เจ้าหน้าที่ล่ามือยิงถล่ม สภ.นาประดู่ ปัตตานี

มารียัม อัฮหมัด
2019.01.14
ปัตตานี
190114-TH-killing-800.jpg คนร้ายหกคนเปิดฉากยิงเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ในป้อมยาม สภ.นาประดู่ ปัตตานี วันที่ 13 ม.ค. 2562
ภาพจากกล้องซีซีทีวีของ สภ.นาประดู่

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในวันจันทร์นี้ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ ได้เร่งติดตามหาตัวคนร้ายที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาประดู่ ในอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เสียชีวิตเมื่อตอนเที่ยงวานนี้ และได้ย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาประดู่ ไปช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า จังหวัดยะลา เพราะบกพร่องต่อหน้าที่

เมื่อวานนี้ ได้มีคนร้าย 6 คน กราดยิงใส่ป้อมยามซึ่งอยู่ทางเข้าของโรงพักนาประดู่ ทำให้ ส.ต.ท.เฉลิมพล คมขำ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในป้อมยามก่อนหลบหนีไป ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้นำตัว ส.ต.ท.เฉลิมพล ส่ง รพ.โคกโพธิ์ แต่เสียชีวิตลง เนื่องจากทนบาดแผลไม่ไหว โดยกล้องทีวีวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่ง ร.ต.อ.สมชาย ด้วงตุด รอง สว.สอบสวน สภ.นาประดู่ กล่าวว่า เชื่อคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง หวังแก้แค้นให้เพื่อนที่ถูกวิสามัญเสียชีวิตสองศพ ในเหตุปะทะกัน เมื่อวันเสาร์ (12 ม.ค. 2562) ที่ผ่านมา

"ขณะที่การติดตามผู้ก่อเหตุ ตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 สืบสวนหาตัวคนร้าย ตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย โดยยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใดหรือเกี่ยวข้องกับเหตุยิงอาสาสมัครโรงเรียนในพื้นที่หรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นการกระทำที่หวังผลหลายด้าน" พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันนี้

ทั้งนี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า "คนร้ายใช้เวลาการปฏิบัติในครั้งนี้ 32 วินาที สภ.นาประดู่ ห่างจาก กองร้อย.ทพ.4310 เพียง 1.5 กม. ขึ้นด่านตรวจ แต่ไม่พบ คาดว่ากลุ่มคนร้ายใช้เส้นทางรองในการหลบหนี"

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.อำไพ ชุ่มช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาประดู่ ไปช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า จังหวัดยะลา เนื่องจากบกพร่องในการดูแลสถานที่ ส่วนตำรวจที่เสียชีวิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาจัดการงานศพ และพิจารณาบำเหน็จ เลื่อนชั้นยศจากสิบตำรวจเอกเป็นพันตำรวจโท

เหตุสามจังหวัดชายแดนใต้ปะทุต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากการที่คนร้ายได้ยิงอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านบูโกะ ในอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย ก่อนยึดอาวุธปืนไรเฟิลไปด้วย 4 กระบอก และยังมีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกหนึ่งราย

เมื่อถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมสถานที่เป้าหมาย ที่คาดว่าเป็นคนร้ายที่ยิง อส. เสียชีวิตไปแอบซ่อนในพื้นที่บ้านท่าด่าน ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และสามารถยิงคนร้ายตายสองคนในการปะทะกัน คือ นายอับดุลเลาะ สาแม อายุ 29 ปี ข้างตัวพบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. หนึ่งกระบอก และ นายอับดุลเลาะ เจะหลง อายุ 37 ปี ข้างตัวพบอาวุธปืนอาก้า-47 หนึ่งกระบอก ฝ่ายทหารได้รับบาดเจ็บหนึ่งราย และมีเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ได้รับบาดเจ็บจากระสุนเฉี่ยวลำตัว แต่ทั้งสองมีอาการปลอดภัย

“เชื่อว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวที่ก่อเหตุยิง อส. ที่อำเภอยะรัง” ร.ต.อ.ขจรศักดิ์ เกื้อมณี รอง สว.สอบสวน สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์

เมื่อถึงวันอาทิตย์ ร.ต.อ.สมชาย ด้วงตุด รอง สว. สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า มีเหตุคนร้ายกราดยิงใส่ป้อมยาม ซึ่งอยู่ทางเข้าของโรงพักทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่า ตัวป้อมยามมีรูกระสุนปืนจำนวนมาก และตัวอาคารโรงพักมีร่องรอยกระสุนและกระจกแตกหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนกว่า 20 ปลอก ห่างจากป้อมยาม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ ส.ต.ท.เฉลิมพล กำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและตรวจบุคคลเข้าออกในโรงพักอยู่นั้น ปรากฏว่ามีคนร้ายใส่ชุดดำ จำนวน 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน เป็นพาหนะขับมาจอดด้านหน้าป้อมยาม แล้วใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้ตายทันที ส่วนคนร้ายคนอื่นๆ ยิงปืนกราดใส่เจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ และอาคารโรงพัก ทำให้เจ้าหน้าที่ต่างกระโดดหลบหาที่กำบัง หลังก่อเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกติดตามไล่ล่าคนร้ายพร้อมตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ทุกตำบล

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี กล่าวในวันจันทร์นี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่ารุนแรง ซึ่งหัวหน้าโรงพักต้องรับผิดชอบ ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับคนร้ายทั้ง 6 ราย นั้น ชุดสืบสวนสอบสวนได้ทำการแกะรอยคนร้ายแต่ละคน เกี่ยวกับพฤติกรรม รูปพรรณ เนื่องจากคนร้ายไม่ได้มีการปกปิดใบหน้า ซึ่งในช่วงก่อนมาก่อเหตุ หลังก่อเหตุ คนร้ายใช้เส้นทางเดียวกัน ซึ่งระหว่างนั้นมีพยานเห็นคนร้ายชัดเจน

"ขณะนี้ รู้ตัวแล้วทั้งหกคน โดยเฉพาะนายไซฟุตดิน หะยีปูเต๊ะ ซึ่งทั้งหกคน มีหมายจับคดีความมั่นคงทั้งหมดและเป็นระดับปฏิบัติการที่ก่อเหตุหลายคดีในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา แต่ยังไม่ขอเปิดเผย รอผลปืนออกมาให้ชัดเจนและชี้ยันว่าเป็นคนเดียวกันก็ทำขออนุมัติหมายจับทันที" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

"หลังเกิดเหตุ จนถึงล่าสุด มีการติดตามไล่ล่าคนร้ายจนถึงขณะนี้ ยังคงเปิดแผนตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการตรวจค้นเป้าหมายในสองอำเภอ คือ อ.โคกโพธิ์ และอ.สะบ้าย้อย เชื่อว่าคนร้ายน่าจะกบดานอยู่ในพื้นที่ และมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาโดยมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ได้กวดขันเจ้าหน้าที่ให้มีความเตรียมพร้อมเผชิญเหตุการณ์มากขึ้น โดยให้มีการเพิ่มจุดตรวจหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งจุดตรวจ โดยจะเริ่มในวันที่ 15 มกราคม 2562

“กำลังพลส่วนใหญ่ขาดวินัยทางยุทธวิธี เช่น ตามด่านตรวจยืนคนเดียว เล่นโทรศัพท์ ให้มีความพร้อมในเรื่องยาม พร้อมยิงสัญญาณบอกฝ่าย การตอบโต้ฉับพลัน อย่าเน้นการปฏิบัติเฉพาะกลางคืนเพราะคนร้ายไม่เลือกเวลาไม่เลือกสถานที่" พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว

ยิงว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคพลังชาติไทย ยะลาดับ

พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รอง ผู้บังคับการ สส.จชต.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.กาบัง ยะลา กล่าวว่าได้เกิดเหตุยิงนายวาริน แสงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.ยะลา เขต 2 ยะลา พรรคพลังชาติไทย และนางรอกีเยาะ สะแปอิง ภรรยา เสียชีวิต ในบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา เมื่อเวลา 21.05 น.วันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนประเด็นและสาเหตุนั้น พ.ต.อ.ประยงค์ กล่าวว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนและสืบสวน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง