ตำรวจ-ดีเอสไอ จับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ลวงหญิงลาวค้าประเวณี
2019.07.30
นราธิวาส

ในช่วงรอยต่อคืนวันจันทร์ และเช้าวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษสนธิกำลังจับกุมสมาชิกขบวนการค้ามนุษย์ชาวไทยฐานค้ามนุษย์ เพื่อมาค้าประเวณี ที่ร้านคาราโอเกะ ในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส หลังได้รับการประสานจากเอ็นจีโอ สปป.ลาว ว่า ขบวนการนี้ ได้ล่อลวงเด็กสาวชาวลาวมาค้าประเวณี
พ.ต.อ.ศุภชัย พละเดช ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวมกว่า 60 นาย เข้าจับกุม น.ส.พรพิมล แซ่ตั้น อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคายที่ 126/2562 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 หลังได้รับเบาะแสว่า ได้บังคับเด็กสาวชาวลาวมาค้าประเวณีในร้านคาราโอเกะที่อำเภอสุไหงโก-ลก
“นางสาวพรพิมล ถูกจับกุมได้ที่ร้านสบายสบายคาราโอเกะ ถนนประชาวิวัฒน์ซอย 3 ตำบลและอำเภอสุไหงโก-ลก โดยได้รับการประสานจาก พันตำรวจเอก เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย และดีเอสไอ ซึ่งแจ้งว่า วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับการประสานงานจาก องค์กรเอกชนบ้านจุดสุมสากล สปป.ลาว (Village Focus International-VFI) ให้เข้าจับกุมขบวนการที่เคยหลอกลวงเด็กสาวชาวลาวมาบังคับขายประเวณีในประเทศไทย” พ.ต.อ.ศุภชัย กล่าว
“ขบวนการนี้ เคยหลอกนางสาวคิตตี้ ชาวลาวอายุ 17 ปี ว่าให้มาทำงานร้านอาหาร โดยอ้างว่าจะจ่ายเงินเดือน 10,000-12,000 บาท แต่เมื่อมาถึงได้บังคับให้ขายประเวณี เมื่อไม่ยอมได้ใช้กำลังทุบตี ให้อดข้าวเพื่อแลกกับการร่วมหลับนอนกับลูกค้า โดยไม่ได้รับส่วนแบ่งค่าจ้าง ต่อมานางสาวคิตตี้ สามารถหนีกลับบ้านที่ลาวได้ แต่พบว่าตั้งครรภ์ และติดเชื้อซิฟิลิส บุตรที่คลอดออกมาจึงพิการ นางสาวคิตตี้จึงไปร้องผ่านเอ็นจีโอให้ช่วยเหลือดำเนินคดีนี้” พ.ต.อ.ศุภชัย กล่าวเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ศุภชัย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม. หนองคาย สามารถรวบรวมพยาน-หลักฐาน และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ 3 คน เป็นคนลาว 1 คน (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) คนไทย 2 คน คือ น.ส.พรพิมล หรือเจ๊ไหม และ น.ส.นันทนา หรือเจี๊ยบ (ไม่ทราบนามสกุล) กระทั่งกลางดึกของวันที่ 29 กรกฎาคม ต่อเนื่องวันที่ 30 กรกฎาคม นี้ จึงเข้าจับกุม น.ส.พรพิมล และช่วยเหลือเด็กสาวชาวลาวได้จำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำ น.ส.พรพิมล ให้การปฏิเสธการจัดค้าประเวณี โดยยอมรับเพียงว่า ตนเป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งนี้จริง แต่ไม่ได้บังคับเด็กสาวชาวลาวให้ค้าประเวณี โดยเด็กทั้งหมดจะรับลูกค้าเอง ในราคา 1,000-1,500 บาท แต่จะแบ่งให้ตนครั้งละ 300 บาท เป็นค่านั่งที่ร้าน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาค้ามนุษย์กับ น.ส.พรพิมล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ผู้ร่วมขบวนการอีกหนึ่งราย ปัจจุบัน ถูกจับกุม และควบคุมตัวอยู่ที่จังหวัดสงขลาแล้ว
“น.ส.นันทนา หรือเจี๊ยบ ขณะนี้ ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำจังหวัดสงขลา หลังถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นธุระจัดหาหญิงค้าบริการ ส่วนเด็กสาวชาวลาวนั้น ขณะนี้ ได้ประสานทางสหวิชาชีพทำการสอบถาม และเข้าสู่กระบวนการคัดกรองคัดแยกเหยื่อผู้ที่อาจเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ เพื่อให้ความคุ้มครองตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.เขมรินทร์ ระบุ
ก่อนหน้านี้ ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้เข้าตรวจค้นร้านคาราโอเกะเป้าหมาย 9 แห่ง ประกอบด้วย 1.ร้านชิล ชิล 2. ร้านน้องใหม่ 3. ร้านแฟนใหม่ 4. ร้านน้องพีท 5. ร้านน้องเมย์ 6. ร้านหงส์ทอง 7. ร้านดาหลา 8. ร้านแฮปปี้ และ 9. ร้านบีบี พบหญิงสาวชาวลาว 47 คน และพบการกระทำความผิดค้าประเวณี โดยหญิงสาวชาวลาวในร้านแฟนใหม่ 2 คน และร้านหงส์ทอง 1 คน รวมทั้งสิ้น มีหญิงสาวชาวลาว 50 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการตรวจค้นครั้งนั้น และเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2562 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ชปพ.ปค.) ร่วมกับ ดีเอสไอ และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ (OUR) บุกเข้าช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาว 10 คน จากสถานบริการชายแดนไทย-มาเลเซีย กลางเมืองสุไหงโก-ลก อีกด้วย