ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกสมาชิกขบวนการก่อเหตุรุนแรงใต้ 34 ปี

มารียัม อัฮหมัด
2021.09.08
ปัตตานี
ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกสมาชิกขบวนการก่อเหตุรุนแรงใต้ 34 ปี เจหน้าที่ตำรวจ-ทหาร นั่งเรือยางเข้าตรวจสอบแหล่งประกอบระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบในป่าโกงกาง ที่บ้านตันหยงเปาว์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี วันที่ 10 ก.พ. 2559
เบนาร์นิวส์

แหล่งข่าวกล่าวในวันพุธนี้ว่า ศาลจังหวัดปัตตานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาสั่งจำคุกนายลุกมาน เขร็มแอ ในข้อหาก่อการร้าย-ซ่องโจร และอื่น ๆ เป็นเวลา 34 ปี ซึ่งนายลุกมานถูกดำเนินคดีหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในจังหวัดปัตตานี ได้ยึดแหล่งซ่องสุมกองกำลังกลุ่มก่อความไม่สงบในที่พื้นที่บ้านตันหยงเปาว์ เมื่อเกือบห้าปีก่อน

เจ้าหน้าที่ในจังหวัดปัตตานีที่ติดตามการดำเนินคดีนี้ กล่าวว่า ศาลจังหวัดปัตตานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ.4478/61 และคดีแดงที่ 765/62 ซึ่งมีนายลุกมาน เขร็มแอ เป็นจำเลย โดยศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในความผิดฐานก่อการร้าย ซ่องโจร, ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุกเป็นเวลา 34 ปี

นายลุกมาน ถูกจับกุมในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 กว่าสองปีหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าตรวจยึดฐานปฏิบัติการผู้ก่อการร้าย ในป่าโกงกางบ้านตันหยงเปาว์ ม.4 .ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559  โดยวันนั้น เจ้าหน้าที่จับกุมสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการได้ 1 คน คือ นายซาบาหรี เจะอาลี อายุ 30 ปี (ในขณะนั้น) พร้อมปืนลูกซองพับฐาน และกระสุน 20 นัด ซึ่งเจ้าตัวให้การสารภาพว่า ตนเป็นผู้รับผิดชอบตัดต้นไม้ขวางถนน ในการก่อความไม่สงบแต่ละครั้ง และเคยร่วมลงมือปฎิบัติการมาแล้วหลายครั้ง

เจ้าหน้าที่พบเรือนพัก 4 หลัง และวัตถุประกอบระเบิด เช่น ถังแก๊ส ดินระเบิด อุปกรณ์จุดระเบิด น้ำมันเบนซิน ส่วนประกอบอื่น ๆ อีกหลายชนิด รวมทั้งอาวุธปืนลูกซอง เครื่องกระสุน ซึ่งคาดว่าจะเอาไว้ใช้ก่อความไม่สงบ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ในขณะถูกควบคุมตัวที่ศูนย์พิทักษ์สันติ นายซาบาหรีได้ให้การซัดทอดถึงนายลุกมานว่า มีส่วนร่วมในการก่อเหตุรุนแรง ทำให้นายลุกมานถูกจับกุม และถูกดำเนินคดีดังกล่าว

ในการพิจารณาคดีนั้น จำเลยได้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาว่า ตนเองไม่ได้กระทำผิด ซึ่งการพบสารพันธุกรรมของตนในเรือนพักหลังที่สี่นั้น เป็นเพราะเรือนพักนั้นเป็นที่ที่ชาวบ้านซึ่งไปทำการประมงใช้ร่วมกัน และตนได้ไปดักปูในพื้นที่นั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าคำอุทธรณ์ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ เพราะเพิงพักทั้งสี่หลังมีลักษณะคล้ายกัน ไม่ปรากฏว่าเพิงพักหลังที่ 4 มีอุปกรณ์จับปลาหรือสัตว์น้ำ ส่อแสดงว่าเพิงพักทั้งสี่หลังมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน อีกทั้งเพิงพักหลังที่ 4 ปลูกอยู่ในป่าโกงกางซึ่งอยู่กลางน้ำ มีต้นไม้ในป่าอำพราง ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการสัญจรไปมา

เมื่อพิจารณาประกอบสถานที่ตั้ง และวัตถุพยานของกลางแล้วเชื่อว่า เป็นแหล่งหลบซ่อน พักพิง สะสมกำลังพลและอาวุธของขบวนการกู้ชาติรัฐปัตตานี ทั้งผลการซักถามจำเลยยังสอดคล้องกับคำให้การในชั้นสอบสวนที่ยอมรับว่าเข้าร่วมขบวนการคำพิพากษาศาลฎีกา ระบุ   

ในวันพุธนี้ เบนาร์นิวส์ ไม่สามารถติดต่อทนายเจ้าของคดีเพื่อขอความคิดเห็นได้

ตามฐานข้อมูลของทางการ นายลุกมาน เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสั่งการ หลบหนีมานาน 12 ปี จนถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 นายลุกมาน ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อการร้ายเมื่อปี 2544 ก่อนการปะทุของไฟใต้อีกครั้งในปี 2547 โดยได้เข้ารับการฝึกเป็นหน่วย RKK (กองกำลังปฏิบัติการ) จากโรงเรียนอิสลามบูรพา

ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับตาม ป.วิอาญา จำนวน 19 หมาย มีการบังคับใช้กฎหมายโดยตรงแล้ว 10 ราย คือ เจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 4 ราย ได้จับกุมดำเนินคดี และศาลได้ตัดสินคดีไปแล้ว 6 ราย โดยศาลฎีกาสั่งจำคุก 34 ปี 3 ราย (รวมนายลุกมาน) และยกฟ้อง 1 ราย ซึ่งคดีสิ้นสุดแล้ว นอกจากนั้น ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยอีก 2 ราย เป็นเวลา 39 ปี

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง