ชาวบ้านจังหวัดยะลาร่วม 200 ครัวเรือนหวาดกลัว ไม่กล้าออกไปกรีดยาง

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.03.24
ยะลา
TH-rubber-violence-1000 ตัวแทนชาวบ้าน บ้านสะปอง บ้านกือซง และบ้านทำนบ ประมาณ 50 คน ร่วมหารือ หลังชาวบ้านขอกำลังทหารมาอยู่ในพื้นที่ แต่รัฐเงียบเฉย ภาพวันที่ 24 มีนาคม 2559
เบนาร์นิวส์

ชาวบ้านจังหวัดยะลากว่า 200 ครัวเรือน ไม่กล้าออกไปกรีดยางตามปกติ หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านกรีดยางถูกยิงเสียชีวิตแล้ว 5 ราย นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคม 2559 โดยชาวบ้านจากหมู่ 3 บ้านสะปอง บ้านกือซง บ้านทำนบ ในตำบลปะแต อำเภอยะหา ได้ร่วมกันหารือและเสนอแนวทางแก้ปัญหากับหน่วยงานภาครัฐ โดยร้องขอนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ให้มีกำลังทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

ล่าสุดวันนี้ ชาวบ้านกว่า 50 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณมัสยิดบ้านทำนบ เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหา หลังจากได้มีการร้องไปที่หน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอกำลังทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเวลานานกว่า หนึ่งเดือนแล้ว แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

ชาวบ้านรายหนึ่งจากบ้านทำนบ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า วันนี้เราทราบว่ามีนักข่าวเข้ามา จึงรวมตัวกันเพื่อพูดคุยหาแนวทางแก้ปัญหา หลังจากร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้หนึ่งเดือนมาแล้ว ไม่มีความคืบหน้าเลย ชาวบ้านต้องการให้ทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้าน แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆจากฝ่ายรัฐ นายอำเภอ ทหาร ตำรวจ เงียบทุกฝ่าย แถมกลับมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรากว่า 1200 คน ไม่ใช่ปัญหา แต่ นี่คือปัญหาใหญ่สำหรับพวกเรา

"เราแค่ขอให้ทหารมาอยู่ในพื้นที่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุ ปี 2548 ถึง 2553 ที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง ทหารก็เข้ามาอยู่ ทุกอย่างก็สงบดีเป็นปกติ ชาวบ้านมีความสุขมาก สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัว พอทหารออกไป 2 ปีได้ ที่นี่ก็เกิดเหตุยิงชาวบ้านที่ออกไปกรีดยาง ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าไปกรีดยาง เพราะกลัวจะถูกยิงอีก"

โดยเหตุการณ์แรกของความรุนแรงในห้วงสามเดือนที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 22 มกราคมปีนี้ คนร้ายลอบยิงสองสามีภรรยา คือ นาย ดอรอแม อาบูบากา อายุ 50 ปี กับนางอามีเนาะ อาบูบากา อายุ 49 ปี เสียชีวิต ขณะเดินทางไปสวนยาง เหตุเกิดบริเวณหมู่ที่ 3 บ้านทำนบ ตำบลปะแต อำเภอยะหา

เหตุการณ์ต่อมา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ คนร้ายลอบยิง นาย อับราชิ มูจุ อายุ 48 ปี เสียชีวิต ขณะเดินทางไปมัสยิด เหตุเกิดที่บ้านสะปอง ตำบลปะแต อำเภอยะหา

เหตุการณ์ที่สาม เมื่อวันที่ 2 มีนาคม คนร้ายยิง นายอิบบอรอเฮ็ง ราแดง อายุ 36 ปี เสียชีวิต ขณะกรีดยางภายในสวนยางพารา ที่บ้านสะปอง ตำบลปะแต อำเภอยะหา

และเหตุการณ์ล่าสุด วันที่ 3 มีนาคมนี้ คนร้ายยิงและเผา นายฉัตรชัย แซ่ทอง อายุ 55 ปี เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง เหตุเกิดบริเวณหมู่ 5 ตำบลบาโระ อำเภอยะหา

นายมามะซารี คอลอราแม อายุ 57 ปี อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านทำนบ หมู่ที่ 3 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา กล่าวว่า ทุกวันนี้ ชาวบ้านร่วมกันจัดเวรยาม แต่ละคืนจะมี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 2 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คน กรรมการผู้นำศาสนา 2 คน และชาวบ้าน 4 คน มีการวางกำลัง 2 จุด ที่มัสยิดทำนบ 1 จุด และมัสยิดบ้านสะปอง 1 จุด เพราะเป็นสามแยกและอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านย่อยๆ อีกหลายหมู่บ้าน

"ผมเป็นอิหม่าม ผมก็ต้องถือปืน ทั้งที่อิหม่ามเขาทำแต่เรื่องศาสนา แต่เมื่อบ้านของเราไม่มีความสงบ เราจำเป็นต้องถือปืน เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้ามา แต่ถ้าคนร้ายเข้ามา ก็ต้องหนี เพราะยิงไม่เป็นเหมือนคนอื่นเขา" อิหม่ามมามะซารี กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

"อย่างตอนนี้ ฐานทหารที่อยู่ใกล้สุด คือ ฐานทหารที่บ้านคอลอราแม ห่างจากบ้านทำนบประมาณ 2 กิโล แต่พอมีเหตุการณ์ ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมง กว่าทหารจะมาถึง นี่คือเหตุผลที่ชาวบ้านอยากให้ทหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่"

ด้าน นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลปะแต จังหวัดยะลา กล่าวยอมรับว่า ปัญหาชาวบ้านไม่กล้าไปกรีดยางในพื้นที่มีจริง แต่ก็เป็นหมู่เดียว คือ หมู่ 3 บ้านทำนบ บ้านสะปอง บ้านกือซง ในตำบลปะแต อำเภอยะหา พื้นที่หมู่นี้ มีประชากร 1000 คน เป็นคนในพื้นที่ มีทะเบียนราษฎรอยู่ที่นี่ 800 คน เป็นคนจากนอกพื้นที่ ทั้งจากยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 200 คน

"ที่ผ่านมา พยายามเข้าไปสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน สร้างความเชื่อมั่น แต่ก็ยังไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา ยามที่เขาต้องการ และไม่สามารถทำให้เขาอุ่นใจได้นาน อย่างวันนี้ ในพื้นที่มีงานรับบัณฑิตน้อย ก็พยายามจัดงานให้ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความสุขให้กับชาวบ้านอย่างเต็มที่ เขาจะได้ลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นบ้าง"

นางมารีเยาะ เปาะโอ๊ะ อายุ 53 ปี ชาวบ้านบาซาลาแป ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กรีดยางอยู่กับลูกสาวคนโต 2 คน เพราะสามีไม่กล้ามากรีดยาง เขาเลี้ยงวัวอยู่ที่ปัตตานี เรากับลูกสาวจึงต้องมากรีดยาง ตอนนี้ต้องทิ้งสวนยาง 30 ไร่ของตัวเอง มารับจ้างกรีดยางในหมู่บ้านด้านล่าง พอมีเงินมาซื้อข้าวปลากินได้บ้างกับลูกสาว จะรอจนกว่าที่นี่จะสงบ

"ไม่ใช่กะห์คนเดียวนะที่ไม่กล้ากรีดยางข้างภูเขาบาซาลาแป แต่ชาวบ้านอีก 200 ครอบครัว ต้องทิ้งบ้าน กลับไปอยู่ที่ปัตตานี ส่วนกะห์ก็มาอยู่ในหมู่บ้านด้านล่างภูเขา ที่นี่ช่วงกลางวันก็จะเห็นว่าไม่มีอะไร แต่พอตกเย็น ชาวบ้านจะปิดประตูหน้าต่าง และแม้แต่รูที่เป็นช่องลม ก็จะเอาก้อนหินหรือไม้ไปอุดหมด เพราะกลัวคนที่อยู่ข้างนอกจะเห็น ผู้หญิงจะอยุู่ที่บ้าน ส่วนผู้ชายจะไปนอนกันที่มัสยิด เพราะกลัวไม่กล้าอยู่บ้าน" นางมารีเยาะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

นางมารีเยาะเล่าเสริมว่า เคยร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการประจำอำเภอยะหา แต่ก็ยังเงียบ นายอำเภอมาในพื้นที่ ทุกคนก็อุ่นใจ พอนายอำเภอออกไป ความหวาดกลัวก็เกิดขึ้น ไม่ทันมืดทุกคนต้องปิดบ้านหมด

"บางคนก็ย้ายลูกออกจากโรงเรียนกลับไปเรียนที่ปัตตานี เพราะไม่รู้ว่าที่นี่ จะมีความไม่สงบอีกนานแค่ไหน รัฐจะเข้ามาช่วยเหลืออย่างที่พวกเราร้องขอหรือไม่ ก็ยังไม่เห็นทางออก"

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง