สถานทูตจีนตำหนินักการเมืองไทยหนุนกลุ่มแยกฮ่องกง

ในวันพฤหัสบดีนี้ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์นข้อความบนหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจ ระบุว่า มีนักการเมืองไทยบางคนสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกฮ่องกงออกจากจีน ซึ่งจีนเองเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ

เมื่อตอนเย็นวันพฤหัสบดีนี้ Chinese Embassy in Bangkok-เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความของโฆษกประจำสถานทูตจีน ซึ่งเขียนขึ้นหลังจากที่นายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหว และเลขาธิการพรรคพรรคเดโมซิสโต ของฮ่องกง โพสต์รูปถ่ายคู่กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และเขียนข้อความบนหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจของตัวเอง เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา

ซึ่งบนหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจ Chinese Embassy in Bangkok ปรากฏข้อความชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องกฎข้อบังคับ ในเรื่องห้ามสวมหน้ากาก และสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกง ที่เรื้อรังมาราวสี่เดือน โดยระบุว่า ปัจจุบัน การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีผู้มีอิทธิพลนอกประเทศ ให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงนักการเมืองไทยบางคน

“นักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีน โดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย” ข้อความบนเฟสบุ๊คแฟนเพจระบุ โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อนักการเมืองคนดังกล่าว

“ความผันผวนที่มาจากการต่อต้านการแก้ไขกฎหมายในฮ่องกงได้เปลี่ยนตัวไปอย่างสิ้นเชิง กำลังพัฒนาเป็น "การปฏิวัติสี" โดยได้รับการแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพลภายนอก กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีน ได้ใช้ประชาธิปไตยและเสรีภาพเป็นข้ออ้าง เพื่อทำลายหลักการพื้นฐานของ “หนึ่งประเทศสองระบบ" บ่อนทำลายอธิปไตยและความบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีน ซึ่งฝ่ายจีนคัดค้านอย่างเด็ดขาด… กลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนยังได้สมคบกับกลุ่มอิทธิพลภายนอก เผยแพร่ข่าวลือ บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อวัตถุประสงค์ที่มิอาจเปิดเผยของตน” ตอนหนึ่งของข้อความระบุ

ในเรื่องนี้ เบนาร์นิวส์ได้สอบถามไปยัง น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เพื่อขอความคิดเห็น และสอบถามว่าเกี่ยวกับนายธนาธร ได้พูดจาสนับสนุนนายโจชัว หว่อง หรือไม่ อย่างไร ซึ่ง น.ส.พรรณิการ์ ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่ ได้ชี้แจงให้สถานทูตจีนทราบแล้ว

“พรรคได้พูดกับสถานทูตจีนไปแล้ว ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และมีความเข้าใจกันดี ไม่มีความคิดเห็นใดๆ จากทางพรรคค่ะ” น.ส.พรรณิการ์ กล่าวสั้นๆ ผ่านทางโทรศัพท์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2562 นายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหว และเลขาธิการพรรคพรรคเดโมซิสโต โพสต์ภาพตนเอง คู่กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ บนเฟสบุ๊คแฟนเพจ 黃之鋒 Joshua Wong และเขียนข้อความระบุว่า นายธนาธร เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้ที่นั่ง ส.ส. มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของประเทศไทย ที่พยายามต่อสู้กับอำนาจทหาร

“ธนาธร เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นับตั้งแต่พรรคได้ก่อตั้งเมื่อปีก่อน ซึ่งขับเคลื่อนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และการกระจายรายได้ เขาพยายามนำทหารออกจากการเมือง และนำปัญญาชนมาเป็นรัฐบาล… ในขณะเดียวกันธนาธร ถูกรัฐบาลทหารฟ้องร้องข้อหาปลุกระดมมวลชนต่อต้านรัฐบาล” นายโจชัว เขียนข้อความเป็นภาษาจีนบนหน้าเฟสบุ๊คส่วนตัว

ภาพที่นายโจชัว ถ่ายคู่กับนายธนาธรนั้น เป็นการพบกันที่งานโอเพ่น ฟิวเจอร์ เฟสติวัล ซึ่งจัดขึ้นโดยนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2562 ซึ่งนายธนาธรเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเชิญให้ไปพูดในงาน

นอกจากนั้น นายโจชัว ยังได้โพสต์รูปคู่ทางทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พร้อมบรรยายภาพว่า “ภายใต้การกดดันอย่างหนักจากเผด็จการ เรายืนอยู่อย่างมีเอกภาพด้วยกัน”

นายโจชัว หว่อง เป็นหนึ่งในแกนนำนักศึกษา ที่มีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งของฮ่องกง ในปี 2557 ซึ่งถูกเรียกภายหลังว่า “การปฎิวัติร่ม” การเคลื่อนไหวและการปราศรัยของเขาหลายครั้งทำให้เขากลายเป็นผู้มีชื่อเสียง ในฐานะนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ ล่าสุดในเดือนเมษายน 2559 นายโจชัวได้ก่อตั้งพรรคเดโมซิสโต และเขาทำหน้าที่เลขาธิการพรรค

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 นายโจชัว หว่อง ได้รับเชิญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มาร่วมงาน “40 ปี 6 ตุลา คนรุ่นใหม่มองอนาคต” โดยมีกำหนดจะขึ้นปาฐกถาในหัวข้อ “การเมืองของคนรุ่นใหม่ของโจชัว หว่อง” ในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 ซึ่งจัดขึ้นโดยนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เมื่อนายโจชัวเดินทางมาถึงประเทศไทย ถูกเจ้าหน้าที่ไทยห้ามไม่ให้ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถูกกักตัวเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ก่อนผลักดันให้เดินทางกลับประเทศในวันเดียวกัน

“แม้ว่าผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนประเทศไทย และยังไม่แน่ใจว่าจะถูกห้ามเข้าประเทศอีกหรือไม่ แต่หวังว่าในขณะที่พลังของฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือฝ่ายเผด็จการได้ขยายไปทั่วเอเชีย-แปซิฟิค เราจะสามารถโปรโมตการแลกเปลี่ยนค่านิยมของความก้าวหน้าของระบอบประชาธิปไตยได้” นายโจชัว กล่าวในเฟสบุ๊ค