ผบ.พล.ร.15 สั่งเข้มงวดคนข้ามฝั่งไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันภัยจากผู้ก่อความไม่สงบ-ไอเอส

มาตาฮารี อิสมาแอ
2017.06.08
นราธิวาส
TH-border-crossing-1000 ผู้ให้บริการข้ามฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ไปมาเลเซีย รอลูกค้าที่ริมฝั่งท่าเรือเจ๊ะกาเซ็ง ในอำเภอสุไหงโก-ลก นราธิวาส วันที่ 5 พ.ค. 2560
เบนาร์นิวส์

ในวันนี้ พลตรีวิชาญ สุขสง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่ายืนยันว่า ได้เน้นให้ทหารวางกำลังและเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้า-ออก เป็นกรณีพิเศษ ตามจุดผ่อนปรนซึ่งเป็นท่าเรือต่างๆ ตามริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่กั้นพรมแดนไทย-มาเลเซีย แต่ไม่ได้มีการปิดจุดผ่อนปรนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พลตรีวิชาญ ได้ชี้แจงในเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากที่นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก และภาคธุรกิจ ได้มายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยผ่านทางนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เพื่อขอให้เปิดจุดผ่อนปรนข้ามแดนตามท่าเรือต่างๆ ตามริมลำน้ำสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา

ซึ่งในเบื้องต้น นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น ตนได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอ และฝ่ายหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งเห็นผลตรงกันว่า ต้องมีการดูแลด่านตรวจในเขตชายแดนอย่างเข้มงวด เนื่องจากงานการข่าวมีการแจ้งว่าในช่วงเดือนรอมฎอน อาจมีผู้ไม่หวังดีข้ามฝั่งมาก่อเหตุร้ายได้ และทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าได้มีการปิดท่าเรือผ่านแดนชั่วคราวหลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม พลตรีวิชาญ ได้กล่าวย้ำในวันนี้ว่า ไม่ได้มีการปิดจุดผ่านแดนผ่อนปรนตามท่าเรือต่างๆ แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ได้มีความเข้มงวดในการตรวจตราผู้เดินทางเข้า-ออกทุกช่องทาง เพื่อป้องกันของผิดกฎหมายที่เป็นภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง หรือท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือภัยต่อความมั่นคงอื่นๆ ทุกรูปแบบ

“ชาวบ้านยังสามารถที่ใช้เส้นทางข้ามฝั่งไปมาได้ แต่จะมีเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์-ตรวจสอบประชาชนที่ไปมาในช่องทางจุดผ่อนปรน หากเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น ก็ต้องให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่” พลตรีวิชาญ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“ทั้งนี้ หลักสำคัญ คือ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่จะใช้เส้นทางชายแดนในการเล็ดลอดของบุคคล และนำระเบิด วัตถุอันตราย มาก่อเหตุทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังป้องกันกลุ่มคนร้าย” พลตรีวิชาญ กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามอีกว่า มาตรการดังกล่าว เป็นไปเพื่อการป้องกันภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมทั้งขบวนการไอเอสด้วยหรือไม่ พลตรีวิชาญ กล่าวตอบว่า “เราทำรวมในการป้องกันและปราบปรามถึงภัยก่อความไม่สงบทุกรูปแบบ ที่นำจะนำมาซึ่งภัยอันตรายและผลกระทบความมั่นคงต่อประเทศ”

นอกจากนั้น พลตรีวิชาญ กล่าวว่า ได้มีการจัดตั้งหน่วยรบพิเศษในการทำงานลาดตระเวนหาข่าว และหน่วยจรยุทธเคลื่อนที่เร็ว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ที่เดินทางมาตรวจราชการในจังหวัดนราธิวาส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทางการไทยได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน หลังจากที่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ มีรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจ มาเลเซียว่า นายมูฮัมหมัด มุซซาฟฟา อารีฟ จูไนดิ (Muhammad Muzaffa Arieff Junaidi) อายุ 27 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านกือเตาะ เมืองรันตาปันหยัง รัฐกลันตัน เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกขบวนการไอเอส หลบหนีการจับกุมเข้ามายังสุไหงโก-ลก อย่างไรก็ตาม นายมูฮัมหมัด มุซซาฟฟา ถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมได้ในภายหลัง เมื่อหลบหนีกลับไปยังมาเลเซีย

นอกจากนั้น ไทยและมาเลเซีย ยังได้ประสานความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยร่วมกัน โดยในวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.ต.สิทธิพร มุสิกะสิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ได้เดินทางไปพบปะกับ พ.ท.ฟอซี่ ผบ.พัน.ร.24 RAMD ที่บริเวณ ฐานปฏิบัติการซาฮาร่า บ้านดุเรียนบุรง ปาดังเบรัค รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และทหารสังกัดกองพันที่ 24  กองพลทหารราบที่ 2 ของมาเลเซีย ได้ร่วมเดินทางไปบริเวณด่านประกอบ ในพื้นที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา และอำเภอปาดังเบรัค รัฐเกดะห์ มาเลเซีย เพื่อสาธิตร่วมการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง