นิติแพทย์ รพ. สงขลานครินทร์ ยืนยันผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกาย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.12.15
TH-autopsy-620 นายแพทย์กิตติศักดิ์ ศรีพงษ์ (คนที่สองจากซ้ายมือ) แถลงผลการชันสูตรศพนายอับดุลลายิ ดอเลาะต่อหน้าคณะกรรมการค้นหาข้อเท็จจริง วันที่ 15 ธ.ค. 2558
เบนาร์นิวส์

คณะนิติแพทย์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ กล่าวในวันอังคาร (15 ธ.ค. 2558) นี้ว่า แพทย์ได้ลงความเห็นว่า การเสียชีวิตของนายอับดุลลายิ ดอเลาะ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่อยู่ในระหว่างการถูกควบคุมตัว ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร ปัตตานี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนั้น เป็นการตายที่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ และไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย

โดยในวันนี้ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้มีการแถลงผลการชันสูตรศพของนายอับดุลลายิ ดอเลาะ โดยนายแพทย์กิตติศักดิ์ ศรีพงษ์ นิติแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ต่อหน้าคณะกรรมการพิสูจน์ข้อเท็จจริงสาเหตุการตายร่วมแถลงข่าว ซึ่งประกอบด้วย นายดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พล.ท.มณี จันทร์ทิพย์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานศูนย์ช่วยเหลือทนายความมุสลิม ผู้ใหญ่บ้าน และผู้แทนญาติผู้เสียชีวิต

“แพทย์ลงความเห็นว่า เป็นการตายโดยไม่สามารถระบุสาเหตุได้” นพ. กิตติศักดิ์ กล่าวต่อที่แถลงข่าว พร้อมทั้งชี้แจงว่า ญาติไม่อนุญาตให้แพทย์ตรวจสภาพศพผู้ตายได้โดยละเอียด

“ทีมแพทย์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการตรวจสอบในทุกจุดที่น่าจะเป็นข้อคำถามเพื่อแคลงความสงสัย แต่ตรวจสอบได้เฉพาะภายนอกเท่านั้น เนื่องจากทางญาติไม่อนุญาตให้มีการผ่าพิสูจน์ โดยผลการตรวจสอบร่างกายภายนอกไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด” นพ. กิตติศักดิ์ กล่าว

นอกจากนั้น นพ. กิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจเลือดไม่พบสารเสพติด และสิ่งแปลกปลอมใดๆ ทั้งนี้ ยังรอผลการตรวจสอบขั้นตอนสุดท้าย คือ การตรวจดีเอ็นเอรอยเลือดที่มือข้างซ้าย ตามร่างกาย และตามซอกเล็บต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน จึงจะทราบผล

นางกูรอสเมาะ ตูแวบือซา ภรรยานายอับดุลลายิ กล่าวในการสอบถามทางโทรศัพท์แก่เบนาร์นิวส์ในวันนี้ว่า "เหตุผลที่ไม่ผ่า เพราะเราต้องรีบนำศพกลับมาทำพิธี เพราะเชื่อว่าเขาตายหลายชั่วโมงแล้ว ตอนที่จับตอนนั้นตัวเขาแข็งหมด การผ่าศพคิดว่าต้องใช้เวลามาก และที่สำคัญการผ่าเขาอาจจะทรมาน"

ทั้งนี้ นางกูรอสเมาะ ไม่ได้กล่าวถึงผลการพิสูจน์สาเหตุการตายของสามี เนื่องจากตัวเธอเองว่ามีอาการไม่สบายอยู่

เจ้าหน้าที่ทหาร ได้ควบคุมตัวนายอับดุลลายิ ดอเลาะ อายุ 42 ปี มาจากอำเภอหนองจิก โดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก และ พรก. ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ได้มีการสอบสวนผู้ต้องหา ภายในห้องสอบสวนค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ. ปัตตานี จนกระทั่งในตอนก่อนรุ่งเช้าของวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคมนี้ พบว่านายอับดุลลายิ ได้นอนเสียชีวิตบนพรมละหมาด

นอกจากนั้น นายแพทย์กิตติศักดิ์ ศรีพงษ์ นิติแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ มอ.หาดใหญ่ ยังได้กล่าวในรายละเอียดปลีกย่อยว่า “สภาพของนัยตาจากการตรวจศพนั้น หมอเจอเยื่อบุตามีจุดเลือดออกสองจุด ซึ่งสามารถสันนิษฐานถึงสาเหตุการตายได้ในสองกรณี  กรณีแรก หากมองโลกในแง่ร้าย มาจากสาเหตุการตายที่ถูกทำให้ขาดอากาศหายใจหรือจมน้ำตาย ด้วยการถูกอุดปาก อุดจมูก และรัดคอ แต่ผลการตรวจสภาพภายในช่องปาก จมูกและบริเวณคอ ไม่พบร่องรอยการกระทำดังกล่าว”

“กรณีที่สอง หากมองโลกในแง่ดี มาจากสาเหตุหัวใจวายตายก็เป็นได้” นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ข้อข้องใจได้รับคำตอบในระดับหนึ่ง

นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า “ผลการตรวจสอบครั้งนี้ ก็ชัดเจนแล้วในประเด็นความสงสัยของการถูกทำร้ายหรือไม่ แม้จะไม่ใช่ผลการตรวจที่ครบถ้วนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เท่าที่ฟังประเด็นที่มีการแจ้งผลวันนี้ ก็มีความชัดเจนในหลายประเด็นที่ตอบคำถามที่เป็นข้อสงสัยของสังคมได้”

นายอับดุลราแม มะลาแม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก ปัตตานี หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  กล่าวว่า “เท่าที่ได้ฟังรายละเอียดของทีมแพทย์ที่ชันสูตรแล้วก็เข้าใจและไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ และจะได้นำข้อมูลไปแจ้งครอบครับผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในพื้นที่ทราบต่อไป”

นายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า ในส่วนของแพทย์ ผลการชันสูตรออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่พบบาดแผลตามร่างกายและร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นนี้น่าจะทำให้ทางญาติและหลายๆ ฝ่ายที่ติดใจสงสัยได้คลายความกังวลใจไปได้บ้าง โดยหลังจากนี้ ก็จะได้แจ้งให้กับประชาชนได้ทราบต่อไป

“ในส่วนของขั้นตอนการทำความเข้าใจของภาคประชาชนหลังจากนี้ ก็อาจต้องเข้าไปดูแลและสร้างความเข้าใจในมุมของความรู้สึกของภาคประชาชนมากกว่าที่อาจกังวลและไม่มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างน้อยในส่วนของคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นมาร่วมตรวจสอบคดีนี้ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่ามีความโปร่งใสในการทำงาน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง