บริษัทจีนเตรียมเปิดโรงงานแปรรูปทุเรียนที่เทพา ในเดือนกรกฎาคมนี้

มาตาฮารี อิสมาแอ
2019.05.14
นราธิวาส
190514-TH-durian-800.jpg ชาวบ้านเลือกทุเรียน ที่ตลาดเทศบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี วันที่ 24 ก.ค. 2561
ภิมุข รักขนาม/เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า บริษัท ม่านกู่หว่าง ฟู้ด จำกัด จะเปิดตัวโรงงานแปรรูปทุเรียนในรูปแบบการนำผลไม้แช่แห้งแบบเยือกแข็ง (freeze-dried durian) ในพื้นที่ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฏาคม โดยสามารถสร้างงานแก่ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 1,200 อัตรา ซึ่งจะช่วยลดความวิตกให้กับชาวสวนทุเรียนในภาคใต้ลงไปได้

พลเรือตรีสมเกียรติ ได้พาหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยมโรงงานของ บริษัท ม่านกู่หว่าง ในวันนี้ โดยกล่าวว่า ได้กำหนดที่ตั้งโรงงานในอำเภอเทพา เพราะทางการได้กำหนดการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลายมิติ โรงงานที่ตั้งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ของพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้เป็นเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่

“ที่ผ่านมาเราจะมากองขายอยู่ตามสี่แยก เราไม่รู้ราคาเท่าไร เพราะราคาอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง ดังนั้น การเกิดขึ้นของโรงงานตรงนี้ รองรับผู้ว่างงานกว่า 1,200 อัตรา ที่จะมาทำงานในโรงงานแห่งนี้ อีกสองเดือนโรงงานจะเปิด พี่น้องประชาชนมีรายได้น้อย ไม่มีงาน ที่นี่จะเป็นความยั่งยืนของชาวบ้าน” เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนชาวไทยและจีน ร่วมลงทุนในการสร้างโรงงานแปรรูปทุเรียน ในรูปแบบการนำผลไม้แช่แห้งแบบเยือกแข็ง โดยใช้ชื่อว่า บริษัท ม่านกู่หว่าง ฟู้ด จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

สำหรับ บริษัท ม่านกู่หว่าง ฟู้ด จำกัด เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการนำผลไม้แช่แห้งแบบเยือกแข็งของนักลงทุนชาวจีนจากเมืองคุณหมิง ที่ชื่นชอบและหลงใหลรสชาติทุกเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเห็นโอกาสในการลงทุนเนื่องจาก ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของชาวจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะทุเรียนที่มาจากเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันคาดการณ์ว่ามีจำนวนทุเรียนเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากจำนวนความต้องการของผู้บริโภคทั้งหมดในประเทศจีน จึงได้วางแผนการลงทุนร่วมกับนักลงทุนชาวไทย โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ใช้เงินลงทุนระยะแรกกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโรงงานแช่แห้งแบบเยือกแข็งที่มีขนาดใหญ่หนึ่งในสามแห่งของประเทศไทย

คาดว่าบริษัทจะเปิดทำการ วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 นี้ ซึ่งจะสามารถรองรับผลผลิตทุเรียนได้ปีละ 12 ล้านกิโลกรัม และเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านกิโลกรัม ในปี 2563 ซึ่งจะสามารถรองรับทุเรียน 1 ใน 3 ของผลผลิตในพื้นที่ จะมีเงินหมุนเวียน 2,000 ล้านบาท

ศอ.บต. ในฐานะศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการพัฒนาได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการผลักดันโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ครอบคลุมพื้นที่อำเภอหนองจิก อำเภอเบตง และอำเภอสุไหงโกลก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาในระดับฐานราก เช่น เกษตร การแปรรูป ในระดับครัวเรือน ระดับชุมชน และเชื่อมโยงไปสู่ไปสู่การค้าการลงทุน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหนองจิก ที่มีเป้าหมายการเป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปผสมผสาน

จากการขับเคลื่อนที่ผ่านมานั้น มีผลลัพธ์การขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่สำคัญในมิติด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ พบว่าเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2561 การลงทุนของภาคเอกชนขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.6 การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ถึงร้อยละ 36.6 และภาคการเงิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 และการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางข้างต้นมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาเพื่อความมั่นคงได้ในหลายพื้นที่

ในปี 2562 นี้ มีการขยายผลไปยังพื้นที่ข้างเคียงของอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ไปยังอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง