ศาลแพ่งยกฟ้องคดีทหารยิง ชัยภูมิ ป่าแส เมื่อสามปีก่อน

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2020.10.26
กรุงเทพฯ
201026-TH-court-activist-1000.jpg นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ (ขวามือ) และนางนาปอย ป่าแส (ถัดมาทางซ้ายมือ) มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกยิงเสียชีวิต พูดคุยกับผู้สื่อข่าวถึงการตัดสินคดีเรียกร้องเงินค่าชดเชย ที่ศาลแพ่ง รัชดา วันที่ 26 ตุลาคม 2563
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช/เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ ศาลแพ่ง พิพากษายกฟ้องคดีที่นางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นโจทก์ฟ้องกองทัพบก ให้ชดใช้ทางละเมิดกรณีเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองทัพบกได้วิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ที่บริเวณด่านรินหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อสามปีก่อน

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ อายุ 17 ปี (บัตรประชาชนระบุอายุ 21 ปี) ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ยิงเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ทหารให้ข้อมูลว่า ได้ขอตรวจค้นรถยนต์ที่มีนายพงศ์นัย แสงตะล้า อายุ 19 ปี เป็นผู้ขับ และนายชัยภูมิเป็นผู้โดยสาร เพื่อตรวจหายาเสพติด แต่นายชัยภูมิได้พยายามขัดขืนการจับกุม และพยายามใช้ระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว ส่วนนายพงศ์นัยถูกควบคุมไว้

ในวันจันทร์นี้ นางนาปอย แม่ของนาย ชัยภูมิ ป่าแส และ นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ผู้ก่อตั้งกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมรักษ์ลาหู่ ผู้ดูแลนายชัยภูมิ พร้อมด้วย ทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ทางฝ่ายโจทก์ ได้นำเสนอหลักฐานว่า นายชัยภูมิ เป็นคนกตัญญู และมีผลการเรียนดี เป็นนักกิจกรรมต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เคยเป็นประธานนักเรียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมขอให้เปิดบันทึกของกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ

ขณะที่ฝ่ายจำเลยนำเสนอพยาน หลักฐาน เป็นคำให้การของเพื่อนของผู้ตายที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน ในคืนเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน และ เจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ รวมถึงหลักฐานบัญชีเงินฝากของนายชัยภูมิ ที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ และบันทึกการใช้โทรศัพท์ที่พบว่ามีการติดต่อกับผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวกับยาเสพติด

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าก่อนผู้ตายเสียชีวิต ได้มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีพฤติกรรมที่รู้เห็นเป็นใจในการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในหม้อกรองอากาศ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้น ผู้ตายพยายามขัดขืนและไม่ยินยอม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดพบยาบ้า 2,800 เม็ด ซ่อนไว้ในหม้อกรองอากาศ ผู้ตายจึงหลบหนี และกำลังจะใช้ระเบิดที่มีความรุนแรงต่อชีวิตขว้างไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่จึงหยิบปืนเอ็ม-16 ยิงเข้าที่แขนซ้าย เพื่อหยุดการกระทำ ทำให้ถึงแก่ความตาย การที่พลทหารยิงผู้ตาย เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ จึงไม่ถือว่าเป็นการทำละเมิด

“จำเลยเมื่อไม่ทำละเมิดเกินกว่าเหตุ จึงไม่จำเป็นต้องชดใช้การทำละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง” คำพิพากษา ระบุ

หลังศาลอ่านคำพิพากษา นางนาปอย และ ครอบครัว เดินออกมานั่งร้องให้หน้าห้องพิจารณาคดี

“เจ็บปวดหัวใจมาก ลูกตายแล้วยังมาแพ้เรื่องการต่อสู้คดีอีก ยังไม่ยอมแพ้ ถ้ามีหนทางจะยังสู้ต่อ” นางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ กล่าวหลังฟังคำพิพากษา

ด้าน นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ กล่าวว่า “เคารพในคำพิพากษาของศาล แต่ไม่เห็นด้วย เราจะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ ภายในกำหนดระยะเวลา 1 เดือน”

“ประเด็นที่ ทหารใช้อาวุธปืนยิง ชัยภูมิ ป่าแส เพราะชัยภูมิ มีระเบิด แบบของพวก Wa State เป็นประเด็นที่เราต่อสู้มาตลอด และจะอุทธรณ์ในประเด็นนี้ว่า การใช้อาวุธปืนของทหารไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว ตามสมควรแก่เหตุ” นายรัษฎา กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“เราเห็นต่างหลายประเด็น เช่น คำให้การของนายพงศ์นัย แสงตะล้า ซึ่งนั่งมาในรถคันเดียวกับชัยภูมิ เป็นการมาให้การหลังเกิดเหตุ คดีนี้เหตุเกิด 17 มี.ค. แต่มาให้การชั้นสอบสวนประมาณสิ้นเดือนมีนาคม และ น่าสังเกตว่า ถ้ามาด้วยกันกับผู้ตาย แล้วในรถมียาเสพติดของกลาง พงศ์นัย ทำไมถึงไม่ถูกดำเนินคดีร่วมกับชัยภูมิ ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติด น่าสงสัยว่าคนหนึ่งตาย แต่อีกคนไม่ถูกดำเนินคดี” นายรัษฎา กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ผู้ก่อตั้งกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมรักษ์ลาหู่ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกช็อคกับคำพิพากษา

“ตอนนี้ คุยกันแล้วว่า มีอีก 2 ครั้ง ที่ทางเราสามารถยื่นได้ จะสู้ไหม ซึ่งแม่ก็บอกว่า คนทั้งคนตายจะปล่อยไปแบบนี้ได้เหรอ สู้ต่อนะ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ผมก็เหนื่อยมากแล้ว ถ้าเป็นชนเผ่าลาหู่เรา เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตัดสินกันเอง ชุมชนเรา ด้วยกระบวนการของชนเผ่าเรา พวกเราคงหาคนทำผิดได้แล้ว แต่ในเมื่อเรามาถึงตรงนี้ เราเชื่อมั่นในระบบ เราก็ต้องเดินทางไปให้สุดทาง เมื่อคำตัดสินออกมาเป็นแบบนี้” นายไมตรี กล่าว

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ในขณะนั้น เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ในขณะนั้น) ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 3 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุดังกล่าวเป็นการเฉพาะ

วันที่ 6 มิถุนายน 2561 ไทยพีบีเอส รายงานว่า ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้อ่านคำสั่งคดีไต่สวนการเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส ระบุว่านายชัยภูมิ ถูกพลทหารสุรศักดิ์ รัตนวรรณ สังกัดกองพันทหารม้าที่ 24 รักษาพระองค์ สระบุรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุใช้ปืนเอ็ม-16 ยิงเข้าด้านหลัง ทำให้เสียชีวิต

ส่วนญาติแย้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยินยอมเปิดเผยภาพทีวีวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แม้ได้ร้องขอไปแล้วก็ตาม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง