ประชาชนร้องสถานทูตกัมพูชาหาตัววันเฉลิม ผู้ลี้ภัยไทยที่ถูกอุ้มในพนมเปญ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2020.06.08
กรุงเทพฯ
200608-TH-KH-dissident-kidnapped-1000.jpg ประชาชนร่วมยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ให้ช่วยตามหานายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ซึ่งถูกลักพาตัวจากหน้าที่พักของเขา ในกรุงพนมเปญ
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ กลุ่มประชาชนไทยได้รวมตัวเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชา และไทยดำเนินการสืบหาผู้ที่ทำการลักพาตัวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ซึ่งถูกลักพาตัวในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้ประสานไปยังรัฐบาลกัมพูชา เพื่อตามหาตัวนายวันเฉลิมแล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. กลุ่มประชาชนจำนวนกว่า 10 คนได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการตามหาตัวนายวันเฉลิม โดยมีการชูป้ายข้อความ ปราศรัย และตะโกนว่า “เซฟวันเฉลิม” ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันยังได้ระบุว่า เหตุที่คนไทยจำนวนมากต้องลี้ภัยทางการเมืองไปยังต่างประเทศ เนื่องจากการทำรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในปี 2557

“เป็นผลสืบเนื่องมาจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ปี 2557 ออกคำสั่งเผด็จการจับกุมคุมขัง ทำร้ายพลเมืองไทยที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตย จนเป็นเหตุให้มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองนับพันคน… ผู้ลี้ภัยการเมืองเหล่านี้ ไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่ผู้กระทำผิดทางกฎหมาย แต่เป็นเพราะระบอบการเมืองเผด็จการของประเทศไทยที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้มีผู้ลี้ภัยออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก” นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กล่าวที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย

“ขอเรียกร้องให้ทางการรัฐบาล อย่าเพิกเฉย ให้จับกุมคนร้าย และก็ผู้บงการทั้งหมด จากข้อมูลที่เราทราบมาว่า มีทั้งคนไทยและคนเขมรที่เป็น ทีมงานอุ้มฆ่า วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้รถยนต์กับรถตู้เป็น 3 คัน ทำกลางวันแสก ๆ ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลฮุนเซน ก็อยากให้รัฐบาลฮุนเซนนั้น อย่าเพิกเฉย… เราจึงเสียใจที่มีการอุ้มฆ่าผู้ลี้ภัย เกิดขึ้นยังประเทศลาว และกัมพูชา รู้สึกผิดหวัง ที่รัฐบาลฮุนเซนไม่เหลียวแล ไม่ดูแล หรือแม้กระทั่งปฏิเสธ การอุ้มฆ่าที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานปรากฎชัดเจน” นายสมยศ กล่าวขณะที่ยื่นหนังสือให้กับตัวแทนของ สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา

ด้าน นายเสาะ พีรี เลขานุการสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือจากกลุ่มประชาชน โดยระบุว่า จะนำข้อเรียกร้องของประชาชนไทยเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป

ก่อนหน้านี้ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม ได้ออกแถลงการณ์ในนามของครอบครัว เรียกร้องให้ผู้ที่ทำการลักพาตัวนายวันเฉลิมไป ส่งตัวนายวันเฉลิม ซึ่งเป็นที่รักของญาติคืนมาให้ครอบครัวอย่างปลอดภัย

“ดิฉันจึงขอวิงวอนมา ณ ที่นี้ ให้ผู้ที่ก่อเหตุได้โปรดปล่อยตัววันเฉลิมกลับคืนมาเถิด พวกเราจะตั้งตารอคอยอย่างไม่คิดที่จะสิ้นหวัง ขอเพียงเขากลับมาได้อย่างปลอดภัย พวกเราหวังว่าการอุ้มหาย หรือการถูกบังคับให้สูญหายในครั้งนี้จะเป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้น เราขอเรียกร้องให้องค์กรภาครัฐของไทยและองค์กรนานาชาติใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดําเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เพื่อทําให้ความจริงปรากฏ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และทําให้สังคมไทยตกอยู่ในความหวาดกลัว หวาดระแวง สิ้นหวัง เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เรารักก็ได้” น.ส.สิตานัน ระบุ

และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2563 พิจารณาเรียกหน่วยงานที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวนายวันเฉลิมมาชี้แจงและให้ข้อมูล ได้แก่ 1.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2.ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และ 3.อธิบดีกรมการกงสุล หรือผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

ในวันเดียวกัน คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ในฐานะตัวแทน NGO และภาคประชาชน ได้รวบรวมรายชื่อกว่า 300 รายชื่อยื่นต่อ สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เร่งติดตามหาตัวนายวันเฉลิม หาตัวผู้ทำการลักพาตัวนายวันเฉลิม มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการยุติการบังคับสูญหาย ยับยั้งการยุยง ปลุกปั่นบิดเบือนข้อมูล และ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (บางเขน) หลังถูกผู้สื่อข่าวทวงถามเรื่องการลักพาตัวนายวันเฉลิมว่า รัฐบาลไทยกำลังประสานกับรัฐบาลกัมพูชาในเรื่องดังกล่าวอยู่ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยังไม่ได้ประสานงานเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา และยังไม่ทราบความคืบหน้ากรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ชาวจังหวัดอุบลราชธานี อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ในปี 2557 และ เป็นอดีตผู้ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดในคดีตามพระราชบัญญติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมฯ) ปี 2561 จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ดูแลเฟซบุ๊กแฟนเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ ๆ” ซึ่งเขียนข้อความใส่ร้ายรัฐบาล โดยนายวันเฉลิมได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศลาว เมื่อปี 2557 และย้ายไปอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชาในเวลาต่อมา ก่อนจะถูกลักพาตัวโดยกลุ่มบุคคลติดอาวุธ จากหน้าที่พักในกรุงพนมเปญ

การลักพาตัววันเฉลิม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์-วิจารณ์อย่างมากมายบนอินเทอร์เน็ต และได้เกิดแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม บนทวิตเตอร์ ที่มีผู้เขียนข้อความด้วยแฮชแท็กดังกล่าว กว่า 1 ล้านครั้ง มีองค์กรสิทธิมนุษยชน และองค์กรนักศึกษา-นักเรียนหลายองค์กร ประชาชน และบุคคลมีชื่อเสียงจำนวนมากร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลไทย และกัมพูชา ดำเนินการตามหาตัวนายวันเฉลิม และชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง