ผู้ก่อความไม่สงบ สามจังหวัดแดนใต้ โหมก่อเหตุร้าย ก่อนวันครบรอบ การปราบกบฏดูซงญอ 67 ปี และ เหตุการณ์กรือเซะ

ในวันศุกร์ที่ 24 เม.ย. 2558 นี้ ผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ได้เปิดฉากการทำร้ายผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่อย่างกว้างขวาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เป็นหญิงสองราย  และบาดเจ็บอีกอย่างน้อยแปดราย ในจังหวัดยะลา  นราธิวาส  และปัตตานี

วันนี้ 24 เม.ย 2558 เจ้าหน้าที่รับแจ้ง เหตุ ชาวบ้านถูกยิง เสียชีวิต พ.ต.อ.ชาติชาย ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วยนายสนั่น สนธิเมือง นายอำเภอบันนังสตา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้า หน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บนถนนสาย เบตง- ยะลา บริเวณบ้านกาโสด อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา พบผู้เสียชีวิต เป็นหญิงชาวอาข่า 2 ราย เดินทางมาจาก จังหวัดเชียงใหม่ คือ นางบูเชอะ มาเยอะ อายุ 48 ปี มารดา และ บุตรสาว นส. บูยือ มาเยอะ อายุ 17 ปี พร้อมทั้งสัมภาระของผู้ตาย เป็นอุปกรณ์การเรียน สำหรับเปิดภาคเรียน ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ. ชาติชาย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสอง กำลังขี่จักรยานยนต์เดินทางกลับ อำเภอธารโต หลังจากเสร็จการซื้อของในตัวจังหวัดยะลา แต่ได้มีคนร้ายขับรถประกบ และ ยิงทั้งสองหลายนัด เป็นเหตุให้เสียชีวิต และขโมยจักรยานยนต์ของผู้ตายไปด้วย

ที่จังหวัดนราธิวาส  คนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณทางเข้าหาดเสด็จ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 คน ทราบชื่อคือ นายกูอารีนัน ลอยอเงาะ อายุ 38 ปี ด.ช.กูบัยฮากี ลอยอเงาะ อายุ 7 ปี  ด.ช.กูนาซาอี ลอยอเงาะ อายุ 4 ปี และ ด.ญ.กูนาเดีย ลอยอเงาะ อายุ 10 ปี ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาล นราธิวาสราชนครินทร์ โดยก่อนเกิดเหตุ นายกูอารีรัน พร้อมบุตรทั้งสามคน นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่อไปทำธุระในพื้นที่ และได้รับบาดเจ็บจากการวางระเบิดข้างทาง

เจ้าหน้าที่ทหารถูกโจมตี

ส่วนในจังหวัดปัตตานี  คนร้ายได้ลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน เส้นทางบนถนนสาย 4092 ตรงบริเวณบ้านมายอ หมู่ที่ 1 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี แรงระเบิดส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 ราย ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ทองจันทร์ เจิมทองมี ส.ท.อุดร จินดาพงษ์  อส.อาริ มีสา และ อส.มะสะกรี ตาเห ทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกนำส่งโรงพยาบาลมายอ จ.ปัตตานี

จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจำนวนสี่นาย กำลังเดินทางไปติดต่อราชการที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ในระหว่างทาง คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้จุดชนวนระเบิดที่วางไว้ริมถนน ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดแบบคเลมอร์ (claymore mine) จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร

เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ 25 ปัตตานี พบป้ายผ้าสี่เหลี่ยมสีขาว แขวนไว้กับป้ายบอกทาง ไปบ้านเตราะปลิง บ้านย่อยบ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี  เขียนข้อความด้วยปากกาสีแดง และสีน้ำเงินว่า “4 ศพ จะไม่ตายเปล่า” เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและส่งมอบให้กับหน่วยเฉพาะกิจ 25 ขยายผลต่อไป

เหตุเนื่องมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ถูกควบคุมตัว 22 ราย และในวันที่ 10 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา

คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี 4 ศพทุ่งยางแดง สรุปผู้ตายไม่ใช่แนวร่วมขบวนการก่อเหตุรุนแรง ไม่มีความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่พบข้างตัวผู้ตาย ในชั้นนี้คณะกรรมการฯไม่สามารถวินิจฉัยในประเด็นการต่อสู้กับเจ้าพนักงานได้ จึงให้เป็นหน้าที่ของการค้นหาพยานหลักฐานในชั้นกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่การข่าวเตือนเหตุรุนแรง ช่วงวันสำคัญเชิงสัญญลักษณ์

หน่วยข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า ช่วงนี้ใกล้วันครบรอบวันสำคัญเชิงสัญญลักษณ์ คือ วันที่ 28 เมษายน ที่เป็นวันครบรอบปีที่ 67 ของเหตุการณ์ปราบปรามกบฏดูซงญอ (Dusun Nyor Rebellion) อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ใน ปี พ.ศ. 2491 ที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ราว 400 คน และยังเป็นวันครบรอบ 11 ปี ของการลุกฮือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนปาตานี ที่โจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกันในปัตตานี ยะลา และสงขลา เป็นเหตุให้ฝ่ายตนเสียชีวิตรวม 108 คน ในปี พ.ศ. 2547 โดยในช่วงพลบค่ำ ได้มีผู้ก่อการเสียชีวิตภายในมัสยิดกรือเซะอีกด้วย

“ทุกปีเจ้าหน้าที่จะมีการเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นช่วงนี้ เพราะทุกปีจะเห็นว่ากลุ่มคนร้ายพยายามที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน” เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงผู้ไม่ประสงค์ออกนาม กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ประณามผู้ก่อการ

ทางด้านพันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์  โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวประณาม การกระทำที่อุกอาจของผู้ก่อความไม่สงบ

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามในการก่อเหตุโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบกับเด็กซึ่งถือเป็นพฤติกรรมแบบสุดโต่ง และไร้มนุษยธรรมที่สมควรต้องได้รับการประณามอย่างกว้างขวาง” พันเอกปราโมทย์กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“และไม่อยากให้มองว่าเป็นการกระทำในวันสำคัญเชิงสัญญลักษณ์ ทั้งนี้ เพราะกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมก่อเหตุทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในระบอบอำนาจรัฐ ทำลายระบบเศรษฐกิจ และสร้างความหวาดกลัว โดยไม่เคยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน”

“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้อย่างเด็ดขาดและยังคงแก้ปัญหาโดยใช้สันติวิธี ตามแนวทางการเมืองนำการทหาร ด้วยการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งจะเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ” พันเอกปราโมทย์กล่าว