คนร้ายวางระเบิดพัทลุง-สตูล กว่า 10 จุด ไร้คนเจ็บ
2019.03.10
ปัตตานี
ในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดกว่า 10 จุด ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง และสตูล โดยเป็นเหตุในสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูลถึง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบก่อนการเลือกตั้ง
พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมืองสตูล เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงดึกวันเสาร์ ได้รับแจ้งเหตุระเบิด บริเวณถังขยะบนทางเท้าของถนนยาตราสวัสดี หน้าประตูทางเข้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล และบริเวณโรงจอดรถของกลางที่อยู่ระหว่างอาคาร บก.ภ.จว.สตูล กับ สภ.เมืองสตูล แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
“เหตุระเบิดเกิดขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน สร้างความแตกตื่นตกใจมาก ทำให้ต้องปิดถนนสายสตูลธานี ด้านหน้าโรงพัก รวมถึงถนนยาตราสวัสดี กันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในบริเวณสถานที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบ จักรยานยนต์ของกลางได้รับความเสียหาย 3 คัน” พ.ต.อ.พชรพล กล่าว
“ระเบิดลูกแรกคนร้ายนำมาวางไว้ที่บริเวณถังขยะ ริมรั้ว บก.ภ.จว.สตูล ส่วนลูกที่สอง บริเวณลานจอดรถด้านหลัง ห่างจากจุดแรกประมาณ 30 เมตร ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชนิดใด เพราะพบเพียงสะเก็ดระเบิด คาดว่า กลุ่มคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่” พ.ต.อ.พชรพล กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดในร้านขายของเบ็ดเตล็ด ของนางสมภัก ทองคำ พื้นที่ ม.6 ต.คลองขุด ตรงข้ามห้างแมคโคร ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล 2 ลูก และพบระเบิดถูกซุกซ่อนไว้ในพื้นที่บ้านหลังเดียวกันอีก 1 ลูก แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้และทำลายก่อนเกิดระเบิดได้
ในเวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุระเบิด 1 ครั้ง ที่ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดของนายอุดม พุทธโกศล พื้นที่ ม.4 ต.คลองขุด เยื้องกับ ปตท.หัวสะพานตายาย และสามารถเก็บกู้ระเบิดจากหน้าโรงแรมพินนาเคิลวังใหม่ อ.เมือง จ.สตูล ได้อีก 1 ลูก สรุปเขตจังหวัดสตูล พบระเบิด 7 ลูก ทำงาน 5 ลูก และเก็บกู้ได้ 2 ลูก
ขณะที่ในวันอาทิตย์ พ.ต.ท.สำเริง มาชู รอง ผกก.สภ.ปากพะยูน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุระเบิดหลายจุดในอำเภอปากพยูน จังหวัดพัทลุง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังทราบเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดเก็บกู้ระเบิดลงตรวจสอบ
“มีการลอบวางระเบิด 9 จุด จุดที่ 1 ในร้านขายของชำเลขที่ 212 หมู่ 3 ต.ดอนประดู่ จุดที่ 2 ในร้านขายของชำ เลขที่ 272/1 หมู่ 11 ต.ดอนประดู่ จุดที่ 3 ในพื้นที่ หมู่ 11 ต.ดอนประดู่ จุดที่ 4 พบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ หมู่ 9 ต.ดอนประดู่ จุดที่ 5 ภายในร้านขายรถจักรยาน เลขที่ 867/5 ต.ปากพะยูน จุดที่ 6 บริเวณหลังโรงเรียนอนุบาลปากพะยูน จุดที่ 7-9 บริเวณใกล้เคียงกับ สวนหลวง ร.9 เขตเทศบาลเมืองพัทลุง” พ.ต.ท.สำเริง กล่าว
“ตรวจพบการวางระเบิดจุดที่ 10 บริเวณรางรถไฟ บ้านไทรพร หมู่ 9 ต.ดอนประดู่ อ.เมือง ซึ่งระเบิดยังไม่ทำงาน เป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ และทำลายได้สำเร็จแล้ว” พ.ต.ท.สำเริง กล่าวเพิ่มเติม
สรุปในพื้นที่จังหวัดพัทลุง พบระเบิด 10 ลูก ทำงาน 8 ลูก และเก็บกู้ได้ 2 ลูก
สำหรับ วันที่ 10 มีนาคม ถือเป็นวันครบรอบ 110 ปี สนธิสัญญากรุงเทพ หรือสนธิสัญญาแองโกลสยาม 1909 (Anglo-Siamese treaty 1909) ซึ่งไทยต้องคืนดินแดนบางส่วนให้กับอังกฤษผู้เป็นเจ้าอาณานิคมเหนือดินแดนมาเลเซีย โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบการพ่นสีข้อความ “PATANI 110” ในบางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
สำหรับ สนธิสัญญาแองโกลสยาม มีข้อตกลงสำคัญ 6 ข้อ คือ 1. เมืองมลายู เคดะห์ กลันตัน เปอร์ลิส ตรังกานู เกาะลังกาวีและบางส่วนของรามัน-ระแงะ ให้มอบคืนแก่รัฐบาลอังกฤษ 2. บันทึกที่เคยลงนามกันระหว่างอังกฤษ-สยาม เมื่อ 6 เมษายน 1897 ให้ถือเป็นข้อตกลงลับต่อไป 3. สยามจะไม่มอบดินแดนใดๆ ให้แก่มหาอำนาจใดตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญาตามข้อ 2
4. สยามสัญญาว่า จะให้ความยุติธรรมแก่พลเมืองชาวอังกฤษในสยาม ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยแก่ตุลาการและที่ปรึกษาด้านกฏหมายที่เป็นชาวยุโรป หากจำเป็นจะต้องมีที่ดินไว้และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับชาวอังกฤษที่อยู่ในสยาม 5. รัฐมลายูของอังกฤษ จะรับผิดชอบในปัญหาหนี้สินที่หากจะมีอยู่ของเมืองมลายูที่มอบให้อังกฤษ รวมทั้งเงินกู้ต่างๆและงานก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ของสยาม และ 6. อังกฤษสัญญาว่าจะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองในดินแดนที่มอบให้กับสยาม เช่น สตูลและปาตานี ผลของสนธิสัญญานี้ส่งผลดีให้กับรัฐมลายูที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ซึ่งต่อมาได้รับเอกราช
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาไปวางซุกซ่อนในที่ต่างๆ โดยรถจักยานยนต์ที่นำมาใช้ประกอบระเบิดจุด สภ.เมืองสตูล เป็นรถซึ่งได้แจ้งหายที่ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยถูกคนร้ายปล้นแย่งชิงไปเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2561 ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่
“ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งความมั่นคง ความขัดแย้งทางการเมือง และภัยแทรกซ้อนอื่น โดยเฉพาะการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และยาเสพติดอย่างหนักในห้วงที่ผ่านมา กลุ่มก่อเหตุคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยใช้การวางแผนแบบรวมการ และปฏิบัติแบบแยกการ เพื่อสร้างความหวาดกลัว ทำลายภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก
พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสตูล และพัทลุงแล้ว โดยเตือนให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว
“นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมพื้นที่ และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง… สำหรับสาเหตุของการลอบวางระเบิดนั้น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และข้อมูลเพื่อระบุถึงสาเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่ผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในช่วงก่อนการเลือกตั้ง” พลโทวีรชน ระบุ
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ให้ความสำคัญในการติดตามเชื่อมโยงงานข่าวความเคลื่อนไหวของเครือข่ายกลุ่มบุคคลเป้าหมาย และเพิ่มความเข้มข้นมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันการก่อเหตุรุนแรงแล้ว
“คาดว่าเป็นการกระทำของเครือข่ายกลุ่มที่สูญเสียประโยชน์และต้องการทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล เรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันต่อต้านการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ และร่วมกันเฝ้าระวังความปลอดภัยทุกพื้นที่ ขอให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงดำรงความมุ่งหมายเดินหน้าในภารกิจหลัก” พล.ท.คงชีพ กล่าว