คนร้ายยิงผู้ใหญ่บ้านตายในมัสยิด-ยิงชายชราตาย ก่อนรับฮารีรายอพุธนี้

มารียัม อัฮหมัด และ มาตาฮารี อิสมาแอ
2019.06.03
ปัตตานี และ นราธิวาส
190603-TH-ramadan-violence-650.jpg เจ้าหน้าที่ทหาร ปฐมพยาบาลนายซูนัยดี ดือรอนิง ที่ได้รับบาดเจ็บจากระเบิด ในขณะเลี้ยงวัวอยู่ในพื้นที่บ้านนูโร๊ะ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส วันที่ 3 มิถุนายน 2562
มาตาฮารี อิสมาแอ/เบนาร์นิวส์

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ รายงานว่า ในห้วงเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนับตั้งแต่สามทุ่มของวันอาทิตย์จนถึงคืนวันจันทร์นี้ ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายยิงผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตหนึ่งราย และชาวบ้านบาดเจ็บอีกหนึ่งราย ในขณะละหมาดในมัสยิด ในอำเภอระแงะ นราธิวาส และมีชายสูงอายุ ถูกยิงเสียชีวิตอีกหนึ่งรายในวันจันทร์นี้ นอกจากนั้น ยังได้วางระเบิดรอบๆ หน่วยทหารในพื้นที่นราธิวาส และยิงถล่มชาวบ้านด้วยอาวุธสงครามในพื้นที่ยะลา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมอีกสองราย

เหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญอีกเหตุการณ์หนึ่งในเดือนรอมฎอน เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ โดยคนร้ายได้ยิง นายปักรูดิง โต๊ะเด็ง อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต ในขณะละหมาดในมัสยิดบ้านอาแว และยิงได้นายมะยูดี อาบู อายุ 43 ปี บาดเจ็บอีกหนึ่งราย

“ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะ และแผ่นหลัง จำนวนสองนัด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่ง คน พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลยี่งอไปก่อนหน้าแล้ว” ร.ต.ท.ณัฐวรรธน์ แก้วหาญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมเหตุไว้สองประเด็น คือ ปัญหาความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ซึ่งผู้ตายเพิ่งได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ในสมัยแรก และเคยมีความขัดแย้งปัญหาในพื้นที่ แต่ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นความมั่นคง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป

ในวันนี้ ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรี ได้กล่าวประณามการกระทำอันโหดร้าย

“การต่อสู้ที่ทำให้มัสยิดกลายเป็นพื้นที่สังหาร ผู้ละหมาดเป็นเป้ากระสุน สตรีเป็นเหยื่อความคั่งแค้น นักบวชถูกกระทำรุนแรง เป็นการต่อสู้ของผู้ที่หัวใจต่ำทราม มิใช่การทำเพื่อชาติ มิใช่เพื่อศาสนา แต่เป็นการเดินตามก้าวย่างของซาตานโดยแท้” ดร.วิสุทธิ์ กล่าวในวันจันทร์นี้

อีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์นี้ คนร้ายได้ระเบิด เอ็ม.79 ใส่บ้านเรือนประชาชน และได้กราดยิงด้วยอาวุธสงครามอีกหลายนัด เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 97/14 เส้นทางลัดพงยือไร ม.11 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเจ้าของบ้านได้ยิงตอบโต้ จนทำให้คนร้ายหลบหนีไป ส่วนเจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยภายในช่องปาก ในส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

วันต่อมาในตอนกลางวันของวันจันทร์นี้ ร.ต.ท.ภัทรพงษ์ สิงหราช รอง สว.สอบสวน สภ.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่จำนวนสามลูก ในบริเวณใกล้เคียง ฐานปฏิบัติการพันเชิงรุกที่ 1 ร.15 ในบ้านนูโร๊ะ หมู่ที่ 1 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ทำให้นายซูนัยดี ดือรอนิง อายุ 47 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ที่โดนบริเวณหน้าขาด้านขวา ซึ่งทราบว่านายซูนัยดี กำลังเลี้ยงวัวอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแว้ง และนำส่งต่อโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ต่อไป ส่วนระเบิดอีกสองลูก ไม่ได้ทำให้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

เมื่อถึงเวลาหลังหกโมงเย็น ร.ต.ท.ธนิศร์ วุฒิชา รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตริมถนนตรงข้ามมัสยิดบ้านยือลาแป ม.3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พบศพนายดอหะ ตาตา อายุ 68 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้

ด้านพันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ กล่าวในวันนี้ว่า เหตุการณ์รุนแรงในเดือนรอมฎอนว่า มีการสูญเสียชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ

“เหตุรุนแรงลดลงจากที่ผ่านมา เพราะเจ้าหน้าที่ได้มีการบูรณาการและประชาชนได้ให้ความร่วมมือ ทำให้สามารถระงับเหตุได้” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

พ.อ.ปราโมทย์ ระบุว่า ในช่วงเดือนรอมฎอน ปีฮิจเราะห์ 1440 นับตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2562 ถึง 3 มิถุนายน 2562 นี้ เกิดเหตุยิง-ระเบิด ทั้งหมด 26 ครั้ง เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บ 45 ราย มีผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบตาย 1 ราย จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และถูกจับตัวได้ 1 ราย

ตามตัวเลขของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ปี 2559 เป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดที่ 16 คน และสูงที่สุดในปี 2547 ที่ 142 ราย ส่วนปีนี้ เดือนรอมฎอนจะสิ้นสุดลงในวันพุธที่ 5 นี้

นับตั้งแต่การที่กลุ่มก่อความไม่สงบปล้นปืนกว่าสี่ร้อยกระบอก ในวันที่ 4 เดือนมกราคม 2547 ไปจากค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ในอำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส จนถึงบัดนี้ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 7,000 คน ขณะที่การพูดคุยเพื่อสันติสุขระหว่างผู้แทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างได้สะดุดลงอีกครั้งไปเมื่อต้นปีนี้

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โต้ข้อกล่าวหาทำเกินกว่าเหตุ

ในวันนี้ พ.อ.ปราโมทย์ ยังได้กล่าวปกป้องการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมนายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการสั่งการ จนมีการปะทะทำให้นายอับดุลเลาะถูกยิงเสียชีวิต และเกิดไฟไหม้บ้านเรือนเป้าหมายจนเสียหาย ว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำจากเบาไปหาหนัก โดยมี อิหม่ามและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมกล่อมคนร้ายให้ยินยอมด้วยแล้ว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาเที่ยงครึ่งของวันจันทร์ที่ 27 พ.ค. นี้ ที่บริเวณบ้านเจาะตาแม ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งยังมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย อีกด้วย

"การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้ทำด้วยความโปร่งใสภายใต้การมีส่วนร่วมของผู้นำสี่เสาหลัก โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธยิงใส่จนบาดเจ็บไป 2 นาย จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธตอบโต้ เพื่อป้องกันตนเอง ใช้กำลังดำเนินการเพียง 60 นาย มิใช่กว่า 500 นาย ตามที่กล่าวอ้างและไม่ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวในวันจันทร์นี้

ทั้งนี้ เฟสบุ๊คเสียงแผ่นดินแม่ ได้เผยแพร่คำให้การของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่า ความพยายามในการเจรจาล้มเหลว และฝ่ายคนร้ายได้เปิดฉากยิงตนเองก่อน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง