ประธานชมรมพาคนกลับบ้านสุไหงโกลกถูกยิงตายคาบ้านพัก

มาตาฮารี อิสมาแอ
2017.06.30
นราธิวาส
TH-killing-620 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เข้าไปยังที่เกิดเหตุคนร้ายยิงนายไพศาล ดือราแม ประธานชมรมพาคนกลับบ้าน อำเภอสุไหงโกลก วันที่ 30 มิถุนายน 2560
มาตาฮารี อิสมาแอ/เบนาร์นิวส์

ในวันศุกร์ (30 มิถุนายน 2560) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บุกยิงประธานชมรมพาคนกลับบ้าน อำเภอสุไหงโกลก จนเสียชีวิตในบ้านพัก

ร.ต.อ.ชยุต ตุลาโชติกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโกลก กล่าวว่า ตนได้รับแจ้ง มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตคาบ้านพักเลขที่ 23 ม.3 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยุทธ์ พงศ์สันติ ผกก.สภ.สุไหงโกลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครอง รวมทั้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโกลก รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายไพศาล ดือราแม อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่หน้าโซฟาข้างหน้าต่างบันไดทางขึ้นของบ้านพัก

จากการสอบสวนทราบว่า นายไพศาล ดือราแม อายุ 56 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมพาคนกลับบ้าน อำเภอสุไหงโกลก และยังมีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาเกษตรจังหวัดนราธิวาส มีร่องรอยถูกกระสุนปืนพก ขนาด 11 ม.ม. ที่บริเวณแผ่นหลังและท้ายทอย จำนวน 4 นัด ข้างศพเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 11 ม.ม. จำนวน 4 ปลอกตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโกลก ส่งโรงพยาบาลสุไหงโกลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

“ในขณะที่ผู้ตายกำลังนั่งพิมพ์งานด้วยโน้ตบุ๊คที่โซฟา ริมหน้าต่างบันไดทางขึ้นของบ้านพักอยู่นั้น ได้มีคนร้ายสองคน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ริมถนนใหญ่ทางเข้าบ้านพัก หนึ่งในสองคนร้าย ยิงผู้ตายจำนวน 4 นัดซ้อน” ร.ต.อ.ชยุต กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาความมั่นคง จากการที่ผู้ตายเป็นประธานชมรมพาคนกลับบ้าน อำเภอสุไหงโกลก ทำให้ทางกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเกิดความไม่พอใจ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง

พันเอกปราโมทย์ พหรมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า โครงการพาคนกลับบ้าน เป็นโครงการที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจุบัน โดยมีหลักการและเหตุผลที่สำคัญ เพื่อเปิดช่องทางให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐที่ต้องการยุติการใช้ความรุนแรงมาต่อสู้ในแนวทางสันติด้วยการช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย และปรับเปลี่ยนทัศนคติ

ถึงปัจจุบัน มีผู้มอบตัวต่อทางการแล้วกว่า 4,000 ราย จากจำนวนกองกำลังผู้ก่อความไม่สงบที่ฝ่ายความมั่นคงไทย ประเมินว่ามีอยู่กว่า 9,000 ราย ซึ่งเมื่อ พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้เข้ารับตำแหน่งแม่ทัพภาค 4 ได้มอบเบอร์โทรศัพท์สายตรงให้สาธารณชนรับทราบ และแจ้งให้ผู้เห็นต่างที่อาจจะเป็นญาติ หรือคนรู้จักโทรหา เพื่อขอมอบตัว โดยทางแม่ทัพจะบินเฮลิคอปเตอร์ไปรับด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม มีประชาชนในพื้นที่วิจารณ์โครงการดังกล่าวว่า เป็นการเอาใจผู้กระทำผิดจนเกินกว่าเหตุ พร้อมกับล้อเลียนชื่อโครงการว่าเป็น “โครงการพาโจรกลับบ้าน” โดยเฉพาะหลังจากที่มีผู้สมัครร่วมโครงการฯ หนึ่งรายมีส่วนในการวางระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นี้

ในเรื่องนี้ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นโครงการที่ทางรัฐบาลทำขึ้นมาหลายปีแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่ยังไม่ได้กระทำความผิดถึงขั้นรุนแรงจนเป็นคดีทางอาญาได้มีกลับใจ ส่วนคนที่กระทำผิดนั้น แม้เข้าร่วมโครงการ ก็จะยังมีการดำเนินการทางกฎหมายอยู่ ทั้งนี้โครงการยังจะดำเนินต่อไป โดยยังไม่มีการกำหนดการยุติโครงการ

“หลายปีที่เราทำโครงการนี้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยในทางหนึ่ง... แต่มันอาจมีบางคนเท่านั้นที่อุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง” พล.อ.อุดมเดชกล่าวแก่ผู้สื่อข่าว เมื่อวันพุธนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง