นายกรัฐมนตรีขอเวลาอีกหนึ่งปีครึ่ง เพื่อการปฏิรูปประเทศขั้นที่สอง
2015.12.23
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในการปิดการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันพุธที่ 23 ธ.ค. โดยมีนัยยะสำคัญว่า จะใช้เวลาปฏิรูปประเทศในขั้นตอนที่สองอีกเป็นเวลาหนึ่งปีหกเดือน ก่อนจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ประมาณกลางปี 2560
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวที่มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า อะไรที่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ในฐานะที่ตนมารับผิดชอบวันนี้ ต้องเป็นผู้นำที่ทำไม่ให้เกิดความแตกต่าง ต้องขจัดภาพความขัดแย้งออกไปทั้งหมด
ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้ทำรัฐประหารรัฐบาล ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากว่าไม่สามารถยุติปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมือง ที่ถูกประท้วงโดยกลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำได้
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า การแถลงผลงานซึ่งเป็นระยะที่สองในวันนี้นั้น ยากกว่าช่วงปีแรกในการสื่อกับคนทั้งประเทศ เราต้องยอมรับว่ามีความแตกต่างหลายอย่างด้วยกัน ทั้งอาชีพ รายได้ การศึกษา ความเข้าใจ การบิดเบือนต่างๆ ทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน จึงต้องสร้างความเข้าใจให้ได้
“ประเทศเราไม่ได้อยู่แค่ปีนี้ ปีหน้า หรือ 5 ปี แต่ต้องอยู่เป็นประวัติศาสตร์ของคนรุ่นใหม่ โดยเราเริ่มทำได้ในอีก 20 ปีที่จะไปถึงวันข้างหน้า ตนจะเริ่มต้นให้ในเวลา 1 ปี 6 เดือนที่เหลืออยู่ ว่าควรจะทำอะไร” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เวลากล่าวถึงเรื่องการบริหารประเทศในทุกเรื่อง นับตั้งแต่ระบบราชการ การจัดสรรงบประมาณ เศรษฐกิจ ระบบการคลัง เรื่องกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ความขัดแย้งทางด้านการเมือง และประชาธิปไตย และได้กล่าวย้ำว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอยู่ โดยมีต่างชาติคอยจับตามอง
“ปัจจัยภายนอกต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศจับตาดูอยู่ มีกลุ่มต่อต้านบิดเบือน ทั้งหมดมันคือปัญหา เพราะไม่ใช่สถานการณ์ปกติ วันนี้ทุกคนเรียกร้องต้องการให้เป็นปกติ เป็นประชาธิปไตย เปิดสิทธิเสรีภาพทั้งหมด ถามว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า หากจะทำให้เกิดความแตกต่างมันก็ไม่ได้ทั้งสิ้น” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
“เพราะเราทดลองกันมา 83 ปีแล้ว มีการปฏิวัติหลายครั้ง ฉะนั้นครั้งนี้อยากให้เป็นการปฏิรูปอย่างแท้จริงเพื่ออนาคตของลูกหลาน นั่นคือวัตถุประสงค์ที่ตนต้องการ” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
“สำหรับเรื่องการปฏิรูปที่ผ่านมา รัฐบาลได้เริ่มทำมาแล้วตั้งแต่ปีแรก จากนี้ เหลือเวลา 1 ปี 6 เดือน นับจากเดือน ม.ค. 2559 ถึง ก.ค.ปี 2560 เราจะวางพื้นฐานในสิ่งที่เรายังไม่ทำ และทำต่อเนื่อง อันไหนที่ทำไม่ทัน ทำไม่ได้ ก็ใส่ไปในแผนปฏิรูป”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ถ้าเรามองเพียงว่าประชาธิปไตยจะต้องมีการเลือกตั้ง มีสิทธิเสรีภาพแบบไร้ขีดจำกัด มันคงทำไม่ได้ กฎหมาย ทั้งกฎอัยการศึก และมาตรา 44 เขียนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูป ท่านก็ยังทำเสร็จแล้วก็กลายเป็นว่าตนไปละเมิดสิทธิมนุษยชน”
“วันนี้ หากเราต้องการปฏิรูปก็ต้องเสียคำว่าประชาธิปไตย ท่านไม่ได้เสียแต่ผมเสีย หาว่าผมทำให้ประเทศเสียหาย ท่านก็ต้องเสียด้วย ผมก็ต้องขอโทษ ต้องขอโทษที่เข้ามาเอง แต่ผมก็จะใช้เวลาอยู่ให้ได้ นโยบายการปฏิบัติขับเคลื่อนก็ว่าไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ในวันนี้ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยแก่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการว่า ขณะนี้ได้พิจารณาโครงสร้างของวุฒิสภาเสร็จสิ้นแล้ว โดยจะแบ่งวุฒิสมาชิกตามกลุ่มวิชาชีพ 20 กลุ่ม ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดและวิธีการเลือกตั้ง สว. ทางอ้อม ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิกต่อไป
เท่าที่ตรวจดูการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีกี่มาตรา คงต้องพิจารณาหลักการ และเนื้อหาให้เสร็จก่อน นายมีชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายมีชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องบัญญัติการนิรโทษกรรมให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพราะเป็นสูตรที่ต้องมีไว้ในรัฐธรรมนูญ
ในขณะเดียวกัน ที่รัฐบาลได้มีการรณรงค์เพื่อเพิ่มความนิยม เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน โดย พล.อ. ประยุทธ์ ได้แต่งเพลง "คืนความสุขให้ประเทศไทย" เมื่อก่อนหน้านี้นั้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ ได้แต่งเพลงอีกหนึ่งบท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ถือเป็นของขวัญส่วนตัวให้กับประชาชน ชื่อเพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" หมายถึง ทุกคนคือหนึ่งเดียว ที่จะต้องร่วมคิด ร่วมใจกัน เพื่ออนาคตของชาติบ้านเมือง
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเผยแพร่ผลสำรวจ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ถึงการดำเนินงานของรัฐบาล และพบว่าร้อยละ 98.9 ของ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจ และมีความมั่นใจในการทำงานของคณะรัฐบาลคสช. โดยไม่ได้เปิดเผยรูปแบบ หรือข้อผิดพลาดของผลสำรวจแต่อย่างใด เพียงกล่าวว่า เป็นการสำรวจจากประชาชน 2,700 คนทั่วประเทศ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2558