สาธารณสุข เตรียมฉีดวัคซีนให้นายกฯ และ ครม.

ในจันทร์นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ข้อมูลว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันอังคารนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ตามข้อมูลในเว็บไซต์สำนักสารนิเทศ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อวันศุกร์ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ยกเลิกการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ให้กับนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า มีประชาชนประเทศย่านสหภาพยุโรปบางประเทศ ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนจากบริษัทนี้ เช่น การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ เป็นต้น

“นายกรัฐมนตรี ได้แสดงเจตจำนงว่ามีความพร้อมในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยการฉีดวัคซีนให้กับผู้นำประเทศต้องได้รับคำยินยอมจากคณะกรรมการวิชาการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ได้เตรียมวัคซีนทั้งจากแอสตราเซเนกา และซิโนแวค เพื่อฉีดให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่สมัครใจ ตาม 8 ขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ตึกสันติไมตรี” ตอนหนึ่งของข่าว ระบุ

“อาจารย์ยง ภู่วรวรรณ จะเป็นผู้ฉีดให้กับนายกรัฐมนตรี และจะรับการฉีดพร้อมกับอาจารย์แพทย์อาวุโส เช่น ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ จะร่วมกันฉีดครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วนสถานบริการอื่น ๆ จะเริ่มฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ที่ได้รับการกระจายไปพร้อมกัน ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. มีความปลอดภัย และกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบดูแลภายหลังการฉีดวัคซีนไว้พร้อมแล้ว” สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ

เมื่อวานนี้ เวบไซต์บริษัท แอสตราเซเนกา ระบุว่าจากการศึกษาของ European Medicines Agency พบว่า วัคซีนของตนไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง

“จากการตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยที่มี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนของบริษัท กว่า 17 ล้านคน ในสหภาพยุโรป และอังกฤษ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการการอุดตันของหลอดเลือดแดงในปอด (pulmonary embolism), การอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis – DVT) หรือ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) ไม่ว่าในกลุ่มจำเพาะอายุใด ๆ เพศใด หรือ ในภูมิภาคใดของประเทศ” โดย EMA จะมีการตีพิมพ์รายงานดังกล่าวทางเวบไซต์ในสัปดาห์ถัดไป

ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแก่เบนาร์นิวส์ว่า คณะรัฐมนตรี จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 08.30 น. ของวันที่ 16 มีนาคม 2564 แต่ยังไม่ระบุว่า จะมีรัฐมนตรีคนใดเข้าร่วมบ้าง ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19

“ยังไม่มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการว่าจะมีรายชื่อใครบ้าง จนกระทั่งถึงพรุ่งนี้เช้า 08.30 น. แต่จะมีการฉีดวัคซีนที่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน ที่ตึกสันติไมตรี แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีใครบ้าง” นายอนุชา กล่าว

ฉีดวัคซีนแล้ว 46,598 เข็ม

ในวันเดียวกัน นพ. เฉวตสรร นามวาท รักษาการผู้อำนวยการกองการควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยในการแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยฉีดวัคซีนได้แล้วตามเป้าหมาย 50 เปอร์เซ็นต์

“เป้าหมายการฉีดเข็มที่ 92,600 เข็ม ฉีดไปแล้ว 46,598 เข็ม ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์เรียกว่าดำเนินงานมาด้วยดีทีเดียว เริ่มฉีดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คิดว่าในเวลาหลังจากนี้ก็จะสามารถเร่งสปีดขึ้นมาได้ตามเป้าหมาย อาการไม่พึงประสงค์รุนแรง ไม่มีรายใดที่จะต้องเข้ากรรมการผู้เชี่ยวชาญ” นพ.เฉวตสรร ระบุ

ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ได้เขียนข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจของตนเอง ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “สัปดาห์หน้า เริ่มฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา วันที่ 20 มีนาคม วัคซีน ซิโนแวค 8 แสนโดส มาถึงประเทศไทย”

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด-19 รวม 317,300 โดส แบ่งเป็น ของบริษัท ซิโนแวค ไบออนเทค จำกัด จากประเทศจีน 200,000 โดส และของบริษัท แอสตราเซเนกา จากประเทศอังกฤษ/สวีเดน 117,300 โดส โดยถูกนำเข้ามายังประเทศไทย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 โดยได้เริ่มฉีดให้กับประชาชนกลุ่มแรก ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งนายอนุทิน และรัฐมนตรีใน ครม. บางคนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนจากซิโนแวคแล้ว อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งดังกล่าว เนื่องจากวัคซีนของซิโนแวค เหมาะสมสำหรับคนในช่วงอายุ 18-59 ปี

ตามแผนของรัฐบาล ในเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2564 ไทยจะนำเข้าวัคซีน 2 ล้านโดส จากซิโนแวค มูลค่า 1,228 ล้านบาท และอีก 26 ล้านโดส และจากแอสตราเซเนกา มูลค่า 6,049 ล้านบาท และ ครม. เพิ่งอนุมัติงบประมาณการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม 35 ล้านโดส มูลค่า 6,387 พันล้านบาท จากแอสตราเซเนกา ซึ่งจะทำให้ในปี 2564 ประเทศไทยจะมีวัคซีน 63 ล้านโดส เพียงพอสำหรับฉีดประชาชน 31.5 ล้านคน

ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 78 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ทีมโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 27,005 ราย รักษาหายแล้ว 26,234 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตสะสม 87 ราย

“ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายงานวันนี้อยู่ที่ 78 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่พบจากระบบเฝ้าระวัง 15 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 59 ราย และมีผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 4 ราย แล้วก็ผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 484 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 200 ราย ผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ก็ 684 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยที่รายงานมาก่อนหน้านี้ เป็นเพศชาย ผู้เสียชีวิตท่านนี้อายุ 88 ปีอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี มีคนในครอบครัวมีประวัติค้าขายอยู่ที่ในตลาดพรพัฒน์ คนในบ้านไม่มีการพบการติดเชื้อ” พญ. อภิสมัย กล่าว

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเชิงรุกกลุ่มผู้ติดเชื้อจากตลาด ในพื้นที่เขตบางแค ระหว่าง 11-14 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อ 224 คน จึงได้มีการสั่งปิดตลาดสิริเศรษฐนนท์, ตลาดศูนย์การค้าบางแค, ตลาดกิตติ, ตลาดภาสม, ตลาดใหม่บางแค และตลาดวันเดอร์ รวม 6 แห่ง เป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำความสะอาด

ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ชี้ว่า การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เขตบางแค กรุงเทพฯ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในเดือนเมษายน 2564 ที่จะถึงนี้

“คลัสเตอร์ที่บางแค เป็นเพียงจุดเดียวเท่านั้น ไม่ได้เอามาผูกรวมกับการพิจารณาในการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ เพียงแต่เป็นข้อพึงระลึกเท่านั้นเอง” พล.อ.ณัฐพล กล่าว