กกต. เตรียมพิจารณาสูตรการคำนวณ สส. แบบแบ่งเขต

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.04.29
กรุงเทพฯ
190429-TH-election-1000.jpg กำลังพลเข้าแถวรอลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้ง เขตพญาไท กรุงเทพ วันที่ 24 มีนาคม 2562
ภิมุข รักขนาม/เบนาร์นิวส์

ในวันนี้ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สูตรการคำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีเพียงสูตรเดียวที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้คิดไม่มีสูตรอื่น และจะสามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ตามกำหนด ในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้ ในขณะที่การนับคะแนนใหม่ ที่จังหวัดนครปฐม ยังหาข้อสรุปไม่ได้

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ กกต. มอบหมายให้ สำนักงาน กกต. หาสูตรคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่มีการนำเสนอข่าวออกมาก่อนหน้านี้มีว่า มีประมาณ 2–3 สูตรการคำนวณ ตามที่เป็นสูตรตามกฎหมาย และสูตรที่นักวิชาการเสนอมาว่า สูตรที่ใช้ในการคำนวณมีเพียงสูตรเดียว

“ตอนนี้ ขอยืนยันว่า สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีเพียงสูตรเดียว คือสูตรที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้คิดและเป็นผู้เสนอ ยืนยันไม่มีสูตรอื่น คือ มี 27 พรรคการเมืองได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวกับไทยรัฐ

ในวันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์ ชี้แจงถึงกรณีที่ กกต. ยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งได้ทั้งที่ผ่านการเลือกตั้งมากกว่า 1 เดือนแล้วว่า ทุกอย่างเป็นไปตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.

“ขอเรียนว่า ตามมาตรา 127 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้กำหนดว่า ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ก็ต่อเมื่อตรวจสอบแล้ว มีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด” เอกสาร ระบุ

ทั้งนี้ กกต. ตั้งเป้าหมายจะประกาศผลการเลือกตั้ง ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้ ตามกรอบเวลาหลังการประกาศการเลือกตั้ง

นับคะแนนใหม่ จังหวัดนครปฐม ยังวุ่นไม่จบ

จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ร้องเรียนให้ กกต. นับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีการสับสนในการประกาศผลคะแนน เนื่องจากตัวเลขการนับคะแนนทั้ง 5 ครั้ง ยังไม่ตรงกัน ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ และ พรรคประชาธิปัตย์ต่างประกาศชัยชนะ

ในวันนี้ นางสาวสาวิกา ลิมปสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องให้ กกต. จัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งเขตในจังหวัดนครปฐม หลังจากพบว่า ผลการนับคะแนนมีการเปลี่ยนแปลงไปมาถึง 5 ครั้ง ดังต่อไปนี้

24 มีนาคม กกต.ประกาศให้พรรคอนาคตใหม่แพ้ประชาธิปัตย์ 147 คะแนน ด้วยคะแนน 35,615 ต่อ 35,762 แต่หนึ่งสัปดาห์หลังเลือกตั้ง ผู้สมัครอนาคตใหม่ขอคะแนนรายหน่วยจาก กกต. มาตรวจสอบเอง พบว่าพรรคอนาคตใหม่ ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,766 ต่อ 35,762

เมื่อวันที่ 28 เมษายน พรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัยชนะ ได้คะแนนมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,711 และทางนายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี กรรมการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคอนาคตใหม่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 62 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,645

ในวันที่ 29 เมษายน นี้ นายจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน 35,707 ต่อ 35,711

นางสาวสาวิกา ระบุในแถลงการณ์ว่า คะแนนที่เปลี่ยนไปมาเช่นนี้ ทำให้ไม่สามารถหาข้อยุติอันชอบธรรมได้เลยว่า ผลการเลือกตั้งครั้งใดถือว่าเป็นครั้งที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุไฟดับนานถึง 20 วินาทีในระหว่างการนับคะแนน และผู้สังเกตการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ได้ตรวจสอบพบเหตุผิดปกติหลายกรณี มากเกินกว่าจำนวนคะแนนที่พรรคอนาคตใหม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์

“ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นกรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของจังหวัดนครปฐม มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง พรรคอนาคตใหม่จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 124 เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย” นางสาวสาวิกา ระบุในแถลงการณ์

ในวันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีผลการนับคะแนนใหม่ จ.นครปฐมว่า ทางพรรคฯ ได้ส่งตัวแทนร่วมสังเกตการณ์ และมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งที่เขต 1 จ.นครปฐม และหากมีผลคะแนนที่ไม่ตรงควรมีผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับ เพราะช่วงการนับคะแนนมีทุกฝ่ายมาสังเกตการณ์อยู่แล้ว และอยากให้ กกต.สร้างความชัดเจนโดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบความน่าเชื่อถือของ กกต.ได้" นายสาธิต กล่าว

ด้านนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงถึงปัญหาการนับคะแนนใหม่เขต 1 นครปฐม ว่าเกิดจากความผิดพลาดในการกรอกคะแนนด้วยลายมือทำให้ผลคะแนนไม่ตรงกับใบนับคะแนน ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากตัวบุคคลที่สุดท้ายสามารถตรวจสอบได้ว่าผิดพลาดที่จุดไหน

ยืนยันระบบเลือกตั้งของ กกต.มีความปลอดภัยในการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตทั้งระหว่างลงคะแนน และหลังประกาศคะแนน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้” นายแสวง กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง