ประยุทธ์ฉีดวัคซีนโควิดสร้างมั่นใจให้ประชาชน

นนทรัฐ ไผ่เจริญ และวิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2021.03.16
กรุงเทพฯ
ประยุทธ์ฉีดวัคซีนโควิดสร้างมั่นใจให้ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 มีนาคม 2564
รัฐบาลไทย

ในวันอังคารนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาแล้ว ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบแล้วว่า วัคซีนดังกล่าวไม่มีผลข้างเคียง ในขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มเปิดให้มีการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้วเช่นกัน ยกเว้นประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งยังระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาอยู่

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา ดังที่หลายประเทศของยุโรปเกิดมีความกังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งประเทศไทย เป็นประเทศแรกนอกทวีปยุโรป ที่สั่งชะลอการฉีดวัคซีน Covid-19 ทันที หลังจากประเทศในสหภาพยุโรปหลายประเทศ รวมถึงไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ให้ชะลอการให้วัคซีน เนื่องจากมีรายงานว่าผู้รับการฉีดวัคซีนบางรายเกิดอาการลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ

และในวันจันทร์นี้ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก หน่วยงานด้านยาของยุโรป และในอีกหลายประเทศ รวมทั้ง อังกฤษ และแคนาดา ได้ประกาศว่า วัคซีนชนิดนี้ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน ประเทศไทยจึงได้ประกาศให้มีการเริ่มฉีดได้ ในวันรุ่งขึ้น

นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ยังมีรัฐมนตรีอีก 18 คน ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งของแอสตราเซเนกา และซิโนแวค อีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีสามารถเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ตามปกติ และกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ไม่พบผลข้างเคียง

“มารับการฉีดวัคซีน ซึ่งได้รับการพิจารณามาของกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ ได้มีการตรวจสอบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าและก็ไม่มีผลกระทบอะไรที่จะกระทบเรื่องของการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำหนดวันฉีดวัคซีนโควิด-19 มาแล้วสองครั้ง จากเดิมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และ วันที่ 12 มีนาคม 2564 แต่ถูกเลื่อนออกไปทั้งสองครั้ง โดยอ้างเหตุผลว่าได้รับคำเตือนจากแพทย์หลังจากที่มีรายงานช่าวว่า ผู้รับวัคซีนในหลายประเทศในยุโรปมีการอาการเส้นเลือดดำอุดตัน  

พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยก่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่าการฉีดวัคซีนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากแพทย์ให้คำยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา สามารถฉีดได้อย่างปลอดภัย โดยแพทย์ได้กำหนดให้ นายกรัฐมนตรีฉีดเข็มที่ 2 ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564

“วันนี้ ก็ถือว่าเป็นการฉีดครั้งแรก เข็มแรก วันนี้ไม่ได้ฉีดเฉพาะนายกฯ และ ครม. แต่มีข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เราจะทำการฉีดวันนี้ไปด้วย เพื่อความปลอดภัย และเกิดความมั่นใจกับประชาชนโดยรวม สิ่งที่ผมเป็นกังวลที่สุดคือ ทำอย่างไรประชาชนของเราทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงพื้นที่เสี่ยงจะได้รับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยในการแถลงข่าวหลังประชุม ครม. ว่า หลังฉีดวัคซีนทำให้สมองทำงานได้ดี ไม่มีผลกระทบใดๆ

“ยังไม่เป็นไร ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นปกตินะจ๊ะ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจ นายกฯ ก็พร้อมจะฉีดตลอดเวลา…  ผมก็เป็นตัวอย่างก่อนในการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ผมก็เร่งปริมาณฉีดให้มากยิ่งขึ้น เมื่อวันหน้าวัคซีนเข้ามามากกว่านี้ ก็จะขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย ต่อไปเมื่อวัคซีนมาครบแล้ว เราต้องฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านคน ต้องทำให้ได้ 10 ล้านโดส ทำนองนี้” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

เมื่อสุดสัปดาห์นี้ เวบไซต์บริษัท แอสตราเซเนกา อ้างผลจากการศึกษาของ European Medicines Agency ที่พบว่า วัคซีนของตนไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการการอุดตันของหลอดเลือดแดงในปอด (pulmonary embolism), การอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis – DVT) หรือ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) ไม่ว่าในกลุ่มจำเพาะอายุใด ๆ เพศใด หรือ ในภูมิภาคใดของประเทศ และระบุว่า จะมีการตีพิมพ์รายงานดังกล่าวทางเวบไซต์ในสัปดาห์ถัดไป

ในวันนี้ นพ. เฉวตสรร นามวาท รักษาการผู้อำนวยการกองการควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยในการแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขว่า วัคซีนโควิด-19 จากแอสตราเซเนกาที่ฉีดให้กับนายกฯ รัฐมนตรี และแพทย์ในวันนี้ ได้รับการยืนยันแล้วว่า ปลอดภัยแน่นอน

“เราชะลอการฉีดวัคซีนมา เพราะว่าต้องการที่จะดูหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า เมื่อมีเหตุที่อาจจะทำให้เป็นที่กังวล ประเทศอื่น ๆ ก็มีการชะลอไปเช่นกัน ก็รอไม่นาน เมื่อมีการตรวจสอบยืนยันว่า เหตุการณ์ที่สงสัยว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ สรุปว่าไม่เกี่ยวข้อง นั่นคือ เหตุการณ์ที่เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ ก็อาจจะพบได้เยอะในประชากรในทวีปยุโรป หรืออเมริกา แต่ในด้านเอเชีย พบได้น้อย เมื่อหลักฐานยืนยันว่า มั่นใจได้ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน เราก็กลับมาฉีด” นพ. เฉวตสรร กล่าว

นพ. เฉวตสรร ระบุว่า จากการศึกษาพบว่า วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 หลังจากรับวัคซีนไปแล้ว 22 วัน มีประสิทธิผล 76 เปอร์เซ็นต์ ยาวนานอย่างน้อย 90 วัน และจะมีประสิทธิผลสูงขึ้นตามการเว้นระยะระหว่างเข็มที่ 1 กับเข็มที่ 2 โดยถ้าเว้น 12 สัปดาห์ขึ้นไปจะมีประสิทธิผล 81.39 เปอร์เซ็นต์ และผลการศึกษายืนยันว่า ป้องกันโควิด-19 ป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้ 100 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ รัฐมนตรีที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 พร้อมกันกับนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อายุ 46 ปี 2. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อายุ 47 ปี 3. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม อายุ 58 ปี 4. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม อายุ 37 ปี 5. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ อายุ 58 ปี 6. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ อายุ 65 ปี 7. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อายุ 71 ปี 8. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมว.กลาโหม อายุ 64 ปี 9. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง อายุ 64 ปี

10. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อายุ 65 ปี 11. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุ 60 ปี 12. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย อายุ 62 ปี 13. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย อายุ 62 ปี 14. นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ อายุ 65 ปี และ 15. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง อายุ 69 ปี นอกจากนี้ มีรัฐมนตรีที่แจ้งชื่อเพิ่มจากที่แจ้งความประสงค์ไว้เมื่อวันที่ 15 มี.ค. คือ 16. นายเอนก เหล่าธรรมทัต รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อายุ 67 ปี และ 17. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม 18. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ขณะที่อีก 9 รัฐมนตรีที่ยังไม่ฉีดในครั้งนี้ คือ 1. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี 3. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 4. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 5. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 6. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 7. นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 8. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 9. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด-19 รวม 317,300 โดส แบ่งเป็น ของบริษัท ซิโนแวค ไบออนเทค จำกัด จากประเทศจีน 200,000 โดส และของบริษัท แอสตราเซเนกา จากประเทศอังกฤษ/สวีเดน 117,300 โดส โดยถูกนำเข้ามายังประเทศไทย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และได้เริ่มฉีดให้กับประชาชนกลุ่มแรก ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช. สาธารณสุข, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช. ศึกษาธิการ ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว

ตามแผนของรัฐบาล ในเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2564 ไทยจะนำเข้าวัคซีน 2 ล้านโดส จากซิโนแวค มูลค่า 1,228 ล้านบาท และอีก 26 ล้านโดส และจากแอสตราเซเนกา มูลค่า 6,049 ล้านบาท และ ครม. เพิ่งอนุมัติงบประมาณการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม 35 ล้านโดส มูลค่า 6,387 พันล้านบาท จากแอสตราเซเนกา ซึ่งจะทำให้ในปี 2564 ประเทศไทยจะมีวัคซีน 63 ล้านโดส เพียงพอสำหรับฉีดประชาชน 31.5 ล้านคน

รัฐอนุมัติงบศูนย์ควอรันทีนแรงงานต่างด้าว

ในวันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุม ครม. ว่า ครม. มีมติเห็นชอบให้จัดสรรงบกลาง ปี 2564 เป็นเงิน 438,075,800 บาท สำหรับจัดทำโครงการ Organizational Quarantine (OQ) สำหรับแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) จำนวน 14 แห่ง/กองร้อย เน้นพื้นที่ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จังหวัดเชียงราย จังหวัดระนอง จังหวัดสงขลา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดหนองคาย เพื่อปรับปรุงพื้นที่กองร้อยฯ เป็น OQ และยกระดับขึ้นเป็นโรงพยาบาลสนามได้ หากกระทรวงสาธารณสุข ร้องขอด้วย โดยโครงการนี้ มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 6 เดือน เมษายน-กันยายน 2564

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 149 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสม 27,154 ราย และเสียชีวิตสะสมคงที่ 87 ราย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง