คนร้ายระเบิดตลาดสดพิมลชัย ยะลา ตาย 3 ราย เจ็บ 28 ราย

มาตาฮารี อิสมาแอ และ มารียัม อัฮหมัด
2018.01.22
180122-TH-bomb-1000.jpg เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน จ.ยะลา ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณตลาดสดพิมลชัย หรือตลาดรถไฟ ซอย 3 หน้าร้านเขียงหมูน้องเปิ้ล เขตเทศบาล อ.เมือง จ.ยะลา วันที่ 22 มกราคม 2561
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

คนร้ายวางระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์หน้าตลาดสดพิมลชัย ในอำเภอเมือง ยะลา ในเช้าวันจันทร์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 28 ราย นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในปีใหม่นี้ ซึ่งทุกฝ่ายได้ประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุครั้งนี้

พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และกล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.20 น. โดยคนร้ายนำจักรยานยนต์บอมบ์มาจอดใกล้หน้าร้านขายเนื้อหมู ในตลาดพิมลชัย ซอย 3  ก่อนจุดชนวนระเบิด โดยแรงระเบิดยังได้ทำให้อาคารบ้านเรือน ร้านค้า และยานพาหนะ ในรัศมี 80 เมตร ได้รับความเสียหายอีกด้วย

“คนร้ายหนึ่งคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำนำ มาจอดที่เกิดเหตุโดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ได้ห้ามปรามไม่ให้จอด แต่คนร้ายไม่ฟังจอดรถแล้ว ออกจากพื้นที่โดยเร็ว ต่อมา 4-5 นาที เกิดระเบิดขึ้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเขตเมืองระหว่างที่คนร้ายนำรถเข้ามาจอดว่า มีรูปพรรณอย่างไร และมาทางทิศทางไหน” พ.ต.อ.ประวิตรกล่าว

น.ส.รอบียะ มะมิง แม่ค้าผักในตลาดสดพิมลชัย กล่าวว่า ตนเองได้ออกไปส่งของแล้วกลับเข้ามาพบเห็นเหตุการณ์ ทำให้ตกใจมาก เพราะมารดาของตนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

“จะเป็นลม ขาสั่นใจหาย เหมือนจะช็อค ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมต้องฆ่าคนบริสุทธิ์ด้วย เขาทำอะไรให้เหรอ” น.ส.รอบียะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

สำหรับผู้เสียชีวิตมี 3 ราย คือ นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง แม่ค้าขายเนื้อหมู นางสุปรีดา เจนนฤมิตร และ นายมะยากี แวนาแว และผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 ราย ทราบชื่อบางส่วนประกอบด้วย 1. น.ส.หนูหาญ ประเสริฐสัน 2. นายวิชัย เจ๊ะมะ 3. นางนิตยา พิบูลย์ 4. น.ส.สมพร ลุ่ยจิ๋ว 5. นายณรงค์รัฐ แก้วสุขศรี 6. นางวราพร ชูแก้ว 7. นางฉวีวรรณ นนทฤทธิ์ 8. นางธมลวรรณ แซ่กัง 9. นางจินดา วิชาญอุดม 10. นางนาง ไม่ทราบนามสกุล 11. นางตาล ไม่ทราบนามสกุล 12. นายเชิดบัญชา มาเปี่ยม 13. นางพรรณี เจริญธนวิธ 14. นางสุภารัตน์ แซ่ตั้ง 15. นายภัทรพงษ์ แซ่ตั้ง 16. างสว่างนภา นรสิงห์ 17. นางนิตยา ภคพัลย์ และ 18. นางปวีณา หมื่นชุม

จากตัวเลฃที่เบนาร์นิวส์ รวบรวมจากทางการ นับตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 12 ราย และบาดเจ็บ 42 ราย

ในขณะที่ ร.ต.ท.เอกพงศ์ รัตนชัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองยะลา เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อกลุ่มขบวนการ โดยกล่าวว่าการกระทำครั้งนี้ ไม่ใช่การกระทำของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นกลุ่มซึ่งถูกจ้างวานมาเพื่อทำลายระบบเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ในห้วงที่ผ่านมาพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เหตุการณ์ในวันนี้ เชื่อว่าเป็นการต้องการทำลายเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าที่แห่งนี้มีประชาชนมาซื้ออาหารกันจำนวนมาก เรื่องของเหตุการณ์อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน เป็นเพียงคนร้ายที่รับคำสั่งมา ที่ก็ทราบกันว่ามีไม่กี่ตระกูลที่ทำแบบนี้ได้ เพราะมี 3-4 ตระกูล ที่มีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้ เป็นคนทำ” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าว

พล.ท.ปิยวัฒน์ ยังได้กล่าวว่า เหตุการณ์วันนี้ มีความรุนแรงที่สุดในพื้นที่นี้ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ที่ปกติมีแต่ความสงบสุข

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง (สงวนชื่อ-นามสกุล) รายหนึ่ง เปิดเผยแก่เบนาร์นิวส์ว่า จักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุเป็นของ น.ส.นงลักษณ์ สิงห์แก้ว ชาว ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เลขทะเบียน กจ-6986 ยะลา แจ้งหายเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา การกระทำครั้งนี้ เป็นของกลุ่มโจรมะรอยี มะแอ หัวหน้ากลุ่ม Platong (กองกำลังระดับหมวด) ของ “องค์กรปฏิวัติปัตตานี”

ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการมายังท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เร่งรัดดำเนินการสองเรื่องใหญ่ๆ คือ การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และเร่งรัดในการติดตามคนร้าย

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ร.ต.ท.เวชยันต์ หิรัญสุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายมะคอดาพี บาดี อายุ 28 ปี ที่หน้าอกและหน้าท้องเสียชีวิตทันที ในพื้นที่ ม.1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่ได้สรุปสาเหตุ

สำนักงานเลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขฯ ย้ำไม่ยอมรับการกดดันด้วยเหตุรุนแรง

เหตุระเบิดในวันนี้ เกิดขึ้นท่างกลางความพยายามของ สำนักงานเลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะผลักดันให้มีการตั้งพื้นที่ปลอดภัยขึ้นมาหนึ่งอำเภอ เพื่อทดสอบความไววางใจร่วมกันของฝ่ายไทยและฝ่ายมาราปาตานี ซึ่งเป็นองค์กรในการเจรจาของฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ

หลังเกิด สำนักงานเลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขฯ ได้ออกแถลงการณ์ประณามผู้ที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงของฝ่ายผู้เห็นต่างกลุ่มใดๆ ก็ตามที่ใช้ความรุนแรงเพื่อกดดันรัฐบาล

“... รัฐบาลและคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ยินดี และเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาร่วมกันตามแนวทางสันติวิธี แต่จะไม่ให้โอกาสผู้ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน เนื่องจากเป็นการกระทำของอาชญากร มิใช่การต่อสู้ตามอุดมการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้การปฏิบัติทางทหาร และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่ออาชญากรที่ไร้มนุษยธรรมเหล่านี้” ข้อความส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของสำนักงานเลขานุการคณะพูดคุยสันติสุขฯ ระบุ

ด้านประชาชนในพื้นที่ และเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุทันที เรียกร้องให้ ทุกฝ่ายประณามการกระทำของคนร้าย และให้ทุกฝ่ายเดินหน้าเข้าสู่การพูดคุยสันติสุขโดยเร็ว

“ขอให้กลุ่มก่อการหรือกลุ่มที่มีความเห็นต่างจากรัฐ และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในพื้นที่ ยุติการกระทำที่สร้างความรุนแรงต่อพลเรือน และผู้อ่อนแอ ขอเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ และพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศร่วมลงนามหรือออกแถลงการณ์ ประณาม และแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่เอาความรุนแรง คุ้มครองประชาชน ให้ตลาด โรงเรียน มัสยิด วัด โรงพยาบาลเป็นที่ปลอดภัย” แถลงการณ์ระบุ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง