ผบ.ทบ. เชื่อผู้นำไทย-มาเลย์ผลักดันการพูดคุยฯ บรรลุผล

มารียัม อัฮหมัด และอารยา โพธิ์จา
2018.10.22
ปัตตานีและกรุงเทพ
181022-TH-army-1000.jpg พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.พูดคุยกับประชาชน ที่ตำบลทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี วันที่ 22 ต.ค. 2561
อารยา โพธิ์จา/เบนาร์นิวส์

พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางลงสามจังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่สุดสัปดาห์จนถึงวันจันทร์นี้ โดยได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า การพูดคุยเพื่อสันติสุขจะดำเนินไปด้วยดีและสถานการณ์จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด จะเดินทางถึงประเทศไทยวันพุธนี้และมีกำหนดอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาสองวัน เพื่อการหารือราชการและความร่วมมือในด้านต่างๆ กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย และจะแสดงการปาฐกถาพิเศษ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

"สำหรับประเด็นการพูดคุยสันติสุขนั้น รัฐบาลไทยและมาเลเซียได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเรื่องปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศมาเลเซียไม่สนับสนุน และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความรุนแรง” พล.อ.อภิรัชต์กล่าวเมื่อวานนี้

“ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุย เพราะมีความละเอียดอ่อน แต่เชื่อว่าการพูดคุยเพื่อสันติสุขในระดับผู้บริหารประเทศทั้งสองฝ่ายมีท่าทีที่ให้ความร่วมมือเต็มที่ เชื่อมั่นว่าในไม่ช้าทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้น” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเพิ่มเติม

ในก่อนหน้านี้ มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แต่งตั้งให้นายอับดุล ราฮิม นูร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยเพื่อสันติสุขระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มมาราปาตานี องค์กรร่มที่ประกอบด้วยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหลายกลุ่มจากชายแดนใต้ ซึ่งอับดุล ราฮิม นูร์ เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม และมีความคุ้นเคยกับปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซียเป็นอย่างดี โดยมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงจากการสลายพรรคคอมมิวนิสต์มลายา โดยอาศัยข้อตกลงสันติภาพในปี 2532

ส่วนฝ่ายไทยนั้น ได้แต่งตั้ง พลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่สี่ เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขแทนพลเอกอักษรา เกิดผล เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในพื้นที่มาก่อน

“สำหรับทีมงานพูดคุยเพื่อสันติสุข จะมีการแถลงในส่วนของนโยบายอย่างกระจ่างมากขึ้นในเร็วๆ นี้” พล.อ.อภิรัชต์กล่าวในวันนี้

บีอาร์เอ็นเสนอให้เจรจาตรง

ในขณะที่ นายอับดุล การีม คาลิด โฆษกของบีอาร์เอ็น ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทย กรุงลอนดอน ทางโทรศัพท์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าการมาเยือนประเทศไทยของ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 24-25 ต.ค. นี้ โดยกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพจะประสบความสำเร็จได้ หากรัฐบาลไทยเจรจาโดยตรงกับ บีอาร์เอ็น

"เราต้องเสนอให้เป็นที่ประจักษ์ให้เขารู้ ณ วันนี้ ระหว่างนายกฯ สองฝ่าย เราต้องเสนอให้เขารับรู้ว่าเรามีความสำคัญ .." นายอับดุล คาลิด กล่าวถึงขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่นับว่าเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด และมีกองกำลังแกร่งที่สุดในปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

"ผมไม่ให้ความสำคัญกับตัวบุคคล ทางบีอาร์เอ็น ให้ความสนใจกับรูปแบบ วิธีการเจรจามากกว่า”

“ถ้าเราไม่มานั่งโต๊ะคุย ดีไซน์ร่วมกัน ผู้ไกล่เกลี่ยคนไหนก็ไม่มีผล ... ถ้ารัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นมาคุยกัน ใครก็ได้มาเป็น ผู้อำนวยความสะดวก" อับดุล การีม คาลิด โฆษกบีอาร์เอ็นให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทย

ผบ.ทบ./มท.ภ.4 เยือนโคกโพธิ์

ในวันนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร พร้อมด้วย พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ลงพื้นที่มัสยิดบ้านควนลังงา ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พบผู้นำศาสนา และผู้แทนคณะกรรมการอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหารือข้อราชการ จากนั้นเยี่ยมชมภายในมัสยิดบ้านควนลังกา ชมคำภีร์กุลอ่านโบราณเขียนด้วยมือ ปกทำจากเปลือกไม้ อายุราว 300 ปี และรับการสวดขอดูอาฮ์ ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า

ต่อมาผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังวัดทรายขาว เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชนชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ที่มาให้การต้อนรับ โดยกล่าวว่า เลือกพื้นที่นี้เพราะมีจุดเด่นมีศูนย์รวมจิตใจทั้งสองศาสนา ทั้งวัด และมัสยิด ซึ่งข้าราชการต้องทำงานดูแลประชาชนให้อยู่อย่างมีความสุข โดยตนเคยรับราชการอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้มาก่อน และรู้สึกดีเหมือนได้กลับมาบ้าน ซึ่งอยากให้ทุกพื้นที่อยู่กันอย่างรักใคร่กลมเกลียวกัน ปรารถนาให้ทุกจังหวัดอยู่เย็นเป็นสุข

ในวันนี้ ที่ศูนย์ดะวะห์ หรือมัรกัสตาเซะ จังหวัดยะลา ชายมุสลิมทั้งไทยและเทศ ราว 2 แสนคน ที่เข้าร่วมกิจกรรมดะวะห์โลก เพื่อร่วมศึกษาแนวทางศาสนาที่ถูกต้องจากอูลามะห์ (ผู้รู้) จากหลากหลายประเทศ และเพื่อนำแนวทางที่ถูกต้องมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน พร้อมเผยแพร่ศาสนาอิสลามทั่วโลก ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ก็ได้สิ้นสุดกิจกรรมลง

“ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่พี่น้องมุสลิม จะได้มาเรียนรู้ การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายตามยุคสมัย เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการมาพบปะระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกันกว่าแสนคน... ถ้าเราสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปกล่อมเกลาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริงได้” นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงทหารพราน ได้กระทำอนาจารเด็กนักเรียน

เมื่อวันเสาร์นี้ พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข้อความในเฟสบุ๊ค ชื่อ Nurul lkwan ลงข้อความเกี่ยวกับอาสาสมัครทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4306 ได้กระทำอนาจารนักเรียนชั้น ป.6 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลปุโล๊ะปูโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และภายหลังได้มีการแชร์ข้อความดังกล่าว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น

ทางพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับทราบเรื่องและสั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อ 18 สิงหาคม 2561 ซึ่งครูประจำชั้นได้นำนักเรียนที่สงสัยว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศคนดังกล่าว ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หนองจิก แต่ไม่ได้มีการตรวจร่างกายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ภายหลังทราบเหตุ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4306 ได้พยายามเข้าไปสร้างความเข้าใจ และไกล่เกลี่ยโดยยินยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย แต่ไม่ได้รายงานให้หน่วยเหนือได้รับทราบ จนปรากฏเป็นข่าวดังกล่าว

แม้ว่าอาสาสมัครทหารพรานคนดังกล่าวจะอ้างว่าไม่ได้มีการล่วงละเมิดทางเพศ แต่ถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับนโยบายของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และกฎเหล็กของเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด ด้วยการปลดอาสาสมัครทหารพรานคนดังกล่าวออกจากราชการตั้งแต่ วันที่ 19 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ควบคุมตัว ณ หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 จนกว่าพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ มีส่วนร่วมในรายงานฉบับนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง