ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิงในกรงปินัง ถูกยิงตายหนึ่งราย น้องสาวเจ็บหนัก

ในวันพฤหัสบดีนี้ เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิง บ้านกูแบ และน้องสาวที่เป็นเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ อำเภอกรงปินัง ยะลา เป็นเหตุให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผู้เสียชีวิต ส่วนน้องสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส

ร.ต.ท.ยชอนันต์ วุฒิ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง จ.ยะลา เปิดเผยเมื่อเวลา 14.10 น. ว่า ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสองพี่น้องได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“คนร้ายยิงสองพี่น้อง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านกูแบ หมู่ 2 ตำบลสะเอะ อำเภอกรงปินัง ที่จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนภายในสวนยางพารา พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดงจอด ตั้งขาตั้งอยู่บนถนน พบเลือดกองอยู่บนพื้นเป็นหย่อมๆ” ร.ต.ท.ยชอนันต์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ร.ต.ท.ยชอนันต์ ระบุว่า ผู้ถูกทำร้าย คือ นางมือละ เจ๊ะโซะ อายุ 46 ปี ถูกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.บริเวณหน้าอก และราวนม รวม 5 นัด และนางรอกาเยาะ ยูโซะ อายุ 45 ปี ถูกกระสุนบริเวณสะเอว และหน้าอก รวม 2 นัด มีอาการสาหัสทั้งคู่ ซึ่งได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลกรงปินัง ต่อมานางมือละ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตลง  ขณะที่นางรอกาเยาะ เจ้าหน้าที่นำส่งไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อรับการรักษาต่อไป

“จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางมือละ และ นางรอกาเยาะ ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากการประชุมที่อำเภอกรงปินัง เพื่อกลับบ้านพัก มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แต่คาดว่ารู้จักกับทั้งคู่มาดักรออยู่ข้างทาง คนร้ายได้เรียกให้ทั้งคู่หยุดรถเพื่อพูดคุย แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงตามร่างกายทั้งสองคน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก และหัวกระสุนปืน 1 หัว สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน” ร.ต.ท.ยชอนันต์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เมื่ิอวันจันทร์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ฮูเซ็น ดอราแม อายุ 60 ปี รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธร บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตในสภาพคร่อมรถจักรยานยนต์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน เอ็ม.-16 และอาก้า บริเวณลำตัวพรุนไปทั้งร่าง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบที่ศีรษะของผู้เสียชีวิตยังถูกยิงด้วยปืนลูกซอง 1 นัด บนพื้น พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก ปลอกกระสุนปืนเอ็ม.-16 และ อาก้า รวมกว่า 20 ปลอก

กอ.รมน. ภาค 4 ส่ง มะหะมะรอมือลี สาแม อดีตอุสตาซสู้ดคีความมั่นคงที่ กรุงเทพฯ

ในวันนี้ พล.อ.จตุพร กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาคที่ 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้ส่งตัว นายมะหะมะรอมือลี สาแม อดีตครูสอนศาสนาที่มีหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหากบฏ ก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ไปดำเนินคดีที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

“เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด และซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ อส. ชุดคุ้มครองตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ขณะดูแลความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านควนประทำให้ อส.เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และจากการตรวจสอบพบโทรศัพท์มือถือที่คาดว่าจะเป็นของคนร้ายตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และพบว่าผู้จดทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นเยาวชนในพื้นที่ อ.ควนโดน จ.สตูล จึงเชิญตัวเยาวชนที่จดทะเบียนซิมโทรศัพท์มาให้ข้อมูลจนทราบว่า นายมะหะมะรอมือลี ครูสอนศาสนาโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เป็นผู้ใช้ให้เปิดซิมโทรศัพท์ 2 ซิม” พล.อ.จตุพร กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เชิญตัว นายมะหะมะรอมือลี มาให้ข้อมูล จากตรวจสอบพบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับของดีเอสไอ ป.วิอาญา ศาลอาญาที่ 87/2548 วันที่ 7 มกราคม 2548 เคยมีรางวัลนำจับ 5 แสนบาท และมีหมายจับ พ.ร.ก.ศาลปัตตานี ที่ ฉฉ.130/62 วันที่ 20 กันยายน 2562 จึงได้เชิญตัวไปเข้ากระบวนการซักถามที่ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ซึ่งนายมะหะมะรอมือลี ยอมรับว่าเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ผ่านการสาบานตน ในปี 2526 ขณะเรียนที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ยะลา และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าดาแอเราะห์ หรือผู้รับผิดชอบในเขตพื้นที่ ตำบลลิดล, พร่อน, ลำใหม่, ยะลา และ ลำพะยา จ.ยะลา และหลังจากมีหมายจับจึงได้หลบหนีไปตามที่ต่างๆ จนมาเป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ จ.สตูล

“นายมะหะมะรอมือลี ยอมรับว่า ตนเองได้สั่งให้นักเรียนในโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ ไปซื้อซิมโทรศัพท์ 2 ซิม แล้วมอบให้กับนายฟาอิส หรือนายรุสลัน โต๊ะบีลา ครูสอนวิชาพละโรงเรียนเดียวกันซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวนำไปก่อเหตุ” พล.อ.จตุพร กล่าว

ขณะเดียวกันใน ที่จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายมะหะมะยะกี กะลุแป อายุ 41 ปี  ผู้ต้องสงสัยตามหมาย พรก.ฉุกเฉิน จากเหตุคนร้ายลอบวางเพลิง โรงจอดรถของบริษัทปัตตานี ฮอนด้าคาร์ จำกัด ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้รถยนต์เสียหาย 15 คัน และจักรยานยนต์ 2 คัน เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายมะหะมะยะกี สารภาพว่าตนก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง

“นายมะหะมะยะกี ได้ชี้จุดก่อเหตุที่ บริษัทปัตตานี ฮอนด้าคาร์ และให้การว่า ในคืนเกิดเหตุ ตนและพวกร่วมก่อเหตุทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกได้เข้าไปทำการจับตัว รปภ.ที่อยู่ในป้อมหน้าบริษัท จากนั้นคนร้ายอีกชุดได้บุกเข้าไปภายในโรงเก็บรถก่อนจะทำการเผารถแล้วหลบหนีไป ส่วนตนทำหน้าที่ในการเผายางบนถนน หลังจากที่รถภายในโรงรถเพลิงไหม้ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตาม"  พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 เปิดเผยแก่สื่อมวลชน

โดย พ.อ.หาญพล ระบุว่า นายมะหะมะยะกี สารภาพตนเองก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป