ศาลอาญาจำคุกมือบึ้ม รพ.พระมงกุฎ 31 ปี

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2017.12.06
กรุงเทพฯ
171206-TH-sentence-620.jpg เจ้าหน้าที่คุมตัวนายวัฒนา ภุมเรศ ที่สำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแถลงข่าว ก่อนจับกุมในข้อกล่าวหาวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ 20 มิถุนายน 2560
เอพี

ในวันพุธนี้ (6 ธ.ค. 2560) ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก มีคำพิพากษาให้จำคุกนายวัฒนา ภุมเรศ มือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 21 คน ในข้อพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ รวมเป็นเวลา 31 ปี

ในคดีนี้ นายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เกิดระเบิดบริเวณห้อง “วงษ์สุวรรณ” โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในวันครบรอบปีที่สามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำการรัฐประหารรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยนายวัฒนา กล่าวว่า ตนกลียดทหารที่ทำการปฏิวัติ

นายวัฒนา ตกเป็นจำเลยในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ประกอบทำ มี และใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่ออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง, กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส อันตรายแก่กายฯ, มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง พา(ระเบิด)ไปในเมืองหมู่บ้านฯ ทำให้เสียทรัพย์ โดยศาลได้พิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้ว พบว่ามีน้ำหนักปราศจากข้อสงสัย เชื่อว่าจำเลย คือ นายวัฒนา ทำผิดจริงตามฟ้อง

“พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ให้จำคุกตลอดชีวิตฐานทำให้เกิดระเบิดจนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ให้จำคุก 3 ปี ฐานประกอบวัตถุระเบิดซึ่งทำให้เกิดระเบิด, ให้จำคุก 1 ปี ฐานครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ปรับเงิน 1,000 บาท ฐานพาวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จึงรวมจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน และปรับ 500 บาท พร้อมให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีครอบครองวัตถุระเบิดที่บ้านพักย่านบางเขน ที่ศาลพิพากษาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาให้จำคุก 4 ปี ปรับ 975 บาท” ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี ต่อหน้าจำเลยที่ยืนสงบนิ่งในชุดสีน้ำตาล มือและเท้าถูกตรวนด้วยโซ่ขนาดเล็ก

หลังศาลอ่านคำพิพากษา นายวัฒนา ได้ลงลายมือชื่อยอมรับคำพิพากษา พร้อมภรรยา และญาติ ที่มาให้กำลังใจ หลังจากนั้นภรรยานายวัฒนาได้โอบกอดให้กำลังใจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้คุมตัวกลับเรือนจำ โดยนายวัฒนาใช้มือบังใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาเอาไว้ ขณะเดินผ่านผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าว และไม่ตอบคำถามว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เกิดระเบิดบริเวณห้อง “วงษ์สุวรรณ” โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พร้อมทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายวัฒนา ซึ่งรับสารภาพว่า เป็นผู้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องขึ้นเอง เป็นระบบไฟฟ้าตั้งเวลาเป็นตัวจุดระเบิดประกอบกับวัตถุระเบิดแรงดันต่ำชนิดไปป์บอมบ์ และนำไปติดไว้ที่ฝาผนังห้องพักรับรองวีไอพี จนเกิดระเบิดขึ้น

พลเอก ประวิตร ยันยังไม่ปลดล็อคการเมือง

ในวันเดียวกันนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแสดงความเป็นห่วงกรณีที่รัฐบาลยังไม่ปลดล็อคทางการเมืองว่า หากล่าช้าต่อไป อาจทำให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ทัน หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็ว โดยกล่าวว่า ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 60 วัน หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ และเหลือเวลาอีก 30 วัน ที่พรรคการเมืองเดิมจะต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และหากไม่แจ้งหรือไม่ขอให้ กกต. ขยายเวลาอาจทำให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสภาพไป

ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวในประเด็นการอนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งว่า ยังไม่เห็นมีความพร้อมในการปลดล็อคดังกล่าว โดยประเด็นการปลดล็อคช้ารัฐบาลจะจัดการให้สามารถดำเนินการได้ตามกรอบของกฎหมาย โดยยืนยันว่าพรรคการเมืองทั้งหน้าใหม่และนักการเมืองหน้าเก่าจะไม่เสียโอกาส

“ผมทำตามโรดแมป” พลเอกประวิตรกล่าวกับผู้สื่อข่าว

โดยรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวต่อผู้สื่อข่าว กรณีหน้าที่ตรวจจับอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเหตุผลให้ปลดล็อคการเมืองช้าหรือไม่ ว่า “ไม่รู้ พิจารณาเอาเองแล้วกัน ตอนนี้มีการออกหมายจับกี่คน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง