พายุปาบึกทำเรือประมงล่มที่ปัตตานี เสียชีวิต 1 สูญหาย 1

มารียัม อัฮหมัด
2019.01.04
ปัตตานี
190104-TH-storm-fisherman-623.jpg เจ้าหน้าที่ขณะพบศพลูกเรือประมงที่อับปาง ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี วันที่ 4 มกราคม 2562
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์นี้ เกิดเหตุเรือประมงล่มในทะเล เขตอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิตทันที 1 ราย ยังสูญหายอีก 1 ราย ขณะที่ 4 รายได้รับการช่วยเหลือแล้ว โดยเหตุเรือล่มครั้งนี้เป็นผลจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึก ซึ่งขึ้นฝั่งนครศรีธรรมราชแล้ว ส่งผลให้ฝนตกหนักในหลายจังหวัดภาคใต้

ร.ต.อ.ภาวิช กระจ่างศรี รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธร อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุ เรือประมงโชคมะลินี ขนาด 30 ตัน พร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน เกิดอับปางในทะเลเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

“เรือออกจากท่าเทียบเรือประมงสงขลา เพื่อออกหาปลา ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2561 มาถึงปากอ่าวปัตตานี วันนี้ สองนาฬิกา เกิดคลื่นสูงและลมแรงทำให้เรือล่ม ลูกเรือทั้ง 6 คนตกลงไปในทะเล ทั้ง 6 คนได้สวมเสื้อชูชีพ 3 ราย ลอยคอมาขึ้นฝั่งบริเวณปลายแหลมตาชี และได้รับความช่วยเหลือโดยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า” ร.ต.อ.ภาวิช กล่าว

“นายสุรินทร์ บินต้วน ไต๋ก๋ง, นายประจักษ์ สาระรัตน์ และนายสันทัด มัชมลฐล เป็นลูกเรือได้รับการช่วยเหลือที่ปลายแหลมตาชี และลอยไปขึ้นฝั่งบริเวณอำเภอเมืองปัตตานี 1 คนคือ นายธีระยุทธ์ ขุนพระบาท แต่นายปราโมทย์ วงศ์สุวรรณ พบว่าเสียชีวิตที่หาดแหลมตาชี และนายฉลอง จันทนะ ยังไม่พบ” ร.ต.อ.ภาวิช กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กำลังระดมหลายหน่วยงานค้นหา ลูกเรือที่ยังสูญหายอยู่

ด้าน ร.ต.ชัด หนูอุไร จากหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน ที่ 42 ซึ่งเป็นชุดค้นหา กล่าวว่า เชื่อว่า นายฉลอง จันทนะ ผู้สูญหายน่าจะลอยคอไม่ห่างจากแหลมตาซี

“ได้จัดชุด เจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 โชนในการค้นหาที่เหลือคาดว่า น่าจะลอยไม่ไกลกว่าแหลมตาชี เพราะทั้งผู้รอดชีวิต และผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด ขึ้นแถวแหลมตาชีคาดว่าอีก 1 ราย จะพบไม่ไกลจากบริเวณนี้” ร.ต.ชัด กล่าว

เหตุการณ์เรือประมงอับปางที่จังหวัดปัตตานีนี้ เป็นผลจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึก ซึ่งเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศไทยที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชแล้ว เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กม.ต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 18 กม. ต่อชั่วโมง

“ปัจจุบัน ศูนย์กลางพายุปาบึกขึ้นฝั่งเวลา 12.45 น.ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช และแฉลบขึ้นเหนืออำเภอเมือง จากนั้นเคลื่อนมาทางตะวันตก ร่อนพิบูลย์ นาหม่อม พายุปาบึกยังเป็นโซนร้อน ยังไม่อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน เตือนชาวบ้านในพื้นที่นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม” นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวระหว่างการแถลงสถานการณ์พายุปาบึก บ่ายวันนี้

ขณะเดียวกัน นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จังหวัดปัตตานี ได้อพยพประชาชนในพื้นที่ซึ่งเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกแล้ว

“มีการอพยพพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งติดทะเล ออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ยะหริ่ง และอ.หนองจิก รวมแล้ว 1,500 ราย ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับชาวบ้าน ต.แหลมโพ​ธิ์ ซึ่งเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล อพยพ 5 หมู่บ้าน รวม 832 คน 163 ครัวเรือน ต.ตะโละกาโปร์ - ติดทะเล มีผู้อพยพเข้า 2 จุด จำนวนรวม 118 คน” นายไกรศร กล่าว

“ต.บางปู -ใกล้ทะเล มีผู้อพยพ 1 จุด จำนวน 130 คน ต.บานา อพยพ ชาวบ้านแหลมนก ต.บางตาวา อพยพ 2 หมู่ 200 คน มีการอพยพ 2 หมู่บ้าน สถานการณ์โดยรวมบางจุดฝนหยุดตก และพายุสงบลงแล้ว สำหรับโรงเรียน มีการประกาศปิดการเรียนการสอนทุกโรง และพร้อมเปิดในวันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562” นายไกรศร กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นายฮาเส็ม สาเมาะ ชาวบ้านบูดี อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กล่าวว่า ในพื้นที่มีลมแรง ชาวบ้านบางส่วนต้องย้ายไปอยู่ในศูนย์อพยพ เพื่อความปลอดภัย เมื่อคืนที่ผ่านมา

“เมื่อคืนลมแรงมาก น่ากลัวมาก ชาวบ้านต้องไปอยู่ศูนย์อพยพ แต่ช่วงเช้านี้ก็กลับมาดูบ้านความเสียหายไม่มีอะไรมาก บังกะโลได้รับความเสียหายบ้าง ไม่กี่หลัง ส่วนบ้านของชาวบ้านหลังคากระเบื้องเสียหายเล็กน้อย” นายฮาเส็ม กล่าว

“โดยรวมถือว่าไม่มีความเสียหายอะไรมากมาย วันนี้ที่แหลมตาชีก็มีพบศพด้วย ชาวบ้านก็มาดูกันปกติขณะนี้พายุและลมฝนสงบแล้ว คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็เป็นห่วงคนแถวนครแถวสงขลา แถวพัทลุงที่พายุกำลังจะไป ขอส่งกำลังใจถึงทุกคน ขอให้อัลลอฮ์คุ้มครองและปลอดภัยทุกคน” นายฮาเส็ม กล่าวเพิ่มเติม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง