ตำรวจแถลงจับ 2 มาเลเซีย ขนยาไอซ์ 200 กิโลกรัม ในพื้นที่สงขลา

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2017.08.23
กรุงเทพฯ
TH-drugs-620 พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปราบปรามยาเสพติด(แจ็คเก็ตดำ) และพล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปราบปราม ร่วมแถลงผลการจับกุมยาไอซ์ และผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 2 คน ที่กองบัญชาการปราบปราม กรุงเทพฯ วันที่ 23 ส.ค. 2560
เบนาร์นิวส์

ในวันพุธ (23 สิงหาคม 2560) นี้ ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ร่วมแถลงข่าวจับกุมนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย 2 ราย พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 200 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.สมหมายระบุว่า ยาไอซ์จำนวนนี้หากสามารถขนส่งเข้าประเทศมาเลเซียได้จะมีมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านบาท

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้ง 2 คน คือ  นายชาง เว่ย ยิน อายุ 48 ปี และนายเลา ยอง ยี อายุ 35 ปี ทั้งคู่เป็นชาวมาเลเซีย ซึ่งขนยาไอซ์น้ำหนัก 200 กิโลกรัม มูลค่า 200 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า ประเทศปลายทางของยาไอซ์จำนวนนี้คือประเทศมาเลเซีย

“ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับนายเตียว ฮุย ฮวด ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวมาเลเซียรายใหญ่ที่ถูกทางการมาเลเซียจับไปแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนมูลค่าของไอซ์ล๊อตนี้หากเข้าไปสู่ประเทศมาเลเซียได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท”  พล.ต.ท.สมหมายกล่าว

พล.ต.ท.สมหมาย ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับบุคคลทั้งสองได้ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2560 โดยนอกจากสามารถยึดยาเสพติดแล้ว เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดรถยนต์ เงินสกุลริงกิต โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร และทองคำไว้เป็นของกลางได้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเป็นที่รู้จักกว้างขวางในหมู่นักธุรกิจ โดยได้เช่าชั้น 2 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ บ.ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดสถานนวดแผนโบราณบังหน้า กว่า 7 ปี และการจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นการขยายผลจากการจับกุมนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย “ยาเสพติดรถไฟ” เมื่อปี 2559

“กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ยังลักลอบลำเลียงยาเสพติดอยู่จำนวนมาก โดยที่ผ่านมา มักอำพรางยาเสพติดด้วยการบรรจุใส่ถุงชา หรือถุงขนม ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับสินค้าส่งออกในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งทำให้สามารถอำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ในการตรวจจับที่จุดผ่านแดนได้” พล.ต.ท.สมหมายกล่าวเพิ่มเติม

ด้าน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การสกัดจับนักค้ายาเสพติด 2 รายดังกล่าว เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ในหลายท้องที่ และการทำงานข่าว

“ตำรวจได้รับแจ้งจากสายว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้กำลังลำเลียงยาเสพติดมาจากเครือข่ายทางภาคเหนือ และนัดส่งมอบยาเสพติดให้กับเครือข่ายที่ปั้มป์น้ำมันแห่งหนึ่ง จนพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ป้ายทะเบียนประเทศมาเลเซีย เข้ามาในปั้มป์ และมีรถอีกคันหนึ่งขับเข้ามา ขับนำรถออกจากปั้มป์มุ่งหน้าไปทาง อ.สะเดา จ.สงขลา ตำรวจจึงขับรถติดตามก่อนแสดงตัวจับผู้ต้องหา และพบของกลางซ่อนอยู่ในถุงใบชา ในกระสอบบริเวณเบาะหลังรถ” พ.ต.อ.จิรภพ กล่าว

“จากการตรวจสอบเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคาร พบว่าแต่ละบัญชีมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก มียอดเงินเข้า และโอนออกไปไม่ต่ำกว่าครั้งละ 1 แสน ถึง 34 ล้านบาท ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องรับโอนเงินไปบ้าง” พ.ต.อ.จิรภพ

ตามข้อมูลที่แจกให้แก่สื่อมวลชนของกองบัญชาการตำรวจปรามปรามยาเสพติด ปรากฏการจับกุมการลำเลียงยาเสพติดชนิดต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องและสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเมื่อนับถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2560 นี้ พบว่า สามารถจับกุมยาบ้าได้ถึง 77.8 ล้านเม็ด เมื่อเทียบกับทั้งปีของปี 2558 ที่จับได้ 40.4 ล้านเม็ด ในขณะที่จับยาไอซ์ได้ 3,127 กิโลกรัม เทียบกับ 584 กิโลกรัม ส่วนเฮโรอีน จับกุมในปี 2560 ได้ 117 กิโลกรัม เทียบกับ 56 กิโลกรัมในปี 2558 ทั้งปี

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง