ทหารปล่อยสราวุธ บำรุงกิตติคุณ ผู้ดูแลเพจ“เปิดประเด็น”แล้ว หลังคุมตัวนาน 8 วัน

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.03.16
กรุงเทพฯ
TH-dissident-620 นายสราวุธ บำรุงกิตติคุณ (คนกลาง) ถ่ายรูปกับครอบครัวที่ไปรับตัว หลังจากการทหารปล่อยตัว วันที่ 16 มี.ค. 2559
(ภาพโดย นายสราวุธ บำรุงกิตติคุณ)

เมื่อช่วงเช้าของวันพุธ (16 มี.ค. 2559) นี้ ครอบครัวของนายสราวุธ บำรุงกิตติคุณ ผู้ดูแลเฟซบุ๊คแฟนเพจ “เปิดประเด็น”ซึ่งเป็นเพจที่วิพากษ์วิจารณ์การเมือง (ปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้ว) ได้รับการติดต่อจากทหารให้มารับตัวนายสราวุธที่ค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45 จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากที่นายสราวุธถูกควบคุมตัวเป็นเวลาถึง 8 วัน ปัจจุบัน นายสราวุธได้กลับไปพักอาศัยที่บ้านพักตามปกติแล้ว และยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

การควบคุมตัวนายสราวุธ บำรุงกิตติคุณ เกิดขึ้นในวันที่ 9 มีนาคม 2559 โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้บุกเข้าไปในที่พักส่วนตัวของนายสราวุธ ทำการยึดเอาโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ แล้วได้ควบคุมตัวนายสราวุธไปยังค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในวันที่ 10 มีนาคม 2559 ได้เคลื่อนย้ายนายสราวุธเข้าไปในกรุงเทพมหานคร โดยไม่มีการเปิดเผยว่า ควบคุมตัวนายสราวุธไว้ที่ใด

หลังจากทราบข่าวการควบคุมตัว ในวันที่ 11 มีนาคม 2559 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หลังการรัฐประหาร จึงได้ติดต่อกับครอบครัวของนายสราวุธเพื่อให้ความช่วยเหลือติดตามตัว อย่างไรก็ตามศูนย์ทนายฯ ไม่ได้รับข้อมูลของนายสราวุธจากทหาร จนกระทั่ง ครอบครัวของนายสราวุธได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ให้ไปรับตัวนายสราวุธที่ค่ายวิภาวดีรังสิต ในเวลา 08.00 น. ของวันนี้ ซึ่งเบนาร์นิวส์ได้พยายามติดต่อสัมภาษณ์นายสราวุธทางข้อความแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันนี้ นายสราวุธโพสต์วิดีโอลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว บอกเล่าเรื่องการควบคุมตัวสั้นๆว่า เขาปลอดภัยดี แต่ยังมีอาการหวาดวิตก

“ปลอดภัยดีทุกอย่าง ไม่มีการทำร้ายร่างกาย พูดถึงสิ่งที่น่าจะโดนก็คือ มีผู้ไม่หวังดีไปแจ้งอะไรสักอย่างนี่แหละ ทำให้เขา(ทหาร)เชื่อว่าผมอยู่ในเครือข่ายหมิ่นฯ อะไรนี่แหละ ซึ่งผมไม่เคย… มีพฤติกรรมแบบนั้น” นายสราวุธกล่าวในวิดีโอ

โดย นายสราวุธยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาเขาพยายามชักชวนคนให้วิพากษ์วิจารณ์การเมืองในแบบชาวบ้าน ไม่เคยหวังให้เฟซบุ๊คแฟนเพจ “เปิดประเด็น” มีชื่อเสียง เพียงแค่เป็นคนชอบถกเถียง และสร้างเพจเอาไว้รวบรวมข้อมูลเพื่อถกเถียงในหลายๆเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง

ด้าน น.ส. พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นผู้ที่ติดต่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายสราวุธ ขณะที่นายสราวุธถูกควบคุมตัว เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ว่า การควบคุมตัวนายสราวุธครั้งนี้ มีลักษณะที่ละเมิดคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 3/2558 เนื่องจากการควบคุมตัวครั้งนี้ มีระยะเวลาเกิน 7 วัน และยังขัดต่อหลักการสากล

“โดยตัวคำสั่ง แล้วก็โดยการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ มันไม่มีการเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัว ทำให้ญาติหรือทนายความไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นการละเมิดพันธกรณีบังคับให้บุคคลสูญหาย และสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง” น.ส.พูนสุขกล่าว

ปฎิกิริยาจากภาคส่วนอื่นต่อการควบคุมตัวนายสราวุธ

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2559 พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน และไม่ทราบว่าแอดมินเพจเปิดประเด็น ถูกทหารเชิญตัวไปจริงหรือไม่ และถูกเชิญตัวด้วยเหตุผลใด โดยขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

และเพิ่มเติมว่า โดยปกติแล้วการปฏิบัติงานของทหารภายใต้กรอบการทำงานของ คสช. ในการเชิญตัวบุคคลใดไปพูดคุยทำความเข้าใจ จะกระทำอย่างเปิดเผย และเป็นไปตามขั้นตอน ขณะเดียวกันในบางกรณีอาจเป็นการเชิญตัวโดยทหารที่ปฏิบัติงานดูแลในแต่ละพื้นที่ แต่ก็ยังคงเป็นไปตามแนวทางของ คสช.

ในวันนี้ ก่อนได้รับแจ้งปล่อยตัวนายสราวุธ องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการควบคุมตัวนายสราวุธ บำรุงกิตติคุณ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลต้องอนุญาตให้ครอบครัว และทนายได้พบ และให้ปล่อยตัวนายสราวุธ หากไม่มีการตั้งข้อหาใด

ทั้งนี้ยังได้ระบุว่า การจับกุมและควบคุมตัวโดยพลการครั้งนี้ เข้าข่ายเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง