เป็นไปตามขั้นตอน และจะช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอย่างสุดความสามารถต่อไป