ภรรยาผู้ต้องหาคดีความไม่สงบในปัตตานี เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีศาลแพ่งสั่งยึดโรงเรียนปอเนาะ

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.12.17
TH-school-620 นางยาวาฮี แวมะนอ ถ่ายรูปคู่กับป้ายโรงเรียนปอเนาะที่ถูกศาลแพ่งสั่งยึด เพราะเกี่ยวข้องกับการฝึกสอนผู้ก่อความไม่สงบ วันที่ 17 ธ.ค. 2558
เบนานิวส์

นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของ นายดูนเลาะ แวมะนอ รองประธานสภากองกำลังทหาร ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่หนีไปอยู่ประเทศมาเลเซีย กล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ว่า ตนเตรียมยื่นอุทธรณ์ ในคดีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งยึดโรงเรียนปอเนาะที่สามีเคยเป็นครูใหญ่ ที่ได้ถูกตัดสินว่า ถูกใช้ในการฝึกสอนผู้ก่อความไม่สงบ ที่เริ่มต้นมาเมื่อตอนต้นปี 2547 และมีความรุนแรงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ ฟ.26/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาท เป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" ซึ่งนายดูนเลาะ เป็นครูใหญ่ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้าย

ขณะที่คำร้องของอัยการระบุพฤติการณ์ สรุปว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้ 2 คน ในปี 2547 ซึ่งให้การยอมรับว่าเป็นสมาชิกหน่วยคอมมานโดของกลุ่มบีอาร์เอ็น ถูกส่งตัวฝึกหลักสูตรคอมมานโด และชุดรบขนาดเล็ก (อาร์เคเค) ที่โรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" โดยมี นายอิสมาแอ หรือจิแอ มะเซ็ง เป็นผู้ควบคุมการฝึก และนายดูนเลาะ แวมะนอ หรือเป๊าะซูเลาะ เป็นครูใหญ่ของของโรงเรียน

นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของนายดูนเลาะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ในวันนี้ว่า ตนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัว เพราะที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของสามี แต่เป็นของบิดาของตน ซึ่งเมื่อยามแก่ได้ให้ตนแต่งงานกับนายดูนเลาะ ที่มาเป็นครูใหญ่ช่วยดูแลกิจการของโรงเรียน

“ถึงตอนนี้บิดาของตนได้เสียชีวิตไปแล้ว ที่ดินก็ตกเป็นของลูกๆ คือ ตัวก๊ะเอง นางปารีเดาะ เจะมะ นางหามีย๊ะ สาแลหมัน นายอาดือนัน เจะอาแซ และ นายอับดุลเลาะ เจะอาแซ ทั้ง 5 คน เป็นพี่น้องกัน ที่มีชื่อร่วมในกรรมสิทธิ์ น.ส. 3 ส่วนนายดูนเลาะไม่มีสิทธิ์ เขามาเป็นแค่ครูใหญ่” นางยาวาฮีกล่าว

“แต่ก็ได้ยังมีเวลาอีก 20 กว่าวัน ที่จะสามารถทำเรื่องอุทธรณ์ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการหารือกับครอบครัวว่าจะทำยังไงต่อกันดี” นางยาวาฮีกล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายบัลยาน แวมะนอ ลูกชายคนที่สามของนายดูนเลาะ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ เคยนั่งคิดอยู่ว่า ถ้าเขายึดจริงๆจะทำยังไง พอทราบข่าวตอนนี้สองวันแล้วนอนไม่ลง คิดว่าจะทำยังไงสงสารครอบครัวที่ต้องมาเจอเรื่องไม่เป็นธรรมแบบนี้ สงสารยายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน เขาลงป่วยทันทีเมื่อทราบข่าวนี้”

ผู้ต้องหาก่อความไม่สงบกลุ่มนายดูนเลาะรวม 36 คน ถูกดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ศกนี้ หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของไทย กล่าวให้ข้อมูลแก่เบนาร์นิวส์ว่า นายดูนเลาะ แวมะนอ อายุ 60 ปี เป็นรองประธานสภากองกำลังทหาร DPP หรือ Dewan Pimpinan Parti ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ในเมื่อเจ้าหน้าที่ปิดล้อมโรงเรียนญิฮาดวิทยา ในเดือนพฤษภาคม ปี 2548 แต่ยังมีความเคลื่อนไหวสั่งการชุดปฏิบัติการในพื้นที่โจมตีเป้าหมายทางเศรษฐกิจในสามจังหวัดชายแดนใต้ และ หลังจากที่มีการปิดล้อมตรวจค้น โรงเรียนญิฮาดวิทยาก็ถูกปิดร้าง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทั้งนี้ นายดูนเลาะ กับพวกรวม 36 คน ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานร่วมกันก่อความไม่สงบ ในช่วงวันที่ 4 ม.ค. 2547 ต่อเนื่องถึงวันที่ 4 ม.ค. 2551 โดยอัยการจังหวัดปัตตานีได้สั่งฟ้อง ทั้ง 36 คน เช่นกัน และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดปัตตานี

นอกจากนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีนายดูนเลาะ และพวกรวม 11 คน ฐานเป็นกบฏอั้งยี่ จากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2549 ใน จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี อีกด้วย

ในส่วนคดีแพ่งที่เพิ่งตัดสินไปในวันอังคารที่ 15 นี้นั้น พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมของนายดูนเลาะกับพวกแล้ว มีมติว่าที่ดินตาม น.ส.3 เป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนเกี่ยวกับการกระทำก่อการร้าย ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 3(8) จึงให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่งเรื่องให้อัยการผู้ร้อง ดำเนินการยื่นคำร้องตามขั้นตอนกฎหมาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้อง รับฟังได้ว่าที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา เกี่ยวกับการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ จึงมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ตามคำร้องอัยการ สำหรับคดีนี้ คู่ความยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ตามกฎหมายภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง

ด้าน หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่ กล่าวว่า “หลังจากมีคำสั่งดังกล่าว พบว่ามีการต่อต้านจากกลุ่มขบวนการ และยังพบว่ากลุ่มดังกล่าว มีการเตรียมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ในช่วงนี้เพื่อเป็นการตอบโต้ จึงต้องมีการจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษในจังหวัดภาคใต้”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง