คนร้ายลวงฆ่าเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดเสียชีวิต 1 นาย ในธารโต

มารียัม อัฮหมัด และมาตาฮารี อิสมาแอ
2019.01.28
ปัตตานี และนราธิวาส
190128-TH-violence-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุลอบยิงชุดเก็บกู้ระเบิดเสียชีวิต ริมถนนในบ้านศรีท่าน้ำ อ.ธารโต จ. ยะลา วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในช่วงบ่ายวันจันทร์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรธารโต จังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายซึ่งสงสัยว่าเป็นขบวนการก่อเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย หลังจากที่คนร้ายใช้ถังแก๊สปิคนิคทำทีว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องวางใกล้ถนนในพื้นที่บ้านศรีท่าน้ำ เพื่อหลอกล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่สังหาร

ร.ต.ท.จิรายุ ฟองประไพ รอง สว.สอบสวน สภ.ธารโต จ.ยะลา กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยเป็นถังแก๊สปิกนิก บริเวณ ม.4 บ้านศรีท่าน้ำ อ.ธารโต จ.ยะลา และต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ฉก.ตชด.44 ได้เข้าทำการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซึ่งในระหว่างตรวจสอบนั้น ได้มีกลุ่มคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ฉก.ตชด.44 จนเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อคือ ด.ต.พิรุณรัตน์ พุทธศิริ

“จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้นำกำลังเพื่อทำการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัย ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ ด.ต.พิรุณรัตน์ พุทธศิริ เสียชีวิต” ร.ต.ท.จิรายุ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“ก่อนหลบหนี คนร้ายได้นำอาวุธปืนพร้อมเสื้อเกราะของเจ้าหน้าที่ไปด้วย ส่วนประเด็นและสาเหตุ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่” ร.ต.ท.จิรายุ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันปีใหม่เป็นต้นมา มีผู้ถูกยิงหรือโดนระเบิดเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 ราย จากตัวเลขที่เบนาร์นิวส์รวบรวมมาจากการแจ้งเหตุของทหารและตำรวจ โดยความรุนแรงเริ่มมีมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา

แพทย์ตำบลสะเอะ กรงปินัง ถูกยิงบาดเจ็บ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม.2562 เวลา 20.10 น. ร.ต.ท.ยชอนันต์ วุฒิ รอง สว.สอบสวน สภ.กรงปินัง จ.ยะลา กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงแพทย์ตำบลสะเอะและสารวัตรกำนัน ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้ามัสยิดยาแมะสะเอะ ม.4 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ในที่เกิดเหตุพบนายมะโซ อาบู อายุ 41 ปี ถูกยิงบริเวณหน้าท้องด้านขวา ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรงปินัง และก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา

จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้เสียหายได้ทำการเผยแพร่ศาสนาในมัสยิดหลังละหมาด ระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่นายมะโซ ก่อนหลบหนี ส่วนประเด็นและสาเหตุ ร.ต.ท.ยชอนันต์ วุฒิ รอง สว.สอบสวน สภ.กรงปินัง จ.ยะลา อยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน

ฉก.ทพ.42 ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย-เจ้าของปอเนาะ 5 ราย

ในวันเดียวกันนี้ พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ.42 นำกำลัง เจ้าหน้าที่กำลังผสมทหารตำรวจและฝ่ายปกครองนำกำลังติดตามบุคคลตามเป้าหมาย ในสถาบันศึกษาปอเนาะมัดรอสาตูลฟาละห์ ในพื้นที่ ม.4 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยจับตา พบว่ามีการฝึกร่างกายและการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่บริเวณด้านหลังปอเนาะ มาก่อนหน้านี้แล้วสองครั้ง

พ.อ.สมคิด กล่าวว่า ผู้ที่ถูกควบคุมตัวประกอบด้วย นายยูโซ๊ะ ฮูเซน นายรอมี มูซอ นายอาซิม รอนิง นาย Himply Man และนายนะเฮง กาแม รวมทั้งได้เชิญตัวนายสะอุดี เลาะแม็ง เจ้าของปอเนาะ ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.มายอ ทำการตรวจเก็บดีเอ็นเอ และส่งตัวไปยังหน่วยซักถาม ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งของจำนวนหลายรายการ

กอ.รมน. 4 แจง ไม่เคยเยียวยาผู้ที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน

ในวันนี้ พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปหนังตลุงและคลิปเครือข่ายตาสวรรค์ป้องกันการทุจริตภาคประชาชน กล่าวหาว่า รัฐจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ารายงานตัว เป็นเงินรายละ 1,000,000 บาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และโจมตีนโยบายของรัฐบาลอย่างกว้างขวาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงให้ทราบว่า ระเบียบการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มี 2 กรณีเท่านั้น คือ

กรณีแรก เป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ว่าเกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งกรณีดังกล่าว จะจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด เช่น เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ ช่วยเหลือรายละ 500,000 บาท เป็นต้น

กรณีที่สอง เป็นการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ใช้ในกรณีที่เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ เช่น โดนลูกหลง สำคัญผิดคิดว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในสถานการณ์ที่ต่อเนื่องกัน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการปรับแก้ระเบียบให้เหมาะสม

ส่วนผู้เข้ารายงานตัว มอบตัว เพื่อเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ด้วยการเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินกรรมวิธีตามขั้นตอนต่างๆ ที่กำหนดไว้

“การดำเนินการที่ผ่านมาได้มีผู้เห็นต่างที่ต้องการยุติบทบาท สำหรับผู้ที่มีหมายจับ ป.วิอาญา จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายโดยไม่มีการยกเว้นโทษ รวมทั้งไม่ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น ที่อยู่อาศัยหรือค่าเยียวยารายละ 1,000,000 บาท เพื่อจูงใจให้เข้ารายงานตัวตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด” พันเอกปราโมทย์ กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง