นายกฯ ยืนยันรัฐไม่ได้ปล่อย น.ส.ยิ่งลักษณ์หนี เพื่อเลี่ยงแรงกดดันเสื้อแดง

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.08.28
กรุงเทพฯ
TH-yingluck-620 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทักทายผู้สนับสนุนที่ศาลฎีกาฯ ในการแถลงผิดคดีจำนำข้าว วันที่ 1 ส.ค. 2560
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อสื่อมวลชนในวันจันทร์ (28 สิงหาคม 2560) นี้ ว่า รัฐบาลไม่ได้สมรู้ร่วมคิดหรือยินยอมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หนีออกนอกประเทศตามที่มีข่าวลือ พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่ ในการค้นหาตัวจำเลยในคดีจำนำข้าวรายนี้

“ใครจะไปปล่อย จะไปปล่อยได้ยังไง ไม่มีใครเขาบ้าทำหรอก คิดแบบนี้คิดแบบไม่ใช้สมอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อสื่อมวลชนอย่างมีอารมณ์ ขณะร่วมงานสถาปนา 67 ปี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (ร.21 รอ.) ที่จังหวัดชลบุรี

“อย่าให้ความสนใจเรื่องแบบนี้นะ ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็ต้องมีการตรวจสอบว่าออกไปยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ให้ฝ่ายความมั่นคงเขาตามดูว่า เดินทางไปได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ในเมื่อทุกอย่างยังไม่เข้าสู่กระบวนการทางคดี มันก็ยากในการติดตามทวงหนี้ เพราะเราก็ให้เกียรติเขา” นายกรัฐมนตรีระบุ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลยในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตและให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางมาตามนัดหมาย ซึ่งศาลไม่เชื่อในคำแถลงของทนายความที่ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ มีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงออกหมายจับและริบเงินประกัน 30 ล้านบาท โดยนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 27 กันยายน 2560

จนถึงปัจจุบัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณชนหรือโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย ทำให้การวิพากษ์-วิจารณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว และรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีออกนอกประเทศครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในประเทศที่จะตามมา

“ภายใต้อำนาจเผด็จการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดและอย่างเข้มแข็งของ คสช. ถ้าไม่มีคนทรยศต่อชาติ แอบหรี่ตาหรือช่วยพายิ่งลักษณ์หนี ยิ่งลักษณ์คงไม่สามารถเล็ดรอดออกนอกประเทศได้อย่างแน่นอนใช่หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนี้รัฐบาลต้องไปลากตัวไอ้คนทรยศต่อชาติคนนั้นมาลงโทษให้ได้ มิฉะนั้นรัฐบาล คสช. อาจตกเป็นจำเลยเสียเอง” นายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมืองระบุผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวในวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามต่อข่าวลือที่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์หนีผ่านกัมพูชา นายเขียว กัญญาฤทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารนิเทศของกัมพูชา ได้ระบุผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวในวันเสาร์ว่า อ้างคำพูดของ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันว่า “น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ใช้กัมพูชาเป็นทางหนี”

ในวันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยหลังจากการประชุมวางแผนติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ปัจจุบัน ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีอยู่ภายในประเทศ หรือหนีออกนอกประเทศ  แต่ระบุได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้อยู่ภายในบ้านพักในกรุงเทพแล้วตั้งแต่ตอนบ่ายของวันพุธ

“ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศไม่พบการผ่านเข้าออกในช่องทางด่าน ตม.ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็เป็นไปได้ที่จะอาศัยช่องทางธรรมชาติหลบหนี... ตอนนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ใด ในประเทศหรือนอกประเทศ ไม่สามารถสันนิษฐานได้” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ กล่าวว่า จะได้มีการประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อหาตัวนางสาวยิ่งลักษณ์และจะติดต่อกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อติดตามดูว่านางสาวยิง่ลักษณ์หนีไปหลบอยู่ที่เมืองดูไบตามที่มีรายงานข่าวจริงหรือไม่

ยิ่งลักษณ์หนีไม่กระทบประชาธิปไตยและเพื่อไทย

ดร.ฐิติพล ภักดีวานิช คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี แสดงความคิดเห็นกับเบนาร์นิวส์ต่อ การหนีคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า เหตุการณ์จะไม่กระทบกับอนาคตของประเทศมากนัก เพราะปัญหาหลักของประเทศในปัจจุบันคือ ปัญหาที่คนจำนวนมากสนับสนุนทหารแทนที่จะสนับสนุนประชาธิปไตย

“การที่คุณยิ่งลักษณ์มาหรือไม่มา ผมมองว่า ไม่มีผลกระทบต่อพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของประชาธิปไตยในไทยมากนัก เพราะตอนนี้ทหารควบคุมทุกอย่าง แม้มีคนมองว่าถ้าคุณยิ่งลักษณ์มา และติดคุก ก็จะเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย แต่ผมมองว่า ปัญหาของประเทศตอนนี้คือ คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และทหารจะอยู่ยาว” ดร.ฐิติพล กล่าว

“กรณีนี้ สมมติว่า คดีออกมาลงโทษคุณยิ่งลักษณ์ จะมีคำถามต่อมาว่า แล้วนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่บริหารผิดพลาด มีปัญหาการทุจริตของผู้ใต้บังคับบัญชา จะต้องแสดงความรับผิดชอบในรูปแบบเดียวกันหรือเปล่า” ดร.ฐิติพลกล่าว

“จริงๆ แล้วตอนนี้ปัญหาของไทยเอง คือ คนส่วนใหญ่พอใจที่จะอยู่ใต้อำนาจทหาร ด้วยความที่ไม่ชอบตระกูลชินวัตร แต่ผมมองว่า ถึงไม่ชอบตระกูลนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนทหาร ควรสนับสนุนประชาธิปไตยให้มันก้าวไป เพื่อที่จะตรวจสอบ เพราะสุดท้ายถึงไม่มีตระกูลชินวัตร ก็ต้องมีตระกูลอื่นที่ก้าวมามีอำนาจ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดี” ดร.ฐิติพลกล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า การขาดหายไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่กระทบต่อการทำงานการเมืองของพรรคเพื่อไทย ขณะที่การถูกตัดสินลงโทษของสมาชิกพรรคในคดีระบายข้าวจีทูจี ก็จะไม่ทำให้พรรคเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เน้นการช่วยเหลือเกษตรกรในอนาคต

“การไม่มาฟังคำพิพากษาเป็นสิทธิส่วนตัวของคุณยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อพรรคเพื่อไทย เพราะคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมพรรคนานพอสมควรแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้คุยกันอย่างเป็นทางการ ต้องรอให้ คสช. อนุญาตให้ประชุมพรรค จึงจะรู้แนวทางที่ชัดเจนว่า พรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้” นายสมคิดกล่าว

“นโยบายหลักๆ ของพรรคเพื่อไทยเป็นนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ส่วนการปฎิบัติของผู้ปฎิบัติก็เป็นคนละเรื่องกัน นโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐเป็นเรื่องจำเป็น เพราะเกษตรกรเป็นคนหนึ่งในสามของประเทศ เพราะถ้าไม่มีนโยบายปัญหาก็เกิดขึ้น” นายสมคิดกล่าวเพิ่มเติม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง