นักกีฬาไทย 41 คน พร้อมสู้ศึกโอลิมปิก ที่ญี่ปุ่น

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2021.07.19
กรุงเทพฯ
นักกีฬาไทย 41 คน พร้อมสู้ศึกโอลิมปิก ที่ญี่ปุ่น คนเดินผ่านสัญลักษณ์เกมส์โอลิมปิกที่ติดตั้งอยู่ใกล้สะพานนิปปองบาชิ ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
เอพี

นักกีฬาไทย 41 คน ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 แล้ว ซึ่งพล.. รณชัย มัญชุสุนทรกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้ตั้งเป้าหมายที่จะคว้าเหรียญรางวัลกลับประเทศ จากกีฬามวยสากล และเทควันโด

พล.. รณชัย เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า นักกีฬาไทยที่ผ่านการคัดเลือก และร่างกายสมบูรณ์พร้อมสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 41 คน จาก 16 ชนิดกีฬา โดยนักกีฬาได้เดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นเพื่อเตรียมการแข่งขันแล้ว

“ทั้งหมดเรามีความพร้อม เพราะเก็บตัวมานานแล้ว พร้อมเต็มที่ ความหวังของเราหวังที่จะคว้าเหรียญใด เหรียญหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นเทควันโด มวยสากล แบดมินตัน หรือกระทั่งกอล์ฟ หรือว่าเรือใบต่าง ๆ เรามีความพร้อมที่มีโอกาสคว้าเหรียญได้ในโอลิมปิกครั้งนี้” พล.. รณชัย กล่าว

ทั้งนี้ นักกีฬาไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ประกอบด้วย นักกีฬายิงปืน, ยิงเป้าบิน, ขี่ม้า, เทควันโด, จักรยาน, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, มวยสากล, กรีฑา, เทเบิลเทนนิส, เรือแคนู, เรือกรรเชียง, กอล์ฟ, ยูโด, ว่ายน้ำ และแบดมินตัน แต่เดิมมีนักกีฬาไทยผ่านการคัดเลือก 42 คน แต่ นายธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นต้องถอนตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม

กีฬาโอลิมปิก 2020 จะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2564 โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 มีนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 1.1 หมื่นคน จาก 206 ประเทศ แข่งขันกันใน 33 ชนิดกีฬา โดยนักกีฬาจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ก่อนร่วมการแข่งขัน และฝึกซ้อมเฉพาะในบริเวณที่ผู้จัดการแข่งขันกำหนดให้ ในสนามแข่งขันจะมีผู้ชมได้ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุแต่ละสนาม แต่ไม่เกิน 1 หมื่นคน

ด้าน นายฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า คาดหวังจะได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้

“ทั้งสภาพจิตใจ สภาพร่างกายเต็มร้อย แมทช์นี้เป็นโอลิมปิกที่ผมตั้งใจที่สุดในชีวิต เพราะเป็นครั้งที่สาม แล้วก็เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก็อยากจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทำผลงานให้ดีที่สุดให้มันสมกับที่เรารอคอยมา 16 ปี ในชีวิตการชกมวยสากลสมัครเล่นของผม ความกังวล (เรื่องโควิด-19) ก็ไม่มี ทางเจ้าภาพญี่ปุ่นน่าจะมีการจัดการที่ดี ก่อนเข้าสู่หมู่บ้านนักกีฬา หรือสนามแข่งก็ไม่กลัวนายฉัตร์ชัยเดชา กล่าว

ขณะที่ น.. รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย กล่าวว่า “ไม่มีอะไรง่าย อะไรยาก เพียงแต่ต้องมีสมาธิดีที่สุด ปีนี้ คือโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของเมย์ เป้าหมายคือ คว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาให้ประเทศไทยให้ได้ สภาพร่างกายถือว่า 100 เปอร์เซ็นต์ สภาพจิตใจตอนนี้เต็มร้อย

ขณะเดียวกัน นายเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย เชื่อว่า นักกีฬาเทควันโดไทยจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้ได้ หลังจากที่โอลิมปิกครั้งล่าสุดสามารถคว้ามาได้ 2 เหรียญ

“ครั้งนี้เป็นโอลิมปิกครั้งที่ 5 ผมก็มีประสบการณ์เยอะ ก็น่าจะดูแลนักกีฬาค่อนข้างดี ผมก็พยายามให้นักกีฬาเล่นสบาย ๆ ทุกครั้ง ตั้งแต่ ปี 2004 เราก็มีเป้าหมายเหรียญทองตลอด แต่ยังไม่ได้ แต่เราพยายามเต็มที่ทุกครั้ง ครั้งนี้ ไม่มีคนดู น่าจะดีกว่าการที่คนเยอะ ๆนายเช กล่าว

ด้าน นายจิตรกรรม บุษบา แฟนกีฬาชาวจังหวัดขอนแก่น อายุ 36 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า อยากเห็นนักกีฬาไทยได้รับเหรียญรางวัลจากกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้

“ผมเชียร์ให้มวยได้เหรียญทอง แต่คิดว่าเทควันโด ก็น่าจะมีลุ้น เพราะฝีมือนักกีฬาเราระดับโลก เสียดายที่ปีนี้ไม่มีนักยกน้ำหนักของเราไปแข่ง แต่กีฬาที่อาจจะได้เหรียญก็น่าจะเป็น เมย์ รัชนก จากแบดมินตัน เพราะถือว่าเป็นนักกีฬาระดับท็อปของโลก ส่วนกอล์ฟ ก็มีอดีตมือหนึ่งของโลก เม เอริยา จุฑานุกาล ก็น่าลุ้น ถ้ารักษาสมาธิดี ๆ อาจจะได้เหรียญด้วย” นายจิตรกรรม กล่าว

กีฬาโอลิมปิก เป็นมหกรรมกีฬานานาชาติ ที่เชิญนักกีฬาจากทั่วโลกเข้าแข่งขันร่วมกัน โดยจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 2439 ที่ประเทศกรีซ และจัดแต่ละครั้งห่างกัน 4 ปี โดยมีการหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพไปเรื่อย ๆ สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 29 หรือ โตเกียว 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ แต่เดิมมีกำหนดแข่งขันในปี 2563 แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ประเทศญี่ปุ่น และคณะกรรมการโอลิมปิกสากลตัดสินใจเลื่อนการแข่งขันมาจัดในปี 2564 นี้

ในอดีตประเทศไทยเคยส่งนักกีฬาเข้าร่วมโอลิมปิกมาแล้ว 17 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ โอลิมปิกที่ประเทศฟินแลนด์ ปี 2495 ถึงปัจจุบัน ไทยเคยได้เหรียญรางวัลมาแล้วทั้งสิ้น 33 เหรียญ ได้เหรียญรางวัลครั้งแรกจากกีฬามวยสากลสมัครเล่น คือ นายพเยาว์ พูนธรัตน์ เหรียญทองแดงจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศแคนาดา ปี 2519 และได้รับเหรียญทองครั้งแรกจากกีฬามวยสากลสมัครเล่นเช่นกัน โดย นายสมรักษ์ คำสิงห์ ในการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2539

ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งล่าสุด ที่ประเทศบราซิล ปี 2559 นักกีฬาไทยสามารถคว้าได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จากกีฬายกน้ำหนัก และเทควันโด

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง