ลูกเรือที่ถูกทิ้งในทะเลโซมาเลียชุดสุดท้าย 14 คน ถึงไทยแล้ว

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.08.30
กรุงเทพ
190830-TH-fishermen-somalia-800.jpg หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกนายหน้าโกงค่าจ้าง (ยกมือไหว้) เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากทางการไทยให้ความช่วยเหลือ วันที่ 30 สิงหาคม 2562
กองกิจการพลเรือนทหารเรือ

ในวันศุกร์นี้ ลูกเรือไทยชุดสุดท้าย รวม 14 คน ซึ่งถูกนายหน้าโกงค่าจ้างและถูกทิ้งไว้ในทะเลน่านน้ำประเทศโซมาเลีย ทวีปแอฟริกา ได้เดินทางโดยเครื่องบินกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่ง ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่า จะได้มีการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป

แรงงานกลุ่มนี้ประสบปัญหาถูกนายจ้างลอยแพบนเรือประมงกลางทะเลชายฝั่งโบซาโซ่ ประเทศโซมาเลีย เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว โดยมีแรงงานไปทำงานกับนายจ้างชาวอิหร่าน 42 คน ในเรือ 2 ลำ คือ เรือวาดานิ 1 (WADANI 1) 22 คน และวาดานิ 2 (WADANI 2) 20 คน ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ แรงงานทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือ และถูกส่งตัวกลับประเทศไทย โดยชุดแรก 18 คน กลับมาถึงเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ซึ่งก่อนหน้านั้น มีแรงงานที่ได้เดินทางกลับมาเองโดยไม่ได้แจ้งกระทรวงแรงงาน 4 คน ขณะที่ แรงงานอีก 6 คน แจ้งความประสงค์ต่อกระทรวงแรงงานว่า จะทำงานกับนายจ้างชาวอิหร่านต่อไป

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเดินทางไปรับแรงงาน 14 คน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวแก่สื่อมวลชนว่า กระทรวงฯ จะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการทอดทิ้งแรงงานของนายจ้างต่อไป

"กรมการจัดหางานได้ร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อำนวยความสะดวกโดยจัดรถรับ-ส่ง พร้อมจัดหาที่พักให้แก่แรงงานก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา และจากนี้จะได้สอบข้อเท็จจริงจากแรงงานไทย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานต่อไป" ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว

การช่วยเหลือครั้งนี้ เป็นการประสานงานของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 17-18 ส.ค.ที่ผ่านมา อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานฯ ได้เดินทางไปพบปะกับลูกเรือไทย ที่เมืองบันดาอับบาส ประเทศอิหร่าน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความห่วงใยของรัฐบาลไทย และกระทรวงแรงงาน รับทราบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน และความต้องการของลูกเรือ โดยให้มีการเจรจาหาข้อสรุปที่เหมาะสมร่วมกัน มอบเอกสารข้อมูลที่สำคัญด้านแรงงานให้กับลูกเรือ รวมทั้งเรื่องกองทุนเพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจในครั้งนี้ด้วย

ด้าน พลเรือตรี สาคร ปั่นเมืองปัก ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ศรชล. เปิดเผยว่า นายชารีฟ นายจ้างชาวอิหร่าน และครอบครัว เป็นผู้ให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกเรือ เนื่องจากมีความสนิทคุ้นเคยกับลูกเรือเป็นอย่างดี โดยลูกเรือ 14 รายล่าสุดนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากนายชารีฟ เรื่องค่าวีซ่า จ่ายเงินเดือนล่วงหน้าของสิงหาคม 1 เดือน เป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับไทย ค่าใช้จ่ายส่วนตัวระหว่างเดินทาง และเป็นค่าใช้จ่ายกลับภูมิลำเนา

สำหรับการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น สำหรับลูกเรือประมงไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ 6 คน ในจำนวนทั้งหมดนี้ จะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบกองทุนฯ เป็นค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น โดยจะจ่ายให้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การช่วยเหลือค่าพาหนะ ค่าอาหาร ให้แก่ประมงไทยทั้งหมดในการเดินทางกลับภูมิลำเนา กรมแรงงานอำนวยความสะดวกจัดรถรับ-ส่ง จัดหาที่พักให้แก่แรงงานไทยก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา

กระทรวงแรงงานจะติดตามสิทธิประโยชน์ให้แก่ประมงไทย หลังจากเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว เช่น ค่าจ้างค้างจ่าย เงินสมาชิกกองทุนฯ จากนั้น จะให้สำนักงานจัดหางานจังหวัด ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียน และสอบถามความต้องการทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจะดำเนินการทางคดีกับนายหน้า หากมีการฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติจัดหางาน และคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง