ศาลสั่งคุก 6 เดือน นายเปรมชัย คดีครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน

ในวันอังคารนี้ ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 ปี แต่ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากความผิดในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างยื่นอุทธรณ์ โดยใช้หลักทรัพย์ 2 แสนบาท เป็นประกัน

ในคดีนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ. 2490 จากการถูกตรวจพบเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ว่านายเปรมชัยมี อาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ

"ศาลพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ซึ่งผิดต่อกฎหมายหลายบท พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ให้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ในศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พฤติการณ์จึงไม่รอการลงโทษ” คำพิพากษา ตอนหนึ่งระบุ

ทั้งนี้ นายเปรมชัยได้รับสารภาพ และขอให้ลงโทษสถานเบา โดยยื่นข้อเสนอว่า จะอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล 15 วัน จะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาท เพื่อสาธารณประโยชน์ และสัญญาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกตลอดชีวิต

“คำร้องที่จำเลยยื่นมาในวันนี้ ระบุจะปฏิบัติ 3 ข้อนั้น หากปฏิบัติได้ก็ขอให้ทำต่อไป ซึ่งเป็นการทำความดี แต่ในส่วนของการรอการลงโทษนั้น เนื่องจาก นายเปรมชัย ยังมีคดีอาญาที่ศาลพิพากษาจำคุกอยู่ 2 คดี จึงไม่อาจที่จะพิจารณารอการลงโทษได้” ศาลระบุ

หลังศาลฟังคำพิพากษา ทนายความของนายเปรมชัยได้ยื่นหลักทรัพย์ 500,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างรอการอุทธรณ์คดี ซึ่งต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ นายเปรมชัยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้วางเงินประกัน 2 แสนบาท แบบไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ

ในการฟังคำพิพากษา นายเปรมชัย เดินทางมาศาลด้วยตัวเอง และเข้าฟังการอ่านคำพิพากษาที่ห้อง 808 อาคารศาลอาญา เวลา 10.00 น. โดยหลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษา และได้รับการประกันตัว นายเปรมชัยปฎิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ที่หน้าศาลอาญา และได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวกลับบ้านพัก

คดีครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายนี้ สืบเนื่องจาก ในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 นายเปรมชัย และพวกถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคุมตัว เนื่องจากพบซากไก่ฟ้าหลังเทา หมูป่า และเสือดำ พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ใกล้บริเวณเต๊นท์ค้างแรมของคนกลุ่มดังกล่าว ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งต่อมานำไปสู่การตั้งข้อหา ล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และครอบครองซากสัตว์ รวมถึงข้อหาการติดสินบนเจ้าพนักงานรัฐ จากการเสนอเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ หลังถูกจับกุม

หลังการถูกคุมตัวที่กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเปรมชัย ในกรุงเทพมหานคร และพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ. 2490 นำไปสู่การดำเนินคดีในครั้งนี้ และการเอาผิดข้อหาครอบครองงาช้างแอฟริกา 4 กิ่ง

ทั้งนี้ สำหรับคดีจากการล่าสัตว์และครอบครองซากสัตว์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิพากษาจำคุกนายเปรมชัย เป็นเวลา 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากความผิดข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ศาลให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 4 แสนบาท ปัจจุบัน คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ตัดสินจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา นายเปรมชัย คดีติดสินบนเจ้าพนักงานเพื่อให้ปล่อยตัวหลังถูกจับกุมพร้อมซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธปืนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยศาลให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 4 แสนบาท ปัจจุบัน คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์

ส่วนอีกคดีของนายเปรมชัยคือ คดีครอบครองงาช้างแอฟริกา 4 กิ่ง ปัจจุบัน กระบวนการสืบพยานทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว และศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 1 ตุลาคม 2562