เหตุโจมตีฐานชคต.เมืองปัตตานี อาจมีคนร้ายถึง 20 คน เจ้าหน้าที่ระบุ

มารียัม อัฮหมัด
2019.07.24
ปัตตานี
190724-TH-insurgents-attack-800.jpg เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดที่ถูกกลุ่มคนร้ายโจมตี ฐานชุดคุ้มครองตำบล บ้านกอแลปิเละ อำเภอเมืองปัตตานี วันที่ 24 กรกฎาคม 2562
รอยเตอร์

ในวันพุธนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สรุปผลการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ คนร้ายโจมตีด้วยระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่ ณ ฐานชุดคุ้มครองตำบล บ้านกอแลปิเละ อำเภอเมืองปัตตานี โดยระบุว่า คนร้ายที่ก่อเหตุอาจมีมากถึง 20 คน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบล เสียชีวิตแล้ว 4 นาย เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายอยู่ในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง

เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ลงตรวจสอบพื้นที่ และเก็บหลักฐาน รวมถึงพูดคุยกับพยาน ในเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายโจมตี เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายใช้ระเบิด และอาวุธปืน โจมตีฐานและจุดตรวจบ้านกอแลปิเละ ม.7 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบล เสียชีวิตรวม 4 นาย และบาดเจ็บ 3 นาย

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ 1. จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี อายุ 35 ปี 2. นายอุสมาน ตาสาเมาะ อายุ 27 ปี 3. นายอุสมาน บาซาร์ อายุ 26 ปี และ 4. นายอับดุลฟัตตา เส็มเหรม อายุ 25 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ 1. นายไพศาล มูซอดี อายุ 30 ปี 2. นายนิอามิน มะสาแม อายุ 25 ปี และ 3. นายรุสดี ตาสาเมาะ อายุ 24 ปี

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระบุว่า ปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่จากหลักฐานภาพถ่าย อาจมีคนร้ายถึง 20 คน

“หลักฐานบางส่วนต้องรอผลนิติวิทยาศาสตร์ คนร้ายที่เห็นในภาพมี 10 กว่าคน ถ้ารวมจุดที่เผา และโรยตะปูเรือใบ น่าจะถึง 20 คน คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ปืนเอชเค 33 จำนวน 4 กระบอก และปืนสั้น 1 กระบอก ยุทธวิธีที่ใช้ก่อเหตุ คือ ขว้างระเบิด ยิง และชิงอาวุธ มีชุดยิง ชุดเฝ้าระวัง ชุดโจมตี ชุดชิงอาวุธ มีการรับส่งอาวุธ มีการนำทางสู่จุดก่อเหตุ จุดพาหนี รวมทั้งพวกที่เผายาง โปรยตะปูเรือใบ” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

ในที่เกิดเหตุ พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. (เอ็ม 16) 12 นัด กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. (ปืนกล) 2 นัด และปลอกกระสุนทั้ง 2 แบบรวม 110 ปลอก และพบรอยเลือดบนประตูรถยนต์ส่วนตัวของชาวบ้านในละแวกนั้น เชื่อว่า คนร้ายพยายามจะขโมยรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนี แต่ไม่สำเร็จ

ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และได้สั่งการให้ปิดล้อมหาตัวคนร้ายอย่างเร็วที่สุดแล้ว โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสที่ สายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“การติดตามดำเนินคดี คือ ส่งเจ้าหน้าที่กระจายสู่ 118 หมู่บ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อบีบพื้นที่ของคนร้าย เพราะเชื่อว่าคนร้ายมาจากในหมู่บ้านละแวกนี้ และขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง (สงวนชื่อและนามสกุล) ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายมะนาเซ ไซดี เป็นผู้สั่งการก่อเหตุครั้งนี้ และมี นายอิลยสะ หะแย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบหลายครั้งร่วมก่อเหตุด้วย โดยวันนี้ได้เชิญตัว นายเจะอับดุลรอเซะ ดือราแม คอเต็บมัสยิดนูรุลฮูดา ม.1 ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก มาสอบปากคำที่ สำนักงานศูนย์ประสานงานตาดีกา ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ (PERKASA) ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี ด้วย เนื่องจาก มัสยิดดังกล่าวเป็นมัสยิดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่า การเชิญตัวครั้งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์หรือไม่

เจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ อดีตจำเลยคดีความมั่นคง ถูกยิงเจ็บสาหัส

ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จ.นราธิวาส เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. ว่า ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เลขที่ 15 ม.3 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ นายอัมรัน ตาเยะ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านกำลังนั่งเปลี่ยนยางรถจักรยานยนต์ให้ลูกค้าอยู่ภายในร้าน มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮา สีแดง มาจอดที่ถนนหน้าร้าน แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ ไม่ทราบขนาด ยิงใส่นายอัมรัน 4 นัด กระสุนถูกบริเวณขาซ้าย มือซ้าย หัวไหล่ซ้าย และหน้าท้องของนายอัมรัน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป” พ.ต.อ.ปัตตะ กล่าว

พ.ต.อ.ปัตตะ ระบุว่า ปัจจุบัน นายอัมรัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปทางเขตเทศบาลตำบลต้นไทร อ.บาเจาะ ประเด็นและสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ อยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน เบื้องต้นทราบว่า นายอัมรัน เคยเป็นอดีตจำเลยในคดีความมั่นคง เมื่อปี 2558 ด้วย

ส.ส. ชายแดนใต้ ร้องรัฐบาลทบทวนมาตรการความมั่นคง

ในวันเดียวกัน ณ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ชั่วคราว อาคารทีโอที กรุงเทพฯ แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา แล นายอับดุลบาซิม อาบู ส.ส.พรรคภูมิใจไทย, นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ และ นายวัชระ ยะวอหะซัน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ, นายซูการ์โน มะทา ส.ส. พรรคประชาชาติ และ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ รวมตัวกันยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนมาตรการด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้

“เสนอให้ยกเลิกการใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้พิจารณานำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรแทน… ในการกักตัวและควบคุมตัวให้มีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวตลอดเวลา… ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดในการขยาย หรือไม่ขยายระยะเวลาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย” บางตอนของจดหมายระบุ

“การตรวจร่างกายผู้ถูกควบคุมตัว ให้ทำโดยแพทย์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยความมั่นคง… ยุติการจัดเก็บดีเอ็นเอโดยไม่สมัครใจ และให้ลบฐานข้อมูลดีเอ็นเอของประชาชนที่ไม่สมัครใจซึ่งเคยได้เก็บไว้.. กรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ให้รักษาตัวให้หายก่อนดำเนินกระบวนการ และให้อิสระและความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่” ตอนหนึ่งของจดหมาย

จดหมายยังระบุว่า ขอให้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ให้รัฐบาลทบทวนและพิจารณาเพื่อให้ร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย บังคับใช้ และขอให้รัฐบาลดำเนินการส่งมอบสัตยาบันสารให้กับเลขาธิการสหประชาชาติ ตามข้อกำหนดของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย การคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการสูญหายโดยถูกบังคับที่ประเทศไทยได้ลงนามแล้ว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง