'ทอม ดันดี' ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ม.112 หลังติดคุกห้าปี

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.07.17
กรุงเทพฯ
190717-TH-pardon-dundee-800.jpg ทอม ดันดี ขณะร่วมงานรับขวัญสู่อิสรภาพ โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ร่วมงาน วันที่ 17 กรกฎาคม 2562
ภาพจากเฟสบุ๊ค Jatuporn Prompan

ในวันพุธนี้ นายพันทิวา ภูมิประเทศ หรือ นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือที่รู้จักในนาม “ทอม ดันดี” ผู้ต้องขังในคดีหมิ่นเบื้องสูง ตาม ม.112 ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แล้ว หลังจากถูกจำคุกเป็นเวลาห้าปีกับอีกแปดวัน

นายทอม ดันดี ถูกศาลพิพากษาในคดีหมิ่นสถาบันฯ จากกรณีพบคลิปวิดีโอบันทึกการปราศรัยของ ทอม ดันดี ในช่วงชุมนุมของกลุ่ม นปช. ช่วงเดือน พ.ย. 2556 จำนวน 2 คดี จากทั้งหมด 4 คดี โดยศาลสั่งจำคุกรวม 10 ปี 10 เดือน แต่เนื่องจากทอม ดันดี เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จึงได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยลดโทษลงครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 ปี 5 เดือน และถูกจำคุกมานาน 5 ปี 8 วันแล้ว คงเหลือโทษอีกไม่ถึง 5 เดือน ซึ่งไม่เกิน 1 ปี จึงเข้าหลักเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในวันนี้

ทอม ดันดี ใส่เสื้อขาวกางเกงยีนส์ เดินออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และโผเข้ากอดภรรยาที่มารอรับด้วยความดีใจ ท่ามกลางมวลชนที่มารอรับบริเวณด้านหน้าเรือนจำฯ อีกจำนวนหนึ่ง โดยทอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กล่าวขอบคุณเรือนจำ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนทุกคนที่ให้กำลังใจ ขอบคุณอดีต อุปสรรค ปัญหา และความทุกข์ที่ผ่านเข้ามา เพราะถ้าไม่มีความทุกข์ ก็จะหาความสุขไม่เจอ และขอขอบคุณทุกคนที่ต่อสู้ร่วมกันมา

“ถ้าเกิดชายหาดมีเม็ดทรายเม็ดเดียว เขาก็ไม่เรียกชายหาดหรอก เพราะชายหาดต้องเต็มไปด้วยเม็ดทรายที่มากมาย ประชาธิปไตยก็ต้องสร้างมาจากประชาชน ประชาธิปไตยเกิดขึ้นคนเดียวไม่ได้ คนทั้งประเทศต้องประชาธิปไตยด้วย ชายหาดต้องมีเม็ดทรายหลายเม็ด ประชาธิปไตยก็เช่นกัน ต้องมีประชาชน” ทอม ดันดี กล่าว

ทั้งนี้ ทอม กล่าวถึงชีวิตในเรือนจำว่า เหมือนอยู่ในโรงเรียนประจำ การฝึกฝนต่างๆ ช่วยให้ได้เรียนรู้ ไตร่ตรอง อะไรมากมาย ได้เห็นภาพชัดเจนว่าวิถีชีวิตแต่ละวันเป็นอย่างไง และจะทำอะไรในชีวิตต่อจากนี้ โดย ทอมกล่าวว่า อยากไปทำบุญที่วัด และเคลียร์งานต่างๆ ที่ค้างไว้ ให้จบ

“อยู่เรือนจำมานานแรมปี โถคนดีพี่ใจจะขาด คิดถึงลูกน้อยเคยอ้อนออด คิดถึงแม่ยอดพิศวาส...” ทอม ดันดี ร้องเพลงระบายความรู้สึก ถึงชีวิตในเรือนจำ ก่อนสะอื้นไห้หลั่งน้ำตา ด้วยความตื้นตันใจ และเดินทางออกจากเรือนจำพร้อมครอบครัว

ทอม เกิดในครอบครัวที่ยากจน แต่ขวนขวายจนได้ไปเรียนที่ฝรั่งเศส 6 ปี และกลับมาเป็นศิลปินจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป จากนั้น ทอม เข้าร่วมกับกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้ประชาธิปไตย เริ่มปราศรัยอย่างจริงจังในช่วงปี 2553 ซึ่งเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงด้วยความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หลังปี 2554 เป็นต้นมา เขาก็ตระเวนปราศรัยตามจังหวัดต่างๆ จนเป็นเหตุให้โดนคดี 112 ย้อนหลังเป็นจำนวน 4 คดี

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว แสดงความยินดีหลัง ทอม ดันดี ได้รับอิสระภาพ ระบุถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับ ทอม ดันดี ในเรือนจำ โดยได้เปรียบทอมเหมือนทีวีช่องบันเทิง ที่มีเรื่องเล่าสนุกสนานมากมาย น่าติดตาม ทั้งเล่าเรื่องร้องเพลง และการเล่นมุก

“วันหนึ่งพี่ทอมถูกเบิกตัวออกไปจากเรือนจำ กลับมาอีกที เล่าให้ฟังว่าโดนนายทหารเบิกตัวไปร้องเพลงให้ทหารฟัง แล้วก็กลับมาเรือนจำใหม่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น แกก็ได้ประกันตัว แต่ก็ไม่นานก็ถูกจับกลับมาใหม่อีกครั้ง” ข้อความตอนหนึ่ง ระบุ

“คนในคุกจะมีกำลังใจอยู่ได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากคนข้างนอกที่ยังส่งกำลังใจ และยืนยันความรักที่มีต่อกัน แม้ในช่วงที่ยากลำบากเช่นนี้ ผมนับให้คู่รักคู่นี้งดงามที่สุดระหว่างกำแพงคุก ผมดีใจที่เห็นพี่ทอมออกมา และผมก็ดีใจมากที่ยังเห็นนันยืนรอพี่ทอมอยู่หน้าเรือนจำ พวกเขามั่นคง และรักของเขาสวยงาม” สมบัติ ระบุถึงความรักของทอมและภรรยาชาวไทย

โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) สรุปสถิติทางเสรีภาพ หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จนถึงวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ว่า มีผู้ถูกตั้งข้อหามาตรา 112 หมิ่นเบื้องสูง อย่างน้อย 99 คน โดยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2560 นายวิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวเชียงใหม่ อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ถูกตัดสินว่า มีความผิด ตามมาตรา 112 ให้จำคุก 70 ปี แต่นายวิชัยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุก 30 ปี 60 เดือน ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ถูกตัดสินจำคุกยาวนานที่สุด สำหรับความผิดหมิ่นเบื้องสูง

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งถูกตัดสินว่า มีความผิดตามมาตรา 112 ให้จำคุก 2 ปี 5 เดือน ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ก่อนถึงกำหนดพ้นโทษเพียงไม่กี่วัน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขณะที่ นายประเวศ ประชานุกูล อดีตทนายความ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในคดีความผิดมาตรา 112 และ 116 ยอมติดคุกเต็มอัตราความผิด 16 เดือน โดยไม่ขออภัยโทษ เช่นเดียวกับ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสารเสียงทักษิณ (Voice of Taksin) ซึ่งถูกตัดสินจำคุกจากความผิดมาตรา 112 ยอมติดคุก 7 ปีเต็ม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง