ชาวบ้าน จชต. กว่าห้าหมื่นคน เดินขบวนต้านความรุนแรง

มารียัม อัฮหมัด และมาตาฮารี อิสมาแอ
2019.01.22
ปัตตานี และ นราธิวาส
190122-TH-violence-1000.jpg ตัวแทนชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมเดินขบวนคัดค้านการใช้ความรุนแรง ที่จังหวัดนราธิวาส วันที่ 22 มกราคม 2562
เอเอฟพี

ในวันอังคารนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา รวม 37 อำเภอ มีประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ หน่วยงานราชการ เครือข่ายภาคประชาสังคม นักเรียน นักศึกษา และอาสาสมัคร กว่า 55,500 คน ร่วมเดินรณรงค์ รวมพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบจากทุกฝ่าย พร้อมทั้งถือป้าย ประณามการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังเกิดเหตุยิงพระ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

น.อ.นิรัตน์ ทากุดเรือ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กล่าวว่า การรวมตัวกันของทุกภาคส่วนครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนในสังคมไม่ต้องการความรุนแรง

“ไม่กี่วันที่ผ่านมา ความวุ่นวายเกิดขึ้นกับพี่น้องผู้บริสุทธิ์ ผู้นำศาสนา พระสงฆ์ ถูกทำร้าย เราผนึกกำลังทั้งพี่น้อง พุทธ และมุสลิม เพื่อที่จะประกาศว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผู้ไม่หวังดีที่ทำเป็นบุคคลนอกศาสนา ไม่มีศาสนา เป็นบุคคลที่ทำลายสันติภาพ ทำลายความมั่นคง ทำลายความสุขในดินแดนแห่งนี้ เราต้องช่วยกันประณาม ร่วมกันบอกว่าสิ่งที่ทำนั้นเราไม่ต้องการ” น.อ.นิรัตน์ กล่าว

ด้าน นายมะแอ ท่าน้ำ อดีตแกนนำพูโล กล่าวว่า ปัจจุบัน สังคมไม่ยอมรับการใช้แนวทางความรุนแรงแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรละเว้นการก่อเหตุกับเด็ก สตรี คนชรา และผู้นำศาสนา

“สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ขณะนี้ไม่มีใครยอมรับได้ กติกาของสงครามบอกไว้ชัดเจนว่าต้องละเว้น เด็ก สตรี คนชรา ผู้นำศาสนา ขอเรียกร้องให้ยุติการกระทำเช่นนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สร้างสถานการณ์ขึ้น ไม่มีใครยอมรับได้ โลกก็ไม่สามารถยอมรับได้ ทำแบบนี้แล้วทำให้เสียมวลชน” นายมะแอ กล่าว

ด้านนางสาวคอลีเยาะ หะหลี ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ความสามัคคีของคนในชุมชนจะทำให้สามารถข้ามพ้นความขัดแย้งไปได้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สมควรที่จะประณาม มันเกินความเป็นมนุษย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือ หัวใจของเราทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ ที่จะต้องจับมือกัน และก้าวไปด้วยกัน เพื่อให้ผ่านพ้นความขัดแย้งเหล่านี้ไปให้ได้” นางสาวคอลีเยาะ กล่าว

ในช่วงค่ำวันที่ 18 มกราคม 2562 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงในวัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก ม.2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จนเป็นเหตุให้พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าคณะ อ.สุไหงปาดี และเจ้าอาวาสวัด และพระสมุห์อรรถพร ขุนอำไพ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส มรณภาพในที่เกิดเหตุทันที และมีพระสงฆ์อีก 2 รูป ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ยิงพระสงฆ์ โดยระบุว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามใช้เหตุการณ์ความรุนแรงที่อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ทำลายขวัญกำลังใจ ความอดทนในการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีของไทย มุ่งหวังจะให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าปราบปรามอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเข้าสู่เงื่อนไขสากล นำไปสู่การปฏิบัติการขององค์การระหว่างประเทศ

“รัฐบาล และคสช. ขอให้ทุกคนให้กำลังใจประชาชนทั่วไป ผู้นำศาสนาทุกศาสนา ครู นักเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร ทุกคนในพื้นที่ เพราะเขาอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย และขอให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่” พลเอกประยุทธ์ ระบุในแถลงการณ์

“รวมทั้งขอให้สื่อมวลชน สื่อโซเชียล เสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง และพรรคการเมือง นักการเมือง หาเสียงด้วยความระมัดระวังเช่นกัน” ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุ

ผบ.ทบ. เยี่ยมชายแดนใต้

ในวันเดียวกันนี้ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางลงพื้นที่ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน หลังเหตุกราดยิงพระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป และบาดเจ็บ 2 รูป ที่วัดรัตนานุภาพ ระบุ เตรียมปรับแผนรักษาความปลอดภัย และกล่าวว่าพร้อมส่งทหารที่จะสมัครใจบวชพระตามเวลาปกติอยู่แล้ว จำวัดในสามจังหวัด

พลเอกอภิรัชต์ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่วัดรัตนานุภาพ หลังเข้าเคารพศพพระครูประโชติ และพระสมุห์อรรภพร ว่า พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เตรียมปรับแผนรักษาความปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะให้เจ้าหน้าที่ทหารที่สมัครใจอุปสมบท เพื่อกระจายกำลังจำวัดช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย

“เราจะรับสมัครทหารที่สมัครใจบวช เพื่อส่งมากระจายอยู่ตามวัดต่างๆ ดังที่เคยปฏิบัติกันมาเพื่อสร้างความอุ่นใจ และมั่นใจของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ” พลเอกอภิรัชต์ กล่าวเพิ่มเติม

พลเอกอภิรัชต์ ระบุว่า การให้เจ้าหน้าที่ทหารสมัครใจบวชในวัดพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยปฏิบัติมาแล้วช่วงปี 2547-2549

"ผมขอแสดงความเสียใจและเป็นห่วง... คนร้ายยังคงที่จะพยายามก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่อีก เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจชาวไทยพุทธ แต่ผมเห็นคนไทยและมุสลิมมาร่วมงาน มั่นใจว่ายังมีความรักความสามัคคีไม่เสื่อมคลาย และยิ่งทำให้ในพื้นที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” พลเอกอภิรัชต์ กล่าว

ทั้งนี้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ส่งนายศักดิ์กริยา บิลสาแหละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา  พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย และนายซากี พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการจุฬาราชมนตรี  มาเป็นผู้แทนท่านจุฬาราชมนตรี เพื่อเดินทางไปยังวัดรัตนานุภาพร่วมพิธีศพ ของพระสงฆ์ที่มรณภาพทั้งสองรูป

“มาร่วมแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับครอบครัวของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ และพระสมุห์อรรถพร (พระลูกวัด) ซึ่งมรณภาพจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส” ข้อความจากนายอาศิส ระบุ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง