เด็กและโค้ชทีมหมูป่าเล่าประสบการณ์ติดถ้ำ หลังออกจากโรงพยาบาล

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.07.18
เชียงราย
180718-TH-free-boar-update-620.jpg สมาชิกครอบครัวต้อนรับการกลับบ้านของ ด.ช. ดวงเพชร พรหมเทพ หนึ่งในทีมหมูป่า ที่ติดในถ้ำหลวง ที่บ้านใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
เอพี

ปรับปรุงข้อมูล เวลา 12:20 p.m. ET 2018-07-18

นักฟุตบอลเยาวชน 12 คน และผู้ฝึกสอน ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี แถลงข่าวตอบคำถามสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังจากติดอยู่ภายในถ้ำกว่าสองสัปดาห์ และถูกช่วยเหลือออกมาจากถ้ำหลวง วนอุทยานขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยช่วง 10 วันแรก เด็กทั้งหมดอาศัยเพียงน้ำหยดจากหินย้อยในถ้ำ ดื่มประทังชีวิต และใช้หินขุดผนังถ้ำเพื่อหาทางออกอีกทาง

ทั้งหมดได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และได้กลับบ้านคืนวันพุธนี้

เยาวชน อายุ 11 ถึง 16 ปี และโค้ชเอก อายุ 25 ปี ได้รับการช่วยเหลือออกจากเนินนมสาว ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำหลวงที่ลึกกว่าสี่กิโลเมตรเป็นผลสำเร็จในระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2561 โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชนของไทยและต่างชาติได้พยายามต่อสู้กับสภาพถ้ำที่มีน้ำท่วม และมีช่องทางผ่านที่คดเคี้ยวและแคบ ขณะที่มีฝนตกเพิ่มปริมาณน้ำสูงขึ้นเกือบตลอดเวลา

“เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากๆ ผมรู้สึกตกใจ .. เขาโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ผมตกใจไม่คิดว่าจะเป็นคนอังกฤษ” เด็กชายอดุลย์ สามออน กล่าวในการแถลงข่าว ขณะที่เล่าให้ฟังถึงตอนที่นักประดาน้ำอังกฤษสองคน (จอห์น โวเล็นเธน และ ริค สแตนตัน) เจอพวกตน เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561

นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก หนึ่งในผู้ประสบภัยระบุ ทีมหมูป่าทั้งหมดได้ปรึกษากันว่า จะเข้าไปเที่ยวถ้ำในวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2561 หลังจากการแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องบนดอยนางนอน เพราะว่าสมาชิกในทีมบางคนยังไม่เคยเห็นภายในถ้ำ โดยในตอนแรก ตั้งใจว่าจะเข้าไปเพียงหนึ่งชั่วโมง โดยไม่ได้มีการนำอาหารติดตัวมาด้วยเลย แต่เมื่อครบหนึ่งชั่วโมงกลับพบว่า ทางออกมีน้ำท่วม และทรายกั้นเอาไว้

"เอาตัวรอดอย่างไร ผมพาน้องๆเขาเดินหาทางออก ส่วนใหญ่ก็จะคอยดูเวลาตลอด แล้วก็หาแหล่งน้ำกินในถ้ำ น้ำจากหินย้อย น้ำก็เหมือนน้ำข้างนอก ..อาหารไม่มี.." โค้ชเอกเล่าต่อว่า ทั้งหมดปรึกษากัน เพราะไม่สามารถนอนรอเจ้าหน้าที่มาพบ หลังจากนั้นก็ขุดผนังเพื่อหาทางออก อีกปลายทางหนึ่ง โดยจะอาศัยดื่มน้ำให้อิ่มก่อน แล้วจึงไปขุด โดยสลับกันไปขุด ใช้หินขุดได้โพรงยาวประมาณ 3-4 เมตร ก่อนที่นักประดาน้ำอังกฤษจะมาพบพวกเขา

"หิวครับ หิวมากๆ ก็ไม่นึกถึงกับข้าวครับ เพราะเดี๋ยวจะทำให้ยิ่งหิวกว่าเดิมครับ ... อย่างข้าวผัดอย่างเนี่ยครับ น้ำพริกอ่องเนี่ยครับ (เรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มที่มาฟัง)" ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง วัย 11 ปี อายุน้อยที่สุดในทีมหมูป่าที่ติดถ้ำ

“ผมรู้สึกเสียใจ ประทับใจจ่าแซมที่สละชีวิตเพื่อปกป้องหมูป่าทั้งสิบสามคน ให้มีชีวิตรอดออกไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทุกคนเสียใจ คิดว่าเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวพี่จ่าเสียใจ” นายเอกพล กล่าวเมื่อถูกกล่าวถึง จ่าแซม หรือนาวาตรี สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตในภารกิจกู้ภัย ระหว่างดำน้ำขากลับ เพราะขาดอากาศหายใจ

ต่อคำถามว่า จัดลำดับการออกจากถ้ำพร้อมทีมช่วยเหลืออย่างไร ได้บทเรียนอะไรจากการติดถ้ำครั้งนี้ และอนาคตต้องการจะทำอะไร ทีมหมูป่าได้ระบุว่า การจัดลำดับเป็นไปตามความสมัครใจ บทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรประมาท และทีมหมูป่าส่วนมากต้องการที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และหน่วยซีล

“(น้องบอก) ใครออกก่อนก็ได้ ไม่ซีเรียส งั้นเอาชุดแรก เป็นสายในคือ อยู่บ้านเพียงหอม บ้านอยู่ไกลมาก พอออกไปแล้ว คิดกันว่า ให้ปั่นจักรยานกลับบ้าน ฝากไปบอกครอบครัวด้วยว่าพรุ่งนี้จะออก แล้วเตรียมกับข้าวไว้ด้วย” โค้ชเอกกล่าว

“สำหรับผมเอง ผมคิดว่าการที่เราประมาทในชีวิต มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เแต่ประสบการณ์ทำให้ผมรู้ว่า การที่พวกผมไม่คิดก่อนทำ ประมาทมันเป็นสิ่งที่จะส่งผลให้ดีหรือไม่ดี ในวันข้างหน้าผมจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ขอบคุณครับ” ด.ช.อดุลย์ สามออน กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการประสบภัย

“ผมอยากทำตามความฝันของผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แล้วก็มีอาชีพขึ้นมาเพิ่ม ก็อยากเป็นหน่วยซีลด้วยครับ” ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุขจันทร์ กล่าว คล้ายๆกับเพื่อนร่วมทีมหลายๆคน

สำหรับความรู้สึกที่ทีมหมูป่ามีต่อ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน พี่ใบเตย พี่ป้อม และพี่ไมค์ เจ้าหน้าที่ทหารนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (หน่วยซีล) ซึ่งถูกส่งเข้าไปดูแลหมูป่าทั้งหมดนั้น นักฟุตบอลเยาวชนระบุว่า รู้สึกผูกพันกับหน่วยซีลทุกคน เพราะรู้สึกเป็นเหมือนผู้ปกครองของตนเอง ขณะเดียวกัน พ.ท.นพ.ภาคย์ ระบุว่า หน่วยซีลทุกคนมีลูก ทำให้รู้สึกเอ็นดู เด็กและเยาวชนทั้งหมดเหมือนลูกของตนเอง

ต่อคำถามว่าจะไปเที่ยวในถ้ำอีกหรือไม่ ทีมหมูป่าระบุว่า จะไม่กลับไปอีกแล้ว ขณะที่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายระบุว่า การดำเนินการขอสัญชาติไทยให้กับ สมาชิกทีมหมูป่า 4 คน อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ โดยทั้งหมดได้ยื่นเอกสารเพื่อขอรับสัญชาติแล้ว

ด้าน พญ.พัชนีวรรณ อินต๊ะ จิตแพทย์ ซึ่งดูแลทีมหมูป่า ระบุว่า ทีมหมูป่ามีสภาพจิตใจอยู่ในภาวะปกติเหมือนคนทั่วไป อย่างไรก็ตามได้แนะนำข้อควรปฎิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อพูดคุยกับทีมหมูป่าว่า ควรให้ความเป็นส่วนตัวกับทีมหมูป่า และงดการให้สิทธิพิเศษต่างๆที่มากเกินไป

“อยากจะให้น้องๆกลับไปใช้ชีวิตเองให้เร็วที่สุด มีการบ้านเหมือนเดิม ไม่มีสิทธิพิเศษอะไรให้เขาอึดอัดใจ ให้มีพื้นที่ส่วนตัว ให้เขามีเวลากับครอบครัว กับโรงเรียนที่เขารัก คำถามต่างๆ ที่ลำบากใจที่จะตอบ อาจให้โอกาสน้องๆได้มีเวลาเตรียมตัว มีโอกาสปฎิเสธที่จะไม่ตอบคำถาม” พญ.พัชนีวรรณกล่าว

นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก (ซ้าย) และสมาชิกทีมหมูป่าอ่านคำไว้อาลัยบนภาพ จ่าแซม หรือ นาวาตรี สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่อาสาเข้าร่วมภารกิจกู้ภัยและเสียชีวิตในถ้ำหลวง ก่อนที่จะช่วยเด็กทีมหมูป่าออกมาได้ ระหว่างแถลงข่าวในจังหวัดเชียงราย 18 กรกฎาคม 2561 (เอพี)
นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก (ซ้าย) และสมาชิกทีมหมูป่าอ่านคำไว้อาลัยบนภาพ จ่าแซม หรือ นาวาตรี สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่อาสาเข้าร่วมภารกิจกู้ภัยและเสียชีวิตในถ้ำหลวง ก่อนที่จะช่วยเด็กทีมหมูป่าออกมาได้ ระหว่างแถลงข่าวในจังหวัดเชียงราย 18 กรกฎาคม 2561 (เอพี)

 

การถ่ายทอดสดครั้งนี้การแถลงข่าวครั้งนี้ จัดขึ้นที่ห้องประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ภายในสนามกีฬากลาง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีญาติๆ และเพื่อนร่วมทีมหมูป่ามาคอยต้อนรับ ซึ่งนักฟุตบอลและโค้ชรวม 13 คน แถลงข่าวในชุดนักฟุตบอลด้วยสีหน้าแจ่มใส ทักทายผู้คนที่เฝ้ารอ และได้เล่นฟุตบอลให้ผู้เฝ้ารอทุกคนดู

สำหรับ คำถามในการแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นคำถามที่คัดเลือกจากกว่า 100 คำถามที่สื่อมวลชนส่งให้แก่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้มีการคัดกรองโดยจิตแพทย์ เพื่อให้มีความเหมาะสม และไม่กระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจของทีมหมูป่า

การแถลงข่าวใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถือเป็นการปิดภารกิจ ค้นหา กู้ภัย และเยียวยา โดยหลังจากนี้จะมีการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทางการจังหวัดเชียงรายจะส่งทีมสหวิชาชีพไปพบ และดูแลเด็ก เพื่อให้เด็กกลับสู่สภาพการใช้ชีวิตอย่างปกติต่อไป

นักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 คน เดินทางเข้าไปในถ้ำหลวง เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 23 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทั้งชาวไทยและต่างประเทศนับพันคน จึงร่วมปฏิบัติการค้นหา ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่ยากลำบาก กระทั่งค่ำวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 นักประดาน้ำได้พบตัวนักฟุตบอลและโค้ชทั้งหมด จึงวางแผนนำตัวออกจากถ้ำ และดำเนินการพาทีมหมูป่า ออกจากถ้ำระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2561 จนทั้งหมดสามารถออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย

การปฏิบัติการนำตัวนักฟุตบอลทีมหมูป่าออกจากถ้ำ เริ่มต้นช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 โดยปฏิบัติการลำเลียงวันละ 4 คน โดยใช้นักประดาน้ำชาวต่างชาติ ร่วมกับหน่วยซีล ประมาณครั้งละ 18-20 คน และมีเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนซึ่งดำเนินงานอยู่ภายในถ้ำอีกกว่า 100 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ยากล่อมประสาทนักฟุตบอลทีมหมูป่า โดยใส่ชุดประดาน้ำและหน้ากากออกซิเจน แล้วนักประดาน้ำจึงพาตัวออกมา

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง