อัยการเตรียมสั่งฟ้องหมิ่นประมาท หลานสาวพลทหารที่เสียชีวิตในค่ายนราธิวาสห้าปีก่อน

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.09.23
กรุงเทพฯ
TH-army-800 ทหารตรวจร่างกาย เพื่อคัดเลือกทหารเกณฑ์ใหม่ประจำปี - ผ่านการจับสลาก ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559
เอเอฟพี

ในวันศุกร์(23 กันยายน 2559)นี้ นางสาวนริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกทำโทษในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2554 เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า อัยการเจ้าของคดีมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) ในคดีที่พันตรีภูริ เพิกโสภณเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 และน.ส.นริศราวัลถ์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดและกรมพระธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีของพลทหารวิเชียรโดยใช้ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาแต่เกี่ยวข้องกับการทรมานกับทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า นายรติ ช่อลำไย อัยการเจ้าของคดีแจ้งต่อเธอผ่านโทรศัพท์ว่าจะสั่งฟ้องในกรณีที่เธอต้องเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นประมาท และ พ.รบ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยขั้นตอนต่อไปของคดี คือการส่งเรื่องให้อัยการจังหวัดนราธิวาสเป็นผู้พิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่

“สำหรับคดีที่ตนเองตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการประสานทางวาจาผ่านโทรศัพท์ ซึ่งได้คุยกับอัยการเจ้าของสำนวนเอง อัยการเจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ตอนนี้สำนวนอยู่ในการพิจารณาของอัยการจังหวัดนราธิวาส และทางอัยการมีการสั่งสอบเพิ่ม 2 ประเด็น” บางส่วนของข้อความที่ น.ส.นริศราวัลถ์โพสต์

“แต่เนื่องจากการที่เมย์(ชื่อเล่นของ น.ส.นริศราวัลถ์) ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปกับอัยการสูงสุด จึงทำให้อัยการเจ้าของสำนวนส่งฟ้องดำเนินการต่อไปยังไม่ได้ตามปกติ จะต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องให้อัยการจังหวัดพิจารณาและมีความเห็นจากนั้นส่งสำนวนต่อไปให้อัยการสูงสุดพิจารณา” น.ส.นริศราวัลถ์ระบุ

ต่อประเด็นนี้ นายสัญญา เอียดจงดี ทนายความของน.ส.นริศราวัลถ์ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ขั้นตอนทางกฎหมายยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง จึงจะมีข้อสรุปว่า น.ส.นริศราวัลถ์ จะถูกสั่งฟ้องจริงหรือไม่ โดยระบุว่า คดีนี้ ทีมทนายความ และตัว น.ส.นริศราวัลถ์ ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด แต่เป็นห่วงในประเด็นความคืบหน้าของคดีการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียรมากกว่า

“ในเบื้องต้นผมได้ให้ทีมงาน และตัวน้องเมย์ประสานไปในพื้นที่ว่าความเห็นตัวนี้เป็นความเห็นที่เด็ดขาดหรือยัง หรือเป็นความเห็นของเจ้าของสำนวนที่จะสั่งฟ้อง ปรากฎว่าอัยการจังหวัดยังไม่มีคำสั่งฟ้องออกมาแต่นี่เป็นความเห็น เรื่องเลยจะอยู่ที่อัยการจังหวัดว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ถ้าอัยการจังหวัดสั่งฟ้อง ก็ต้องให้น้องเมย์ไปที่อัยการ และนำตัวไปที่ศาลเพื่อส่งฟ้อง” นายสัญญากล่าว

“ถ้าอัยการจังหวัดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เขาต้องส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจชุดสืบสวนจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ (ศชต.)เพื่อให้มีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอีกครั้งหนึ่ง ถ้า ศชต. ฟ้องก็ให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ซึ่งถ้าอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องคดีก็จะจบไป แต่กรณีนี้คนซึ่งเป็นผู้เสียหายเขาก็ยังมีสิทธิฟ้องเองได้อยู่” นายสัญญาเพิ่มเติม

คดีที่ น.ส.นริศราวัลถ์ ถูกฟ้องหมิ่นประมาทเป็นที่รับรู้ของสังคม เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 หลังจากที่ น.ส.นริศราวัลถ์ถูกตำรวจชุดสืบสวนจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ (ศชต.) ร่วมกับชุดสืบสวน จาก สน.มักกะสัน เข้าควบคุมตัว น.ส.นริศราวัลถ์จากที่ทำงาน น.ส.นริศราวัลถ์ จึงได้เดินทางไปหาพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในในวันรุ่งขึ้น ซึ่งในวันนั้น น.ส.นริศราวัลถ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอให้การโดยละเอียดพร้อมเสนอพยานหลักฐานต่าง ๆ ต่อพนักงานสอบสวนในภายหลัง และได้รับการประกันตัว โดยใช้ตำแหน่งข้าราชการของตนเป็นหลักค้ำประกัน

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมตามการแจ้งความของ พันตรีภูริ เพิกโสภณ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 จากกรณีที่ น.ส.นริศราวัลถ์ ได้เผยแพร่ต่อข้อความและรูปภาพหนึ่งผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้พลทหารวิเชียรซึ่งเป็นน้าชายของตัวเอง แต่ข้อความดังกล่าว มีลักษณะพาดพึงถึงพันตรีภูริและครอบครัวในทางที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้

การเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร

พลทหารวิเชียร เผือกสม อายุ 26 ปี มหาบัณฑิตจากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์ในปี 2554  และระหว่างการฝึกใน 1 มิถุนายน 2554 หรือประมาณ 1 เดือนหลังจากการเข้าฝึกได้ถูกทหารครูฝึกทำโทษด้วยการตบหน้า บังคับให้กินพริกสด ลากตัวไปกับพื้นปูน ใช้เกลือทาที่บาดแผล เหยียบหน้าอก และถูกทุบตีด้วยท่อนไม้ไผ่ โดยครูฝึกอ้างว่า พลทหารวิเชียรมีความพยายามที่จะหลบหนี

กรณีดังกล่าว มีการเปิดเผยจากพยานในเหตุการณ์ทำโทษครั้งนั้นอ้างว่า เห็นพลทหารวิเชียรก้มลงกราบเท้าครูฝึก และขอร้องให้หยุดทำโทษ แต่ครูฝึกไม่ยอมหยุดตามคำขอ การทำโทษและเสียงร้องของพลทหารวิเชียรทำให้เกิดเสียงดัง จนผู้บังคับหน่วยฝึกต้องชะโงกหน้าจากอาคารชั้นบนมาดู และกล่าวเตือนครูฝึกว่า อย่าทำแรงมากนัก ครูฝึกจึงพาพลทหารวิเชียรไปทำโทษต่อในบริเวณอื่น

ในวันที่ 4 มิถุนายน 2554 พลทหารวิเชียรถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการไตวายเพราะกล้ามเนื้อบาดเจ็บรุนแรง และได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลในวันต่อมา จากภาพถ่ายที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อและอินเตอร์เน็ตพบว่า สภาพศพของพลทหารวิเชียรมีแผลบวมช้ำทั่วตัว

หลังจากการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียร น.ส.นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ซึ่งเป็นหลานสาวของพลทหารวิเชียร ได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลการเสียชีวิตของพลทหารวิเชียรผ่านเว็บไซต์พันทิป โดยระบุว่า เธอได้พยายามดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของน้าชาย โดยในกระบวนการขอความเป็นธรรมนั้น ต้องพบกับอุปสรรคหลายข้อ

น.ส.นริศราวัลถ์ ยังระบุผ่านการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ในงานศพพลทหารวิเชียร หน่วยทหารต้นสังกัดไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดแก่ญาติ แต่เสนอที่จะขอพระราชทานเพลิงศพและคลุมศพด้วยธงชาติ แต่ครอบครัวปฏิเสธ และเรียกร้องให้สืบสวนข้อเท็จจริง

โดย น.ส.นริศราวัลถ์ ได้ทำหนังสือร้องถึงกรมทหารราบที่ 151 ต้นสังกัดของพลทหารวิเชียร กองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งดูแล 3 จังหวัดชายแดนใต้ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่คำร้องไม่ได้รับการพิจารณา โดยในช่วงเวลาเดียวกัน ครอบครัวของ น.ส.นริศราวัลถ์และพลทหารวิเชียร ยังถูกทำให้หวาดกลัว ด้วยการส่งกระสุนปืนมาที่บ้าน ส่งคนแปลกหน้ามาพูดคุยข่มขู่ และนำรถยนต์มาจอดในบริเวณใกล้บ้านเป็นประจำ

จนกระทั่ง น.ส.นริศราวัลถ์ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เรื่องราวดังกล่าวจึงถูกส่งต่อจนถึงแม่ทัพภาคที่ 4 และเกิดการสอบสวน และสั่งลงโทษทางวินัยผู้เกี่ยวข้อง 16 นาย ในรูปแบบที่แตกต่างกันทั้งการภาคทัณฑ์ ขัง กักบริเวณ จำขัง และปลด

ด้านการเอาผิดทางแพ่ง มารดาของพลทหารวิเชียรได้ยื่นฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนทางละเมิดต่อหน่วยงานต้นสังกัดเนื่องจากเป็นกรณีละเมิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2555 โดยเรียกเงินค่าเสียหายจากกองทัพบก 16 ล้านบาท และในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้กองทัพบกจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของพลทหารวิเชียรเป็นเงิน  7,049,213 บาท

ในทางคดีอาญา การสอบสวนของศาลทหารพบว่ามีทหารผู้ร่วมกระทำผิด 10 นาย ศาลทหารได้ส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาต่อ ก่อนส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จนกระทั่ง ป.ป.ท. ชี้มูลความผิดว่า ทหารทั้ง 10 นาย มีความผิดจริงในปี 2558

หลังจาก ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด กองทัพบกได้มีคำสั่งให้พักราชการผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 9 นาย ยกเว้นร้อยโท(ยศในขณะนั้น)ภูริ เพิกโสภณ และพบว่าร้อยโทภูริได้รับการเลื่อนยศเป็นพันตรีในปัจจุบัน ซึ่ง น.ส.นริศราวัลถ์ได้พยายามยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ท. และกองทัพบก เพื่อขอให้มีการพักราชการพันตรีภูริ เนื่องจากเกรงว่าหากพันตรีภูริยังปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ อาจมีผลต่อรูปคดี แต่คำร้องดังกล่าวยังไม่เป็นผล

ปัจจุบัน การสอบสวนยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา โดยพันตรีภูริถูก ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย มาตรา 83 กรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี แต่ถ้ามีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปี ถึงยี่สิบปี

ซึ่งในกรณีนี้ น.ส.นริศราวัลถ์ได้ส่งหนังสือให้ศาลพิจารณาคดีให้เข้าข่ายมาตรา 289 การฆ่าผู้อื่นโดยการทรมาน หรือโดยทารุณโหดร้ายด้วย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง