ผู้ก่อความไม่สงบชายแดนใต้ ใช้ระเบิดก่อกวน ในตัวเมืองยะลายี่สิบสี่ชั่วโมง

ผู้ก่อความไม่สงบ ระดมก่อเหตุรุนแรงในอำเภอเมืองจังหวัดยะลา ด้วยการใช้ระเบิดประดิษฐ์เองขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เมื่อคืนวันที่พฤหัสบดีเป็นต้นมา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บรวมยี่สิบราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการไม่สาหัส

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเบนาร์นิวส์ ในพื้นที่เกิดเหตุ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา รายงานว่า ล่าสุด ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง ในตอนพลบค่ำของวันศุกร์นี้ ที่ร้านมะลิรุ่งเรือง ซอยมะลิ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ร้าน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้กล่าวว่า รวมเหตุการโจมตีด้วยระเบิดที่เกิดขึ้นจนถึงตอนพลบค่ำประมาณสามสิบจุด โดยเกิดระเบิดขึ้นจริงยี่สิบจุด และเจ้าหน้าที่สามารถทำลายระเบิดที่วางไว้ได้อีกสิบจุด

พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุที่เกิดต่อเนื่อง เป็นความพยายามของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการดึงมวลชนกลับสนับสนุนความพยายามในการต่อรองกับอำนาจรัฐของฝ่ายตน

“มองว่าการที่คนร้ายก่อเหตุ เพราะตลอดที่ผ่านมาเห็นว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น คนร้ายต้องสร้างสภาวะแวดล้อมให้ดูรุนแรง และต้องการดึงมวลชนกลับ” พล.ท.ปราการ กล่าว

พล.ท. ปราการ ยังกล่าวอธิบายว่า เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ สูญเสียการสนับสนุนไป เพราะว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ใช้กรอบปฏิบัติโดยสันติวิธี ทุกครั้งที่มีการจับกุม จะมีกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ทำให้ผู้ก่อการไม่สามารถแอบซ่อนตามหมู่บ้านได้ โดยสะดวกดังเช่นในอดีต

ทั้งนี้ เหตุการณ์วางระเบิดที่เริ่มมีขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ได้เล็งเป้าหมายไปที่สถานที่ที่มีความสำคัญในทางการค้า รวมทั้งธนาคารอิสลาม

นายสมพงษ์ ทองดี อายุ 50 ปี เจ้าของร้านทองดี เชื่อว่า คนร้ายได้แอบวางระเบิดเวลาที่ร้านค้าของตนเองไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ของวันพฤหัสบดี และได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันศุกร์ โดยนายสมพงษ์ได้กล่าวว่า เมื่อตอนเย็นของเมื่อวาน มีชายวัยรุ่น 2 คน เดินเข้ามาภายในร้านเพื่อซื้อเครื่องดื่ม ก่อนที่ตนจะปิดร้าน

“เชื่อว่าน่าจะเป็นสองคนนี้ ที่นำระเบิดไปซุกไว้ที่ชั้นวางสินค้า เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเข้าร้านอีก เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำเราทำไม” นายสมพงษ์ กล่าว

นางรอมียะ เจะบือซา ชาวบ้าน จ.นราธิวาส แสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุของการก่อเหตุด้วยระเบิดว่า “คงจะเป็นเรื่องคนที่ไม่เอาด้วยกับเจรจา หรืออาจเป็นเรื่องของการสั่งโยกย้ายตำรวจกรณีเข้าไปเกี่ยวกับการค้ามนุษย์โรฮีนจา มันก็น่าจะเป็นไปได้หมด”

ต่อเหตุการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2547 ทางรัฐบาล โดยคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่มี พลเอก อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะ มีแผนที่จะประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐไทย จำนวน 6 กลุ่ม ที่รวมตัวกันในนามองค์กร “องค์กรร่วมเพื่อความก้าวหน้าปาตานี” หรือ MARA Patani (Majlis-ash-Shura Patani) ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเตรียมการประชุม

สำหรับหกกลุ่มที่เข้าร่วมเป็น องค์กรร่วมเพื่อความก้าวหน้าปาตานี ประกอบด้วย กลุ่มแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมาลายู (BRN) กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติปัตตานี (BIPP) ขบวนการมูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี (GMIP) และกลุ่มย่อยขององค์กรปลดปล่อยรัฐปัตตานี (PULO) อีกสามกลุ่มย่อย ที่สำนักงานเลขานุการของคณะทำงานร่วมกระบวนการพูดคุยสันติสุข หรือ Joint Working Group-Peace Dialogue Process (JWG-PDP) ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกัน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหาจุดยืนร่วมกัน